0
ตร.ยันได้ข้อมูลหลังไมค์แอดมินเพจล้อประยุทธ์ อย่างถูกกฎหมาย
Posted: 04 May 2016 01:51 AM PDT  (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เวบไซท์ประชาไท)
ตร.ยันได้ข้อมูลหลังไมค์แอดมินเพจ 'เรารัก พล.อ.ประยุทธ์' อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ศรีวราห์บอกยังไม่พบ 'พานทองแท้-จตุพร' เอี่ยว ด้าน บ.ก.Blognone บอกยากที่่ จนท.จะเจาะเฟซหรือได้รับการยินยอม แต่มีวิธีเข้าถึงได้โดยง่ายผ่านอุปกรณ์สื่อสารเอง เฟซบุ๊กเผยครึ่งหลังปี 58 รัฐไทยขอข้อมูล 3 แอคเคาท์ แต่เฟซบุ๊กไม่ให้ 
ภาพ ตำรวจนำผู้ต้องหาทั้ง 8 รายแถลงข่าวเมื่อวันที่ 28 เม.ย.ที่ผ่านมา
4 พ.ค.2559 จากรณีกระแสข่าวว่าเจ้าหน้าที่รัฐสามารถเข้าถึงข้อความแชทของผู้ใช้เฟซบุ๊ก โดยเริ่มจาก อานนท์ นำภา ทนายความด้านสิทธิมนุษยชน ได้ให้สัมภาษณ์กับรายการ Thaisvoicemedia ถึงกรณีผู้ต้องหา 8 ราย ที่เกี่ยวข้องกับเพจ ‘เรารัก พล.อ.ประยุทธ์’ ว่าฝ่ายความมั่นคงของทหาร สามารถเข้าถึงกล่องข้อความของเฟซบุ๊กได้ ซึ่งตนไม่แน่ใจว่าเป็นการยินยอมของทางเฟซบุ๊ก หรือเป็นการใช้เทคนิคของเจ้าหน้าที่รัฐ เพราะทุกคนยืนยันว่า ไม่ได้ให้รหัสผ่านแต่อย่างใด ต่อมาเฟซบุ๊กแฟนเพจ 'Fahroong Srikhao ฟ้ารุ่ง ศรีขาว' รายงานโดยสัมภาษณ์ หฤษฎ์ มหาทน 1 ใน 8 ผู้ต้องหาคดีดังกล่าว ว่า การแชทส่งข้อความกันทาง inbox ตอนนี้ไม่ปลอดภัยแล้ว เพราะมีเจ้าหน้าที่แคปข้อความการแชทในอินบอกซ์มาให้ดู

ตร.ยันได้ข้อมูลหลังไมค์ถูกต้องตามกฎหมาย 

วันนี้ (4 พ.ค.59) บีบีซีไทย - BBC Thai รายงานว่า พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหากระทำผิดกฎหมายอาญามาตรา 112 เพิ่มเติมแก่ หฤษฏ์ มหาทน และ ณัฏฐิกา วรธัย 2 ใน 8 แอดมินเพจ 'เรารัก พล.อ.ประยุทธ์' เมื่อวานนี้ว่าการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมนั้นมาจากหลักฐานที่เชื่อมโยงอย่างหนักแน่นเพียงพอ และเจ้าหน้าที่ตำรวจมีวิธีการได้หลักฐานเหล่านี้มาแต่ไม่สามารถตอบได้เพราะเป็นรายละเอียดในการสืบสวน อย่างไรก็ตามยืนยันว่าทำตามกรอบอำนาจหน้าที่และได้หลักฐานมาโดยถูกต้องตามกระบวนการทางกฎหมาย 

บ.ก.Blognone บอกยากที่ จนท.จะเจาะเฟซหรือได้รับการยินยอม

อิสริยะ ไพรีพ่ายฤทธิ์ โปรแกรมเมอร์และบรรณาธิการเว็บข่าวไอทีชื่อดังของไทยอย่าง Blognone ให้ความเห็นกับบีบีซีไทยว่า ในทางเทคนิคแล้วคิดว่าเป็นไปได้ยากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจของไทยจะเจาะเข้าสู่ระบบหรือได้รับความยินยอมให้เข้าสู่ระบบของเฟซบุ๊ก แต่ข้อมูลการพูดคุยและใช้งานอินเตอร์เน็ตของผู้ใช้อินเตอร์เน็ตทั่วไปนั้น มีวิธีเข้าถึงได้โดยง่ายผ่านทางอุปกรณ์สื่อสารเอง แม้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะไม่มีรหัสผ่าน (password)ของเจ้าของเครื่องก็ตาม ยิ่งหากผู้ใช้งานใช้ระบบวินโดว์ที่ไม่ได้มีการตั้งค่าความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ก็ยิ่งเข้าถึงข้อมูลได้โดยง่าย

“ในทางเทคนิคถ้าแชตผ่านคอมพิวเตอร์ ถ้าตำรวจเข้าถึงคอมพิวเตอร์หรือมือถือมันมีวิธีเข้าถึงได้ ต่อให้ผมโดนจับ และผมไม่ได้ให้รหัสอะไร ก็สามารถจะดูดข้อมูลออกมาได้ เว้นแต่อุปกรณ์รุ่นใหม่มากๆ ที่มีการเข้ารหัสข้อมูลทั้งเครื่องเอาไว้ ถ้าเป็นมือถือรุ่นเก่า ดัมพ์ข้อมูลได้ไม่ยาก ยิ่งถ้าเป็นแอนดรอยด์รุ่นเก่าๆ ก็เอาสายยูเอสบีจิ้มเข้าไปก็ดึงเข้าไปได้แล้ว แต่ผมไม่รู่ว่าคนที่ถูกฟ้องใช้อุปกรณ์อะไร” อิสริยะ กล่าว

ทั้งนี้มีอีกวิธีคือ การหลอกให้ผู้ใช้งานคลิกลิงก์ที่มีมัลแวร์ ซึ่งเมื่อมัลแวร์ฝังตัวก็จะดักข้อมูลได้หมด อิสริยะกล่าวว่า สำหรับผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตที่เริ่มห่วงกังวลเรื่องความปลอดภัยในการใช้งานโซเชียลมีเดียนั้น เขาเสนอว่า มีแอพพลิเคชั่นหลายตัวที่มีระบบความปลอดภัยที่ดี เช่น เทเลแกรม วอทส์แอพ หรือแบลกเบอรี่ ทั้งนี้ ระบบอินบอกซ์ของเฟซบุ๊กเองก็มีความปลอดภัยมากเช่นกัน เพราะมีการตั้งรหัสความปลอดภัยเป็น https ไว้

อิสริยะ  ยังกล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญคือ ตัวผู้ใช้งาน ที่อาจจะไม่ได้ตั้งค่าความปลอดภัยของอุปกรณ์ไม่ว่าจะเป็นมือถือ หรือคอมพิวเตอร์ โดยเขาแนะนำให้ผู้ใช้งานอุปกรณ์สื่อสารเปิดระบบล็อกอิน 2 ชั้นซึ่งปัจจุบันนี้สามารถทำได้โดยไปตั้งค่าในระบบ setting และสามารถทำได้กับบัญชีเฟซบุ๊ก โดยไปตั้งค่าความปลอดภัย 2 ชั้นได้ที่ระบบ setting เช่นกัน

บีบีซีไทยติดต่อไปยังเฟซบุ๊กประเทศไทย เพื่อสอบถามถึงระบบความปลอดภัยของเฟซบุ๊กจากกระแสข่าวดังกล่าว แต่ยังไม่สามารถติดต่อได้

เฟซบุ๊กเผยครึ่งหลังปี 58 รัฐไทยขอข้อมูล 3 แอคเคาท์ แต่เฟซบุ๊กไม่ให้

ขณะที่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เฟซบุ๊กเปิดเผยรายงานความโปร่งใส ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2558 (ก.ค.-ธ.ค.) ระบุว่า รัฐไทยข้อมูลผู้ใช้เฟซบุ๊กในไทยจากเฟซบุ๊กเป็นจำนวน 3 ครั้ง 3 แอคเคาท์ โดยเฟซบุ๊กไม่ได้ให้ข้อมูลดังกล่าวแม้แต่รายเดียว (0%) ทั้งนี้ เฟซบุ๊กระบุว่าจะตอบสนองต่อคำขอเกี่ยวข้องกับคดีอาญาที่มีผลตามกฎหมาย โดยจะมีการตรวจสอบความเพียงพอทางกฎหมายของแต่ละคำขอ และจะปฏิเสธหรือขอให้มีข้อมูลที่เฉพาะเจาะจงต่อคำขอที่กว้างหรือคลุมเครือเกินไป

ศรีวราห์ บอกยังไม่พบ 'พานทองแท้-จตุพร' เอี่ยวเพจล้อประยุทธ์

วันนี้ (4 พ.ค.59) สำนักข่าวไทย รายงานว่า พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า สำนวนคดีของ 8 ผู้ต้องหา คดีจัดทำเพจ 'เรารัก พล.อ.ประยุทธ์' ยังไม่พบหลักฐานที่เชื่อมโยงว่า ได้รับการสนับสนุนจาก  พานทองแท้ ชินวัตร และ จตุพร พรหมพันธุ์  เพียงแต่ในคำให้การของผู้ต้องหา มีการพาดพิงถึงบุคคลทั้งสอง ส่วนรายละเอียดสำนวนคดี ยังอยู่ระหว่างการขยายผลรวบรวมพยานหลักฐาน หาก พานทองแท้ และ จตุพร ไม่เกี่ยวข้อง ก็จะตัดประเด็นนี้ทิ้ง แต่หากมีส่วนเกี่ยวข้อง ตำรวจต้องทำตามขั้นตอนการออกหมายเรียกและหมายจับ
ส่วนกรณีการเคลื่อนไหวของ สรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ จ่านิว หากพบว่า มีการกระทำผิดกฎหมายเมื่อใดก็ตาม ตำรวจจำเป็นต้องดำเนินคดีเด็ดขาด และไม่เป็นกังวลกรณีใกล้ถึงวันลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ วันที่ 7 สิงหาคมนี้ เพราะตำรวจและหน่วยงานความมั่นคง มีความพร้อมรับมือความเคลื่อนไหว

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

 
Top