อดีตกบฏชาวฟิลิปปินส์แสดงความยิ นดีกับดูเตรเตในโอกาสชนะการเลื อกตั้ง
Posted: 15 May 2016 09:37 AM PDT (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เวบไซท์ประชาไท)
ภาพ รดริโก ดูเตรเต ประธานาธิบดีคนที่ 16 ของสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ ภาพจาก AFP
ในจดหมายของอัล ฮัจ มูราด เอบริฮิม ประธานกลุ่มเอ็มไอแอลเอฟระบุว่า “ในนามของแนวร่วมปลดปล่อยอิ สลามโมโร (MILF) และประชาชนชาวบังซาโมโร นับเป็นความปีติและยินดียิ่งที่ จะแสดงความยินดีจากใจในชัยชนะอั นเป็นประวัติศาสตร์ของท่าน”
หนังสือพิมพ์ เดอะ ฟิลิปปิน อินไควเรอร์ รายงานเมื่อวันอังคารที่ผ่ านมาว่า มูราดแสดงความมั่นใจว่ านายกเทศมนตรีที่พู ดจาโผงผางจากเมืองดาเวา เมืองใหญ่ทางตอนใต้ของประเทศ จะนำพาสันติภาพมาสู่รั ฐบาลและแนวร่วมฯ
“ถือได้ว่าเป็นชัยชนะครั้งประวั ติศาสตร์อย่างแท้จริงเพราะนี่ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ของประเทศนี้ ที่ลูกหลานจากมินนาซึ่งมีเลื อดเนื้อเชื้ อไขของชาวโมโรกลายเป็นประธานาธิ บดีคนที่ 16 ของสาธารณรัฐฟิลิปปินส์” เขากล่าว
แนวร่วมฯ ในฐานะองค์กรปฏิวัติซึ่งเป็นตั วแทนการต่อสู้ของประชาชนเพื่ อการกำหนดชะตากรรมด้วยตนเองมี ความเชื่อมั่นและหวังว่าชั ยชนะของท่านจะมาพร้อมกับความหวั งและแรงบันดาลใจของเราที่มุ่ งไปสู่สันติภาพและความยุติ ธรรมในมินดาเนา”
ดูเตรเต คริสเตียนผู้เปี่ยมศรัทธาได้สนั บสนุนกระบวนการสันติภาพกับกลุ่ มแนวร่วมปลดปล่อยอิ สลามโมโรของรัฐบาลและชาวมุสลิ มโมโรเรียกร้ องการปกครองตนเองมากยิ่งขึ้น
ในเดือนมีนาคม 2557 แนวร่วมฯ ได้ลงนามในข้อตกลงสันติภาพกับรั ฐบาลซึ่งเป็นการบรรลุของยุติ ของการเจรจาต่อรองที่ยาวนานกว่า 17 ปีและสิ้นสุดความขัดแย้งที่ใช้ กำลังอาวุธซึ่งเรื้อรังกว่ าทศวรรษในทางตอนใต้ของประเทศ
กฎหมายการปกครองตนเองที่ถูกเสนอ กฎหมายพื้นฐานบังซาโมโร (BBL: Bangsamoro Basic Law) ที่จะทำให้ข้อตกลงบรรลุผลกลับถู กพักไว้ในต้นปีที่ผ่านมาเพราะรั ฐสภาทำการรณรงค์เพื่อวันเลือกตั ้งในวันที่ 9 พฤษภาคม
กฎหมายฉบับดังกล่าวจะสถาปนาภูมิ ภาคแห่งใหม่ที่จะเข้ ามาแทนเขตปกครองตนเองในมุสลิมมิ นดาเนาและนำความมั่งคั่งซึ่งเป็ นที่ต้องการอย่างสูงเข้ามาสู่ภู มิภาคที่ร่ำรวยไปด้วยทรั พยากรในประเทศที่ขาดการพัฒนาอย่ างรุนแรง
ปลายเดือนกุมภาพันธ์ ดูเตรเตเข้าเยี่ยมฐานที่มั่ นของแนวร่วมฯ ในค่ายดาราปานัน จังหวัดมากูอินดาเนา
ระหว่างการเยือน เขาได้พูดคุยเกี่ยวกับความล้ มเหลวในการผ่านร่างกฎหมายฉบับนี ้กับรองประธานแนวร่วมฯ ฝ่ายกิจการทางการเมือง กัดซาลี จาฟาร์ และพูดถึงข้อเสนอของเขาในการสร้ างระบบสหพันธรัฐซึ่ งสถาปนาเขตปกครองสำหรับกลุ่ มชาติพันธุ์ต่างๆ ในประเทศ
เขายังกล่าวถึงความผูกพันกั บชาวมุสลิมในท้องถิ่นซึ่งกระชั บให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้ นจากการสมรสระหว่างบุ ตรชายคนโตของเขา เปาโล รองนายกเทศมนตรีเมืองดาเวากั บสตรีมุสลิมในท้องถิ่น
“ผมมีหลานทั้งที่เป็นมุสลิ มและคริสเตียน ผมจะอยากให้หลานของผมตกอยู่ ในความขัดแย้งเช่นนี้ แม้ในอนาคตหรือ?” มินดาเนาไทมส์รายงานคำกล่ าวของเขาเมื่อ มกราคม ปี 2558
“การปกป้องกฎหมายฉบับนี้ของคุ ณทั้งก่อนและระหว่างการหาเสี ยงของคุณมีส่วนอย่างยิ่ งในความเชื่อมั่นและความหวั งของประชาชนของเรา ซึ่งน่าจะทำให้เข้าใจได้ว่ าเพราะเหตุใดพวกเขาจึงให้การสนั บสนุนการลงสมัครรับเลือกตั้ งของคุณอย่างล้นหลาม” มูราด กล่าวในจดหมาย
“นั่นจึงเป็นที่ผลประโยชน์สูงสุ ดของเรา ที่การสนับสนุนสหพันธรัฐของคุ ณได้หล่อเลี้ยงความหวังของเราที ่ปรารถนาการปกครองตนเองอย่างแท้ จริงในบ้านเกิด เพื่อยุติความขัดแย้งที่กร่ อนทำลายและสร้างความไร้ระเบียบ ทั้งปลุกระดมความสุดโต่ง”
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น