ทรัมป์กล่าวปกป้องข้อเรียกร้องห้ามมุสลิมเข้าสหรัฐฯ หลังอัลชาบับนำไปใช้ทำวิดีโอปลุกระดม
นายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันลงเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวปกป้องข้อเรียกร้องของตนอีกครั้ง เรื่องที่ห้ามชาวมุสลิมเดินทางเข้าสหรัฐฯ หลังจากกลุ่มก่อการร้าย อัลชาบับ ในโซมาเลียได้นำคำพูดดังกล่าวไปใช้ทำวิดีโอปลุกระดมหาแนวร่วม
นายทรัมป์ ให้สัมภาษณ์ในรายการเฟซ เดอะ เนชั่น ของซีบีเอส นิวส์ ว่าผู้คนต่างชื่นชมที่เขากล้าหยิบยก “ปัญหา” ขึ้นมาพูดอย่างตรงไปตรงมา ในขณะที่คนอื่น ๆ เลือกที่จะนิ่งเฉย จนทำให้ปัจจุบันมีคนหันมาสนใจเรื่องนี้มากขึ้น
ข้อเรียกร้องห้ามชาวมุสลิมเข้าสหรัฐฯ ของนายทรัมป์มีขึ้นระหว่างที่เขาพูดหาเสียงเมื่อเดือนก่อน หลังเกิดเหตุกราดยิงที่เมืองซาน เบอร์นาร์ดิโน ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 14 ราย ข้อเรียกร้องดังกล่าวถูกวิจารณ์อย่างรุนแรงจากสมาชิกพรรครีพับลิกัน ทำเนียบประธานาธิบดีสหรัฐฯ และนายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอนของอังกฤษ
ส่วนนางฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตชิงตำแหน่งประธานาธิบดีชี้ว่า คำพูดของนายทรัมป์ จะทำให้เขากลายเป็นผู้ปลุกระดมหาแนวร่วมชั้นยอดให้แก่กลุ่มที่เรียกตัวเองว่ารัฐอิสลาม
สำหรับวิดีโอโฆษณาชวนเชื่อที่กลุ่มอัลชาบับ ซึ่งเป็นเครือข่ายของกลุ่มอัลไคด้า เผยแพร่ออกมาเป็นการตัดตอนคำพูดดังกล่าวของนายทรัมป์ พร้อมเรียกร้องให้ชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันเปลี่ยนไปนับถือศาสนาอิสลาม แล้วร่วมทำสงครามศักดิ์สิทธิ์ โดยชี้ว่าสหรัฐฯ เต็มไปด้วยการเหยียดเชื้อชาติและสีผิว ความรุนแรงจากน้ำมือตำรวจ และความรู้สึกต่อต้านมุสลิม
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ชาวอเมริกันเชื้อสายโซมาเลียในรัฐมินนิโซตาหลายคนได้เดินทางไปร่วมรบกับกลุ่มอัลชาบับ ซึ่งเป็นกลุ่มที่พยายามโค่นล้มรัฐบาลของโซมาเลียที่ได้รับการหนุนหลังจากชาติตะวันตก เพื่อให้ประเทศเปลี่ยนไปใช้กฎหมายอิสลามที่เข้มงวด ที่ผ่านมากลุ่มได้ก่อเหตุโจมตีในเคนยา และเอธิโอเปียหลายครั้ง
ภาพประกอบ นายทรัมป์ ขณะหาเสียงในเมืองไบลอกซี รัฐมิสซิสซิปปี เมื่อวันที่ 2 ม.ค.
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น