เลอะเทอะ ..........“รสนา”ซัด รธน.มีชัย ฉบับทุนขุนนาง เอื้อผูกขาด-เลวร้ายไม่แพ้”ทักษิโณมิกส์”
http://www.matichon.co.th/news/19926
ไม่พอใจแค่ประเด็นสิทธิชุมชน แต่ไม่สนใจเรื่องหลักการ อำนาจไม่มาจากเลือกตั้ง ศาล องค์กรอิสระไม่ยึดโยงอำนาจประชาชน ขี่คออำนาจบริหาร-นิติบัญญัติ รัฐธรรมนูญชั่วคราวอยู่เหนือรัฐธรรมนูญถาวร ม.44 ดูแลเลือกตั้ง ฯลฯ แต่นี่แหละคือวิธีคิด NGOs ไทย
http://www.matichon.co.th/news/19926
ไม่พอใจแค่ประเด็นสิทธิชุมชน แต่ไม่สนใจเรื่องหลักการ อำนาจไม่มาจากเลือกตั้ง ศาล องค์กรอิสระไม่ยึดโยงอำนาจประชาชน ขี่คออำนาจบริหาร-นิติบัญญัติ รัฐธรรมนูญชั่วคราวอยู่เหนือรัฐธรรมนูญถาวร ม.44 ดูแลเลือกตั้ง ฯลฯ แต่นี่แหละคือวิธีคิด NGOs ไทย
เชื่อหรือไม่ ปี 50 ผมเคยสัมภาษณ์รสนา ยืนยันว่าไม่รับร่าง รธน.
เธอไม่โกหกเพื่อนเก่าหรอก แต่ถ้าไม่เข้าใจวิธีคิด NGOs
ก็จะงงทำไมรสนาเป็นไปได้เพียงนั้น
(รสนานี่เป็นที่เกลียดชังอย่างมากเลยนะในพวกซ้ายเก่าด้วยกันที่เป็น "แดง"
ผมเคยไปงานศพสหายเก่า รสนาก็ไป พวกตั้งวงอยู่อีกมุมหนึงด่าหยาบๆ ภาษาบ้านๆ
ไปเลย)
NGOs ไทยได้รับอิทธิพลความคิดจากพวกซ้ายเก่าออกป่าที่หันไปเป็นอนุรักษ์นิยม (ประชาธิปไตยแบบพุทธ วัฒนธรรมชุมชน ฯลฯ ดูคำวิจารณ์ของธิกานต์ ศรีนารา ตอน 40 ปี 14 ตุลา) ปฏิเสธประชาธิปไตยรัฐสภา ต่อต้านทุนนิยม โดยไม่มองการพัฒนาทุนนิยมที่ยกชีวิตความเป็นอยู่ชาวบ้าน (ชาวบ้านก็อยากเป็นทุนนิยมนะเออ อยากมีฐานะ อยากทำมาค้าขาย อยากออกรถปิคอัพ อยากมีตังค์ซดเบียร์ ฯลฯ ชาวบ้านไม่ได้อยากมีชีวิตในแบบที่ Ngos อยากให้เป็นหรอก)
เราจึงเห็น NGOs ต่อสู้เรื่องสิทธิชุมชน สิทธิสตรี สิทธิแรงงาน ปัญหาป่าไม้ที่ดิน โฉนดชุมชน คนอยู่กับป่า (ตามหาบิลลี แต่ไม่สนใจจ่านิว ไม่สนใจคนตายปี 53) ฯลฯ โดยไม่สนใจสิทธิเลือกตั้ง อำนาจเลือกตั้ง ซ้ำประณามเป็น "ประชาธิปไตยตัวแทน" ซึ่งเลือกตั้งที่ผ่านมามันก็ไม่ได้ดีเด่อะไรนักหนาหรอก แต่มันเป็นที่มาของการเรียกร้องสิทธิเสรีภาพพื้นฐานทุกอย่าง
คนพวกนี้เพิ่งเจ็บปวดตอนรัฐประหาร แต่ก็ไม่ได้สำนึกอะไร เข้าไปเป็น สปช. เข้าไปร่าง รธน.กับบวรสาก นี่ถ้าร่างบวรสากผ่าน ต่อให้มี คปป.ไว้ขี่คออำนาจเลือกตั้ง ต่อให้ย่ำยีเสรีภาพประชาธิปไตยแค่ไหน ก็ไชโยโห่ร้องปลาบปลื้มยินดีปรีดาปราโมทย์ เพราะมีสิทธิชุมชนเพียบ สิทธิสตรี (งอนตูดป่องจนได้เก้าอี้กึ่งหนึ่ง) ปราชญ์ชาวบ้านได้เก้าอี้ สว. มีสภาพลเมือง ฯลฯ
มันเป็นแนวคิดพิลึกพิลั่นที่ต่อสู้เพื่อสิทธิชุมชน โดยตัดขาดจากเสรีภาพประชาธิปไตย และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความเสมอภาค ความยุติธรรม
ย้ำว่าประชาธิปไตยเลือกตั้งอย่างเดียวก็ไม่ใช่คำตอบสัมบูรณ์ แต่สิ่งที่เกิดขึ้น 10 ปีที่ผ่านมาคืออะไร คือการปิดกั้นเสรีภาพ เห็นคนไม่เท่ากัน และทำลายนิติรัฐ
เหล่านี้คือสิ่งที่ NGOs (รวมทั้งสื่อที่มีรากความคิดคล้าย NGO) ไม่สนใจเลย มองแต่ "นักการเมืองเลว" ไม่สนใจเรื่องการสถาปนาระบอบ (อาจเป็นเพราะแนวคิดฝ่ายซ้าย ฝ่ายอนุรักษ์ ประชาธิปไตยพุทธธรรม วัฒนธรรมชุมชน เหมือนกันอย่างคือไม่สนใจนิติรัฐ) สนใจแต่การบรรลุเป้าหมายโดยไม่คำนึงถึงวิธีการ อำนาจจะเป็นอย่างไรก็ได้ มาจากไหนก็ได้ ขอแค่ต่อรองได้ ยิ่งองค์กรอิสระมีอำนาจ ยิ่งเป็นหนทางไต่เต้าเข้าสู่อำนาจได้ง่ายกว่าการเลือกตั้ง ต่อให้ไม่ใช่พวก NGOs โดยตรงก็ยังต้องเอาใจสื่อ เอาใจ NGOs เอาใจกระแสประชาสังคม
ผมคิดว่านี่คือคำตอบของเราด้วย เวลาเราพูดเรื่องประชาธิปไตย มันไม่ใช่แค่เรื่องเอาเลือกตั้งไม่เอาทหารศาลอำมาตย์ แต่เราต้องการสถาปนาระบอบที่มีเหตุผล มีหลักการ มีเสรีภาพ เสมอภาค และยึดมั่นนิติรัฐ หมายถึงทุกคนอยู่ใต้ระบบกฎหมายที่ใช้อย่างเท่าเทียมยุติธรรม
NGOs ไทยได้รับอิทธิพลความคิดจากพวกซ้ายเก่าออกป่าที่หันไปเป็นอนุรักษ์นิยม (ประชาธิปไตยแบบพุทธ วัฒนธรรมชุมชน ฯลฯ ดูคำวิจารณ์ของธิกานต์ ศรีนารา ตอน 40 ปี 14 ตุลา) ปฏิเสธประชาธิปไตยรัฐสภา ต่อต้านทุนนิยม โดยไม่มองการพัฒนาทุนนิยมที่ยกชีวิตความเป็นอยู่ชาวบ้าน (ชาวบ้านก็อยากเป็นทุนนิยมนะเออ อยากมีฐานะ อยากทำมาค้าขาย อยากออกรถปิคอัพ อยากมีตังค์ซดเบียร์ ฯลฯ ชาวบ้านไม่ได้อยากมีชีวิตในแบบที่ Ngos อยากให้เป็นหรอก)
เราจึงเห็น NGOs ต่อสู้เรื่องสิทธิชุมชน สิทธิสตรี สิทธิแรงงาน ปัญหาป่าไม้ที่ดิน โฉนดชุมชน คนอยู่กับป่า (ตามหาบิลลี แต่ไม่สนใจจ่านิว ไม่สนใจคนตายปี 53) ฯลฯ โดยไม่สนใจสิทธิเลือกตั้ง อำนาจเลือกตั้ง ซ้ำประณามเป็น "ประชาธิปไตยตัวแทน" ซึ่งเลือกตั้งที่ผ่านมามันก็ไม่ได้ดีเด่อะไรนักหนาหรอก แต่มันเป็นที่มาของการเรียกร้องสิทธิเสรีภาพพื้นฐานทุกอย่าง
คนพวกนี้เพิ่งเจ็บปวดตอนรัฐประหาร แต่ก็ไม่ได้สำนึกอะไร เข้าไปเป็น สปช. เข้าไปร่าง รธน.กับบวรสาก นี่ถ้าร่างบวรสากผ่าน ต่อให้มี คปป.ไว้ขี่คออำนาจเลือกตั้ง ต่อให้ย่ำยีเสรีภาพประชาธิปไตยแค่ไหน ก็ไชโยโห่ร้องปลาบปลื้มยินดีปรีดาปราโมทย์ เพราะมีสิทธิชุมชนเพียบ สิทธิสตรี (งอนตูดป่องจนได้เก้าอี้กึ่งหนึ่ง) ปราชญ์ชาวบ้านได้เก้าอี้ สว. มีสภาพลเมือง ฯลฯ
มันเป็นแนวคิดพิลึกพิลั่นที่ต่อสู้เพื่อสิทธิชุมชน โดยตัดขาดจากเสรีภาพประชาธิปไตย และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความเสมอภาค ความยุติธรรม
ย้ำว่าประชาธิปไตยเลือกตั้งอย่างเดียวก็ไม่ใช่คำตอบสัมบูรณ์ แต่สิ่งที่เกิดขึ้น 10 ปีที่ผ่านมาคืออะไร คือการปิดกั้นเสรีภาพ เห็นคนไม่เท่ากัน และทำลายนิติรัฐ
เหล่านี้คือสิ่งที่ NGOs (รวมทั้งสื่อที่มีรากความคิดคล้าย NGO) ไม่สนใจเลย มองแต่ "นักการเมืองเลว" ไม่สนใจเรื่องการสถาปนาระบอบ (อาจเป็นเพราะแนวคิดฝ่ายซ้าย ฝ่ายอนุรักษ์ ประชาธิปไตยพุทธธรรม วัฒนธรรมชุมชน เหมือนกันอย่างคือไม่สนใจนิติรัฐ) สนใจแต่การบรรลุเป้าหมายโดยไม่คำนึงถึงวิธีการ อำนาจจะเป็นอย่างไรก็ได้ มาจากไหนก็ได้ ขอแค่ต่อรองได้ ยิ่งองค์กรอิสระมีอำนาจ ยิ่งเป็นหนทางไต่เต้าเข้าสู่อำนาจได้ง่ายกว่าการเลือกตั้ง ต่อให้ไม่ใช่พวก NGOs โดยตรงก็ยังต้องเอาใจสื่อ เอาใจ NGOs เอาใจกระแสประชาสังคม
ผมคิดว่านี่คือคำตอบของเราด้วย เวลาเราพูดเรื่องประชาธิปไตย มันไม่ใช่แค่เรื่องเอาเลือกตั้งไม่เอาทหารศาลอำมาตย์ แต่เราต้องการสถาปนาระบอบที่มีเหตุผล มีหลักการ มีเสรีภาพ เสมอภาค และยึดมั่นนิติรัฐ หมายถึงทุกคนอยู่ใต้ระบบกฎหมายที่ใช้อย่างเท่าเทียมยุติธรรม
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น