เรื่องราวของหญิงสาวชาวอินเดียผู้รอดชีวิตจากการถูกข่มขืน
สมิตา ชาร์มา ช่างภาพหญิงชาวอินเดียได้ตระเวนเก็บภาพชีวิตของหญิงสาวชาวอินเดียที่ตกเป็นเหยื่อการข่มขืนจากทั่วประเทศ โดยมีเป้าหมายให้สังคมตระหนักถึงปัญหาความรุนแรงทางเพศ
นับแต่เกิดเหตุนักศึกษาหญิงถูกรุมโทรมและฆ่าในกรุงนิวเดลี เมื่อปี 2555 เหตุดังกล่าวนำไปสู่การประท้วงใหญ่หลายครั้งและการออกกฎหมายต่อต้านการข่มขืน อย่างไรก็ตาม เหตุทำร้ายทางเพศต่อสตรีและเด็กในอินเดียยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อปี 2547 มีการบันทึกเหตุข่มขืนไว้กว่า 35,000 ราย
สำหรับเหยื่อข่มขืนที่ปรากฏในภาพชุดนี้ใช้นามสมมุติ ส่วนใหญ่เป็นเด็กและเยาวชน เช่น มานาลี วัย 13 ปี จากรัฐอุตตรประเทศ ถูกชายต่างหมู่บ้านซึ่งมีฐานะดีลักพาตัวไปข่มขืน แต่เธอสามารถหลบหนีออกมาได้ก่อนที่คนร้ายซึ่งเป็นแก๊งค้ามนุษย์จะจับเธอขายซ่องโสเภณี จากนั้น มานาลี ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ แต่แทนที่ตำรวจจะช่วยเหลือ กลับจับกุมเธอไว้ 12 วัน เพื่อบีบให้ถอนแจ้งความ
ส่วน ริธีกา วัย 15 ปี ถูกชายจากหมู่บ้านเดียวกันข่มขืนหลายครั้งในระหว่างที่เข้าไปปลดทุกข์ในป่า แม่เป็นผู้พบ ริธีกา เลือดไหลอยู่ในป่า จึงนำตัวเธอไปสถานีตำรวจทันที ทว่าตำรวจกลับไม่ยอมรับแจ้งความ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้สาวน้อยผู้นี้ต้องทนทุกข์กับภาวะพีทีเอสดี ซึ่งเป็นความผิดปกติทางจิตใจที่เกิดขึ้นหลังประสบเหตุสะเทือนใจ และทำให้เธอหยุดพูดนับจากนั้นเป็นต้นมา ทั้งนี้ บ้านเรือนตามชนบทของอินเดียเกือบ 60% ไม่มีห้องสุขาทำให้ผู้หญิงต้องเสี่ยงถูกประทุษร้ายทางเพศในระหว่างการทำธุระส่วนตัว
วิทยา วัย 17 ปี ถูกชายวรรณะพราหมณ์ ซึ่งเป็นวรรณะที่สูงกว่าลักพาตัวไป ระหว่างกลับจากโรงเรียนในรัฐอุตตรประเทศ โชคดีที่ครอบครัวเข้าใจเธอ และพาไปรับการตรวจที่สถานพยาบาลพร้อมทั้งเข้าแจ้งความกับตำรวจ ปัจจุบันคนร้ายยังอยู่ระหว่างการหลบหนี แต่ วิดยา ได้กลายเป็นผู้มีตราบาปติดตัวจากเรื่องที่เกิดขึ้น และทำให้ต้องลาออกจากโรงเรียนในที่สุด
ส่วน คาริชมา วัย 17 ปี ถูกลูกชายเจ้าของบ้านเช่าข่มขืนเมื่อปี 2551 แต่ความรู้สึกอับอายและความกลัวทำให้เธอเก็บงำเรื่องนี้เอาไว้ แต่หลังจากตั้งท้องจากการข่มขืนดังกล่าว คาริชมา ก็ถูกแม่ไล่ออกจากบ้าน และภายหลังถูกบังคับให้แต่งงานกับชายที่ข่มขืนเธอ แต่คาริชมาไม่ยอมถอนแจ้งความหรือแต่งงานด้วย ปัจจุบันเธออาศัยอยู่กับลูกชายในเมืองกัลกัตตา รัฐเบงกอลตะวันตก และทำงานในร้านเสริมสวย
นีฮา วัย 20 ปี ถูกชายในชุมชนเดียวกันข่มขืนเมื่อ 8 ปีก่อน แต่เธอกลับถูกครอบครัวและเพื่อนบ้านบังคับให้แต่งงานกับคนร้าย แม้การข่มขืนครั้งนั้นจะทำให้เธอตั้งท้องลูกชาย แต่ชายผู้ก่อเหตุกลับไม่เคยยอมรับเธอเป็นภรรยาอย่างแท้จริง ทำให้ครอบครัวของนีฮาเข้าแจ้งความกับตำรวจ เพื่อนำตัวชายคนดังกล่าวขึ้นศาล
ส่วนภาพสุดท้าย เป็นภาพขณะที่ วาร์ชา วัย 15 ปี กำลังขึ้นศาลในรัฐฌารขัณฑ์ หลังถูกชายคนหนึ่งซึ่งมักไปสวนมะม่วงที่เธอทำงานอยู่ข่มขืน ในช่วงแรก วาร์ชา ไม่กล้าปริปากบอกเรื่องที่เกิดขึ้นกับใครเพราะถูกข่มขู่ แต่นั่นกลับยิ่งทำให้คนร้ายได้ใจแล้วข่มขืนเธอซ้ำอีก จนในที่สุด วาร์ชา ตัดสินใจบอกเรื่องนี้กับครอบครัวซึ่งเป็นผู้พาเธอไปแจ้งความ
ปัจจุบัน สมิตา ได้เปิดเว็บเพจเพื่อระดมเงินช่วยเหลือเหยื่อที่ถูกข่มขืน และทำงานในชุมชนเพื่อให้ความรู้แก่ผู้คน และสร้างความตระหนักถึงปัญหาความรุนแรงทางเพศ นอกจากนี้ยังทำงานร่วมกับองค์กรอื่นเพื่อหาเงินซื้อรถจักรยานให้แก่เหยื่อถูกข่มขืนด้วย
ผู้อ่านสามารถคลิกที่ลิงค์ด้านล่างเพื่อเข้าชมภาพชุดนี้ได้เพิ่มเติมค่ะ
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น