0
แก้ไขเนื้อหา 15.36 น.

แอปเปิลเผยยอดขายไอโฟนจะตกเป็นครั้งแรก

แอปเปิลรายงานว่ายอดขายไอโฟนเติบโตช้าที่สุดนับแต่เปิดตัวมาในปี 2550 และบอกว่ายอดขายอาจจะตกเป็นครั้งแรกในปีนี้ โดยมียอดขายไอโฟน 74.8 ล้านเครื่องเมื่อเทียบกับ 74.5 ล้านเครื่องในไตรมาสเดียวกันเมื่อปีก่อน

แอปเปิลบอกว่ารายได้สำหรับไตรมาสต่อไปจะอยู่ในราว 50,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (1.8 ล้านล้านบาท) ถึง 53,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งต่ำกว่า 58,000 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ที่ในไตรมาสเดียวกันเมื่อปีก่อน ซึ่งจะทำให้แอปเปิลมีรายได้ลดลงเป็นครั้งแรกนับแต่มีการเปิดตัวไอโฟนมา

ถึงแม้ยอดขายไอโฟนไตรมาสนี้จะต่ำกว่า 75 ล้านเครื่องตามที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ แต่ก็ยังเป็นไตรมาสที่ทำสถิติสำคัญสำหรับบริษัท คือ รายได้ของแอปเปิลในช่วงสามเดือนจนถึง 26 ธันวาคม คือ 75,900 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และมีกำไรสุทธิ 18,400 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดของบริษัท รายได้จากการขายไอโฟนคิดเป็น 68% ของรายได้ทั้งหมดของบริษัทในช่วงเวลาดังกล่าว

ทิม คุก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของแอปเปิลบอกว่าผลประกอบการดังกล่าวเป็นผลมาจากยอดขายเป็นประวัติการณ์ของไอโฟน แอปเปิลว็อทช์และแอปเปิลทีว

แต่หัวหน้าด้านการเงินของบริษัท ลูกา มาเอสตรี บอกว่าบริษัทกำลังดำเนินการอยู่ใน “สภาพแวดล้อมทางเศรษฐศาสตร์มหภาคที่ยากลำบากมาก” เขาโทษการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ว่ามีส่วนทำให้ยอดขายของแอปเปิลทรงตัว โดยประเมินว่าทำให้รายได้ของบริษัทหดหายไป 5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ

ยอดขายของแอปเปิลในจีนรวมฮ่องกงและไต้หวัน เพิ่มขึ้น 14% แต่ก็ต่ำกว่าปีที่แล้วมากที่เพิ่มถึง 70% ยอดขายในตลาดนี้มีมูลค่าเกือบหนึ่งในสี่ของยอดขายทั้งหมดของแอปเปิล ซึ่งมากกว่าทั้งยุโรปรวมกัน


แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

 
Top