มหาดไทยส่งทหาร-ตำรวจคุมเหตุปะทะพร้อมสั่งพิสูจน์สิทธิ์ถือครองที่ดินที่จะใช้สร้างรีสอร์ทที่หาดราไวย์ ด้านชาวบ้านเผยใช้ประโยชน์ในที่ดินมาหลายชั่วอายุคน
เหตุชายฉกรรจ์ปะทะกับชาวเลที่หาดราไวย์ จ.ภูเก็ต เมื่อวานนี้ เกิดขึ้นจากกรณีพิพาทเรื่องสิทธิในการครอบครองที่ดินที่ยืดเยื้อมานานกว่า 10 ปี ระหว่างบริษัทเอกชนกับชาวบ้าน ซึ่งเป็นชาวมอแกน มอแกลน และอูรักลาโว้ย โดยมีรายงานว่าได้มีกลุ่มชายฉกรรจ์กว่าร้อยคนเข้ามาในพื้นที่พิพาท ในขณะที่ตัวแทนชาวบ้านกลุ่มหนึ่งเดินทางไปยื่นหนังสือต่อพลเรือเอกณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี ที่ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต เพื่อขอให้แก้ปัญหาข้อพิพาทเรื่องที่ดินระหว่างชาวบ้านกับนายทุน และมีชาวบ้านอีกส่วนหนึ่งราว 30-50 คนนั่งรอคำตอบอยู่บริเวณที่เกิดเหตุ
รายงานระบุว่า ชายฉกรรจ์กลุ่มดังกล่าวพยายามจะปิดเส้นทางสัญจรที่ชาวบ้านใช้เป็นประจำในการออกไปหาปลา ซึ่งอยู่ติดกับผืนดินที่มีปัญหา โดยใช้รถสิบล้อขนก้อนหินขนาดใหญ่วางขวางเส้นทางที่ชาวบ้านใช้อยู่เป็นประจำ เมื่อชาวบ้านเข้าขัดขวางจึงเกิดการปะทะกัน ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 30 คน
นายสนิท แซ่ซั่ว สมาชิกของคณะทำงานชุมชนหาดราไวย์ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์เมื่อวานนี้ บอกกับบีบีซีไทย ว่า ความขัดแย้งเรื่องที่ดินหาดราไวย์เริ่มมาตั้งแต่ปี 2549 โดยชาวบ้านส่งหนังสือร้องเรียนไปถึงหน่วยงานราชการหลายครั้ง แต่ไม่ได้รับคำตอบ ก่อนหน้านี้เคยมีชายฉกรรจ์ในลักษณะเดียวกันเข้ามาในพื้นที่แต่จำนวนไม่มากเท่าเมื่อวานนี้ และเมื่อวันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมามีทหารจำนวนหนึ่งมาปิดเส้นทางไม่ให้ชาวบ้านใช้สัญจร ซึ่งเป็นพื้นที่รอยต่อระหว่างของชาวบ้านกับนายทุน
“เราใช้ประโยชน์มาหลายชั่วอายุคนแล้ว พอมานายทุนชุดนี้มีปัญหากับชาวบ้าน ไม่ให้ชาวบ้านสัญจรไปมา เราใช้เพียง 5-6 เมตรเพื่อเป็นทางสัญจร” นายสนิทกล่าว
ทางด้านนายอรุณ โสฬส นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต กล่าวกับบีบีซีไทยว่า หลังเกิดเหตุการณ์เมื่อวานนี้ นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตได้เรียกประชุมด่วนหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง และมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และเทศบาลเข้าไปดูแลเรื่องความปลอดภัยให้กับชาวบ้าน และมีเจ้าหน้าที่จากกองทัพเรือภาค 3 เข้าไปดูแลความปลอดภัยไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งขึ้นอีก
นายอรุณกล่าวด้วยว่า เมื่อวานนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งให้บริษัทนำก้อนหินที่ปิดทางสัญจรของชาวบ้านออก เพื่อให้สามารถเดินทางไปประกอบอาชีพ หรือไปทำพิธีทางศาสนาได้อย่างปกติ จนกว่ามติการประชุมเพื่อหาข้อยุติในวันที่ 2 ก.พ.จะออกมา ในขณะนี้ชาวบ้านสามารถใช้เส้นทางได้ตามปกติ โดยกลุ่มชายฉกรรจ์ได้ออกนอกพื้นที่ไปแล้ว ส่วนชาวบ้านที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุเมื่อวานนี้ มีการประสานหน่วยกู้ภัยนำตัวส่งโรงพยาบาลและทยอยกลับบ้านได้แล้ว
นายอรุณกล่าวว่า พื้นที่ที่เกิดเป็นข้อพิพาทเป็นพื้นที่ติดชายหาด ซึ่งทางบริษัทที่เป็นคู่กรณีกับชาวบ้านซื้อต่อมาจากบริษัทอีกรายหนึ่ง เพื่อมาสร้างเป็นรีสอร์ท ซึ่งกรณีพิพาทเกิดมาตั้งแต่เจ้าของรายเดิมแล้วและยังคาราคาซังอยู่ เมื่อบริษัทรายใหม่มาซื้อที่ดินต่อจึงเกิดเป็นปัญหา
นายอรุณกล่าวด้วยว่า จะมีการประชุมอีกครั้งหนึ่งเพื่อคลี่คลายปัญหาในวันที่ 2 ก.พ.นี้ โดยทางผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตได้เชิญทุกส่วนที่เกี่ยวข้องมาหารือร่วมกันเพื่อหาทางออก โดยกระทรวงมหาดไทยกำชับมายังทางจังหวัดไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก เนื่องจากอาจส่งผลต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต และอาจเกี่ยวเนื่องไปถึงความมั่นคง และในการประชุมวันที่ 2 ก.พ.นี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดได้ทำหนังสือเชิญไปยังเจ้าของบริษัทให้ส่งผู้ที่มีอำนาจตัดสินใจเกี่ยวกับข้อเรียกร้องของชาวบ้านได้มาร่วมประชุมด้วย
ส่วนข้อเรียกร้องของฝั่งชาวบ้าน นายสนิท กล่าวว่า ต้องการให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาความไม่ชอบของการออกโฉนดที่ดินที่กำลังเป็นปัญหาพิพาทกับชาวบ้านขณะนี้ รวมทั้งพิจารณาผลการตรวจสอบของกรมสอบสวนคดีพิเศษในการให้เพิกถอนโฉนดที่ดินดังกล่าวซึ่งชาวบ้านเคยใช้ประโยชน์มาก่อน รวมทั้งต้องการให้เร่งรัดจับกุมกลุ่มชายฉกรรจ์ที่ทำร้ายชาวบ้าน และเยียวยาชาวบ้านที่ถูกทำร้าย
ด้าน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทยกล่าวว่า เพื่อให้ปัญหาหมดไปจะต้องมีการพิสูจน์สิทธิ์ก่อน และต้องเจรจากันเพื่อให้สองฝ่ายอยู่ร่วมกันได้
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น