0

ศาลฎีกาลดโทษจำคุกชูวิทย์ จาก 5 ปีเหลือ 2 ปี คดีรื้อบาร์เบียร์ แต่ไม่รอลงอาญา
ศาลฎีกาอ่านคำพิพากษา ตัดสินคดีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ พ.ท.หิมาลัย ผิวพรรณ และ พ.ต.ธัญเทพ ธรรมธร กับพวก รวม 66 ราย ถูกอัยการและผู้ค้าบาร์เบียร์ ซอยสุขุมวิท 10 จำนวน 44 ราย ฟ้องร้องจากเหตุรื้อบาร์เบียร์ในความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์, บุกรุกในเวลากลางคืน และกักขังหน่วงเหนี่ยวข่มขืนใจให้บุคคลปราศจากเสรีภาพเมื่อปี 2546 โดยศาลฎีกาแก้โทษจำคุกนายชูวิทย์ จาก 5 ปี เหลือ 2 ปีเนื่องจากภายหลังนายชูวิทย์ได้ชดใช้ค่าเสียหายแก่ผู้ค้า และนำที่ดินมาทำสวนสาธารณะ
อย่างไรก็ตาม ศาลสั่งไม่รอลงอาญา ทำให้นายชูวิทย์ถูกควบคุมตัวเพื่อนำส่งเรือนจำพิเศษ กรุงเทพฯ ในวันนี้
โดยนายชูวิทย์ ได้ปรากฏตัวที่ศาล และให้สัมภาษณ์ก่อนการตัดสินว่า เขายืนยันต่อสู้ตามแนวทางของตัวเองและพร้อมรับผิดหากศาลตัดสินจำคุก “ไม่เคยคิดแม้แต่นาทีเดียวที่จะหนีไปใช้ชีวิต ไปดูดซิการ์ จิบบรั่นดี อยู่บนเรือยอร์ช ก็ขออยู่ที่นี่ ถ้าวันนี้ผมต้องติดคุก ผมก็คงรู้ว่าผู้สื่อข่าวจะเขียนว่าชูวิทย์ คอตก ชูวิทย์จ๋อย ก็พร้อมครับ” นายชูวิทย์กล่าว
สำหรับจำเลยอีก 66 ราย ที่เหลือนั้นศาลสั่งจำคุกด้วยกำหนดโทษแตกต่างกันไป แต่ไม่เกิน 2 ปี หกเดือน
เหตุการณ์รื้อบาร์เบียร์เคยเป็นข่าวโด่งดัง เมื่อกลุ่มชายฉกรรจ์นับร้อยคนบุกเข้าใช้กำลัง พร้อมทั้งใช้รถแบ็คโฮ ทำลายร้านบาร์เบียร์ 60 ร้าน บริเวณสุขุมวิทสแควร์ สุขุมวิท ซอย 10 ในช่วงเช้ามืดวันที่ 26 มกราคม 2546
ต่อมาอัยการและเจ้าของร้าน 44 ราย ร่วมกันเป็นโจทย์ฟ้อง นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย อดีตผู้บริหารบริษัท สุขุมวิท ซิลเวอร์ สตาร์ จำกัด, และพวกรวม 130 คน เป็นจำเลยที่ 1-130 (คดีรื้อบาร์เบียร์ ซอยสุขุมวิท 10) ในความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์, บุกรุกในเวลากลางคืน และกักขังหน่วงเหนี่ยวข่มขืนใจให้บุคคลปราศจากเสรีภาพ
ในชั้นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษนายชูวิทย์และจำเลยอีก 66 รายเป็นเวลา 5 ปี ไม่รอลงอาญา โดยนายชูวิทย์และจำเลยอีก 43 รายยื่นฎีกา และศาลฎีกามีคำพิพากษาในวันนี้
คลังภาพ: นายชูวิทย์ ขณะเดินทางไปศาลเมื่อปีที่แล้ว


แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

 
Top