0

เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์กับพระโอรสประทานสัมภาษณ์แบบเป็นกันเองกับผู้จัดรายการโทรทัศน์ในอังกฤษ
เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ มกุฎราชกุมารแห่งราชวงศ์อังกฤษกับเจ้าชายวิลเลียมและเจ้าชายแฮรี พระโอรส ประทานสัมภาษณ์แก่ผู้จัดรายการโทรทัศน์ไอทีวีของอังกฤษ โดยเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ตรัสถึงพระกรณียกิจ เดอะปรินเซสทรัสต์ กองทุนการกุศลของพระองค์ที่ดำเนินมานานถึง 40 ปี ขณะที่เจ้าชายวิลเลียมกับเจ้าชายแฮรี ตรัสชื่นชมพระกรณียกิจของพระบิดา นอกจากนั้นเจ้าชายวิลเลียมยังตรัสถึงความรู้สึกของการเป็นบิดาหลังการประสูติของพระโอรสและพระธิดาด้วย
ในรายการความยาว 90 นาที When Ant and Dec Met The Prince: 40 Years of the Prince’s Trust ซึ่งจะแพร่ภาพทางโทรทัศน์ในอังกฤษในคืนวันพรุ่งนี้ (4 ม.ค.) เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ตรัสเกี่ยวกับความเป็นมาของเดอะปรินเซสทรัสต์ว่า ช่วงแรกเริ่มมีเสียงตำหนิว่า “ทำไปก็ไม่เห็นประโยชน์อันใด” โดยพระองค์ตรัสว่า ประวัติความเป็นมาของทรัสต์ คล้ายกับเรื่องราวในชีวิตของพระองค์ที่ทรงต้องทุ่มเทเพื่อสยบข้อครหาและ “เอาชนะ” ผู้ที่ขาดความศรัทธาในกรณียกิจของพระองค์
เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ตรัสว่า ช่วงเริ่มก่อตั้งทรัสต์ใหม่ ๆ เมื่อปี 2519 นั้น เดอะปรินเซสทรัสต์มีทุนรอนอยู่เพียง 7,400 ปอนด์ (ประมาณ 400,000 บาท ตามอัตราแลกเปลี่ยนในปัจจุบัน) โดยเงินก้อนนี้เป็นเงินชดเชยที่พระองค์ทรงได้รับ หลังออกจากการรับราชการในกองทัพเรือ และถูกนำไปใช้สนับสนุนโครงการชุมชนหลายโครงการ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันเดอะปรินเซสทรัสต์ขยายใหญ่ขึ้น และได้กลายมาเป็นองค์กรการกุศลส่งเสริมเยาวชนที่สำคัญ โดยสามารถให้การสนับสนุนคนรุ่นเยาว์ได้ถึงกว่า 825,000 คน และเมื่อทรงถูกถามว่า ทรงมีพระราชประสงค์ให้พระโอรสทั้งสองเข้าช่วยเหลือในทรัสต์หรือไม่ เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ตรัสอย่างพระทัยดีว่า พระองค์ทรงหวังว่าพระโอรสทั้งสอง จะสนพระทัย เพราะถึงตอนนั้น พระองค์อาจทรงชราภาพเกินไปแล้วก็ได้
ในสารคดีชิ้นนี้ เจ้าชายวิลเลียมและเจ้าชายแฮรี ได้ตรัสถึงพระกรณียกิจของพระบิดาด้วย โดยเจ้าชายวิลเลียมตรัสว่า “พระองค์ทรงทุ่มเทในการปฏิบัติพระกรณียกิจ ซึ่งเป็นเพราะทรงได้รับการอบรมสั่งสอนมาตั้งแต่ทรงพระเยาว์” ขณะที่เจ้าชายแฮรีตรัสว่า “คำแนะนำที่พระบิดาประทานให้ในช่วงที่ผ่านมามีค่าเกินคณานับ แต่บางครั้งเรื่องตลกที่ล้อกันระหว่างพี่น้อง พระองค์ทรงรับไม่ได้เหมือนกัน”
ในการให้สัมภาษณ์ครั้งนี้ เจ้าชายวิลเลียม ตรัสถึงความรู้สึกของการเป็นบิดาด้วย โดยตรัสว่าการมีบุตรทำให้พระองค์ทรงมีอารมณ์อ่อนไหวมากขึ้น และตระหนักถึงคุณค่าของชีวิตมากขึ้นด้วย โดยนับตั้งแต่ที่เจ้าชายจอร์จและเจ้าหญิงชาร์ลอตต์ประสูติ พระองค์ทรงอดคิดไม่ได้ว่า “จะเกิดอะไรขึ้น หากไม่มีโอกาสมีชีวิตเห็นลูก ๆ เติบโตขึ้น” และตรัสด้วยว่า ความเป็นพ่อ ทำให้การรับรู้ถึงสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในโลก มีผลต่อความรู้สึกของพระองค์มากขึ้น “แม้แต่สิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ” ก็ทำให้มีน้ำพระเนตรเอ่อขึ้นมาได้ง่าย ๆ
หมายเหตุ – บีบีซีไทยไม่สามารถนำเสนอบทสัมภาษณ์ได้โดยตรง เนื่องจากติดเรื่องลิขสิทธิ์ ผู้อ่านที่ต้องการรับชมและรับฟังบทสัมภาษณ์แบบสั้น ๆ สามารถคลิกตามลิงก์ด้านล่างค่ะ


แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

 
Top