0

 เมื่อวันที่ 14 ม.ค. เอเอฟพีรายงานความคืบหน้าเหตุก่อการร้ายสั่นสะเทือนความมั่นคงของประเทศอินโดนีเซีย ในกรุงจาการ์ตา ลักษณะ"ปารีส สไตล์"Ž เลียนแบบเหตุวินาศกรรมกรุงปารีสเมื่อวันที่ 13 พ.ย.2558 ว่า ตำรวจพบความเชื่อมโยงของผู้ก่อการกับกลุ่มกองกำลังรัฐอิสลาม หรือไอเอส

"เครือข่ายของผู้ก่อการเชื่อมโยงถึงไอเอส ในเมืองอัรร็อกเกาะฮ์ ฐานที่มั่นของไอเอสในประเทศซีเรีย" ติโต คาร์นาเวียน ผู้บัญชาการตำรวจจาการ์ตา กล่าว


 เหตุการณ์ดังกล่าวเริ่มต้นเมื่อเวลา 10.35 น.  ผู้ก่อการโจมตีด้วยระเบิดพลีชีพ ตามด้วยการกราดยิงและดวลปืนเจ้าหน้าที่ในหลายพื้นที่  โดยเฉพาะบริเวณร้านสตาร์บัคส์ ร้านกาแฟแฟรนไชส์ชื่อดังของสหรัฐอเมริกา ใกล้กับศูนย์การค้า อาคารสำนักงานสหประชาชาติ และย่านที่ตั้งของสถานทูตประเทศต่างๆ ก่อนยุติลงเมื่อเจ้าหน้าที่ความมั่นคงในชุดกันกระสุนและรถหุ้มเกราะระดมกำลังเข้าปราบปรามกลุ่มคนร้าย สังหารผู้ก่อการได้ 5 ราย ส่วนเหยื่อเสียชีวิต 2 รายเป็นชาวแคนาดา และชาวอินโดนีเซีย  ทั้งมีผู้บาดเจ็บอีก 20 คน

 นายอันตัน ชาร์ลิยัน โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติของอินโดนีเซียกล่าวว่า ผู้ก่อเหตุมีทั้งหมด 5 คน ลักษณะการก่อเหตุคาดว่าเลียนแบบการโจมตีกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อ 13 พ.ย. 2558 ซึ่งครั้งนั้นส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 130 ราย

 จากข้อความความเชื่อมโยงของผู้ก่อการถึงกลุ่มไอเอสดังกล่าวทำให้นานาประเทศอาเซียนเริ่มวิตกกังวล โดยนายกุมาร รามากฤษณา ผู้เชี่ยวชาญการศึกษากลุ่มนักรบในอาเซียน ประจำมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนานยาง ในสิงคโปร์กล่าวว่า เรารู้มาว่า ไอเอสต้องการประกาศตัวในภูมิภาคนี้ และมีกลุ่มต่างๆ อยู่ในภูมิภาคนี้แล้วที่ประกาศตัวภักดีกับไอเอส


 "ภัยคุกคามก็คือ นักรบสุดโต่งของอาเซียนที่เคยไปรบในอิรักและซีเรีย กำลังหวนกลับมาบ้านอีกครั้ง นี่จึงเป็นปัจจัยที่น่าวิตก เมื่อรวมกับความเป็นไปได้ที่จะเกิดกลุ่มสายสุดโต่งที่มุ่งก่อการตามลำพัง" นายกุมารกล่าว

 ด้าน พันเอกเรสติทูโต พาดิลา โฆษกกองทัพฟิลิปปินส์ กล่าวแถลงการณ์ร่วมระหว่างกองทัพและสำนักงานตำรวจฟิลิปปินส์ ว่าทางการดำเนินปฏิบัติการป้องกันอาชญกรรมก่อการร้ายทั่วประเทศมาโดยตลอด และจะเฝ้าระวังสถานการณ์ที่อาจเป็นภัยคุกคามอย่างต่อเนื่อง ทั้งกลุ่มก่อการร้ายภายใน และภายนอกประเทศ

 รวมถึงกลุ่มอาบู ไซยาฟ (เอเอสจี) และกลุ่มนักรบเสรีภาพอิสลามบังซาโมโร (บีเอฟเอฟ) สองกลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดนสายสุดโต่งทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์ ซึ่งเคยให้ความช่วยเหลือกับกลุ่มก่อการร้ายต่างชาติที่อยู่หลบหนีจากคดีระเบิดสถานบันเทิงบนเกาะบาหลี ของอินโดนีเซีย จนมีผู้เสียชีวิต 202 ราย เมื่อปี 2545


แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

 
Top