0
เหตุการณ์สังหารหมู่ราชวงศ์โรมานอฟ ซึ่งนำไปสู่การล่มสลายของสถาบันกษัตริย์รัสเซีย สร้างความสะเทือนขวัญอย่างมากแก่ชาวโลก โดยทุกครั้งที่พูดถึงโศกนาฏกรรมดังกล่าว มักจะต้องถูกโยงกับคำสาปแช่งของ “พ่อมดรัสปูติน” บุรุษลึกลับที่มีอิทธิพลอย่างสูงต่อราชวงศ์
ในยุคที่ราชวงศ์โรมานอฟเกรียงไกร มีกษัตริย์ผู้ปรีชาสามารถหลายพระองค์ ที่สร้างความยิ่งใหญ่ให้รัสเซีย เช่น พระเจ้าปีเตอร์มหาราช และจักรพรรดินีนาถแคทเธอรีนที่สองมหาราช กระนั้น เมื่อราชบัลลังก์ตกทอดถึงยุคพระเจ้าซาร์อเล็กซานเดอร์ที่สาม รัสเซียตกอยู่ในสภาพข้าวยากหมากแพง เศรษฐกิจตกต่ำถึงขีดสุด ประชาชนอดอยากข้นแค้น ปลุกเร้าให้เกิดแนวคิดมาร์กซิสต์เบ่งบาน เป็นจุดเริ่มต้นสู่การปฏิวัติรัสเซียในเวลาต่อมา
เมื่อพระเจ้าซาร์อเล็กซานเดอร์ที่สามเสด็จสวรรคต ราชบัลลังก์ตกเป็นของ “พระเจ้าซาร์นิโคลัสที่สอง” และพระมเหสี “พระนางเจ้าอเล็กซานดรา” สถานการณ์บ้านเมืองยิ่งเลวร้ายหนัก ลางร้ายปรากฏตั้งแต่วันแรกที่เสด็จเข้าพระราชพิธีราชาภิเษก มีการจัดขบวนแห่อลังการ พระองค์โปรดให้แจกขนมปังและเบียร์แก่ประชาชนทุกคน เพื่อให้ดื่มกินฉลองกันทั่วเมือง แต่กลับกลายเป็นเหตุให้เกิดการจลาจลใหญ่ มีคนโดนเหยียบตายมากกว่าพันคน
ในขณะที่ทรงพยายามเอาชนะใจประชาชนชาวรัสเซีย พระเจ้าซาร์นิโคลัสที่สองและพระมเหสี ก็ดิ้นรนทุกวิถีทางเพื่อหาองค์รัชทายาทชายสืบราชบัลลังก์ เนื่องจากทรงมีพระราชธิดาล้วนๆ 4 พระองค์ ทรงสวดอ้อนวอนต่อเทพเจ้าขอให้ประทานพระราชโอรส ในที่สุดก็สมพระทัยหวังได้พระราชโอรส ตั้งพระนามให้ว่า “เจ้าชายอเล็กไซ นิโคลาวิช โรมานอฟ” กระนั้น เจ้าชายน้อยกลับมีพระพลานามัยอ่อนแอ ทรงประชวรด้วยโรค “ฮีโมฟีเลีย” (โรคเลือดไหลไม่หยุด) ซึ่งเป็นโรคร้ายที่ยังไม่มีวิธีรักษาในยุคนั้น ทรงปกปิดเรื่องนี้มิให้แพร่งพราย และพยายามเสาะแสวงหาหมอเก่งๆมารักษาพระราชโอรส แต่ทั้งแผ่นดินก็ยังไม่สามารถเยียวยาอาการป่วยขององค์รัชทายาท

นี่เองคือจุดเริ่มต้นการสร้างตำนานมนต์ดำของ “กริกอรี รัสปูติน” บุรุษลึกลับลูกชาวนาจากไซบีเรีย ที่ร่ำลือว่าเป็นหมอเทวดา
ผู้หยั่งรู้ฟ้าดิน เมื่อ “พระนางเจ้าอเล็กซานดรา” ตามตัว “รัสปูติน” เข้าวัง พ่อหมอก็สร้างปาฏิหาริย์ ด้วยการรักษาอาการป่วยของเจ้าชายน้อยจนเกือบหายสนิท และทุกครั้งที่พระราชโอรสอาการกำเริบอีก มีเพียง “รัสปูติน” ที่เยียวยาให้ฟื้นได้ เขามิได้ใช้ยาวิเศษใดๆ แต่รักษาด้วยพลังจิตและท่องคาถามนต์ดำ นับแต่นั้นมาตลอด 12 ปี รัสปูตินได้กลายเป็นคนสนิทของราชวงศ์ และเป็นที่ไว้วางพระทัยมากของพระมเหสี โดยได้รับเชิญเข้าไปพำนักในเขตพระราชฐานชั้นใน เพื่อถวายการรักษารัชทายาทอย่างใกล้ชิด
นอกจากชื่อเสียงหมอเทวดา “รัสปูติน” ยังดังเรื่องความเป็นคาสโนวา ลือกันว่าเขามักมากในกามารมณ์ และมีเสน่ห์ทางเพศรุนแรงบางตำราระบุว่า รัสปูตินมีขนาดอวัยวะเพศยาวถึง 13 นิ้ว!! และเคยร่วมนิกายนอกรีต ที่ประกอบพิธีมนต์ดำลวงผู้หญิงมาบูชายัญ ล้อมวงดื่มเหล้า เต้นรำอย่างบ้าคลั่ง และชวนกันมีเซ็กซ์หมู่ เมื่อได้เข้าวังคลุกคลีกับนางข้าหลวงและชนชั้นสูงมากมาย “รัสปูติน” ก็สร้างเรื่องอื้อฉาวกระฉ่อนเมือง มีเสียงลือหนักว่า แม้แต่พระมเหสีก็หลงใหลพ่อหมอ เพราะเชื่อว่าพระเจ้าได้สื่อสารกับพระองค์ผ่านรัสปูติน
ความเหิมเกริมของรัสปูตินทำให้เชื้อพระวงศ์ชั้นสูงและข้าราชบริพารผู้ภักดีอดรนทนไม่ไหว ภายใต้การนำของ “เจ้าชายยูสโซบอฟ” ทรงเล็งเห็นว่ารัสปูตินเป็นภัยร้ายแรงต่อราชสำนัก และความมั่นคงของชาติ พระองค์วางแผนลับกับขุนนางสนิท ลวงรัสปูตินมาฆ่า!! โดยจัดไวน์ชั้นดีกับเค้กผสมยาพิษร้ายแรงให้ดื่มกิน แต่ยาพิษทำอะไรพ่อหมอไม่ได้ เจ้าชายโมโหมากจึงควักปืนยิงคว่ำต่อหน้า แต่กลับไม่ตาย เขาพยุงร่างเดินโซเซออกไปหน้าวัง แม้กลุ่มขุนนางจะระดมยิงซ้ำ กระสุนปืนก็ไม่สามารถฆ่าพ่อหมอได้ เมื่อไม่รู้จะฆ่าแกงอย่างไร จึงพุ่งเข้าจับรัสปูตินมัดและโยนลงน้ำเย็นยะเยือก สุดท้ายเขาจบชีวิตด้วยการจมน้ำตาย!! ก่อนตายไม่นาน พ่อหมอกราบทูลพระมเหสีว่า ข้าพเจ้ารู้ว่าจะถูกฆ่าตายในไม่ช้า ขอให้พระองค์รับรู้ว่า หากมีเชื้อพระวงศ์ใดสังหารข้าพเจ้า พระองค์และครอบครัวต้องสวรรคตภายในสองปี ด้วยฝีมือประชาชนของพระองค์เอง จากนั้นไม่นาน คำสาปของรัสปูตินก็สำแดงฤทธิ์ จนนำไปสู่โศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์รัสเซีย.
มิสแซฟไฟร์

source : - http://www.thairath.co.th/content/534311

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

 
Top