รัสเซียเตือน เสี่ยงที่จะเกิด “สงครามตัวแทน” ในตะวันออกกลาง หลังสหรัฐฯ เผยจะส่งหน่วยรบพิเศษไปซีเรีย

ภาพประกอบ (แฟ้มภาพ) หน่วยรบพิเศษของสหรัฐฯ

บีบีซีไทย - BBC Thai

รัสเซียเตือน เสี่ยงที่จะเกิด “สงครามตัวแทน” ในตะวันออกกลาง หลังสหรัฐฯ เผยจะส่งหน่วยรบพิเศษไปซีเรีย

นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศรัสเซียชี้ว่า จำเป็นที่สหรัฐฯ กับรัสเซียจะต้องทวีความร่วมมือทางทหารต่อสถานการณ์ในซีเรีย และการตัดสินใจของสหรัฐฯ ในการส่งหน่วยรบพิเศษไปซีเรียเป็นการตัดสินใจตามลำพังโดยไม่ได้มีอ้างถึงความเห็นของผู้นำซีเรีย และเขาเชื่อว่าทั้งสหรัฐฯ กับรัสเซียต่างไม่ต้องการให้สถานการณ์ก้าวไปถึงขั้นการทำสงครามตัวแทน

ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ เผยว่าสหรัฐฯ จะส่งหน่วยรบพิเศษไม่เกิน 50 คนไปซีเรีย เพื่อ “ฝึกสอน แนะนำและช่วยเหลือ” กองกำลังฝ่ายค้านที่กำลังสู้รบกับกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ผู้สื่อข่าวบีบีซีรายงานว่านี่จะเป็นครั้งแรกที่ทหารสหรัฐฯ จะปฏิบัติการอย่างเปิดเผยในซีเรีย

ด้านนายแอช คาร์เตอร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวเสริมกรณีการส่งหน่วยรบพิเศษของสหรัฐฯ ไปซีเรียว่า เป็นยุทธศาสตร์เพื่อช่วยกองกำลังของฝ่ายต่อต้านรัฐบาล ซึ่งมีโอกาสที่ทหารอเมริกันจะได้รับอันตรายได้เช่นกัน และเขาไม่ได้บอกปัดเรื่องการส่งกำลังไปเสริมอีกในภูมิภาคดังกล่าว หากการส่งหน่วยรบพิเศษในรอบแรกนี้ประสบความสำเร็จ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเป็นเวลาปีกว่าแล้วที่กองกำลังผสมนำโดยสหรัฐฯ ระดมโจมตีกลุ่มไอเอสทางอากาศ และเมื่อเร็ว ๆ นี้ สหรัฐฯ ได้ตัดสินใจยกเลิกแผนการฝึกรบให้กับกองกำลังฝ่ายกบฏ โดยเลือกที่จะจัดส่งอาวุธให้ผู้นำกลุ่มกบฏโดยตรงแทน

โจนาธาน มาร์คัส ผู้สื่อข่าวบีบีซีสายกลาโหมวิเคราะห์การส่งหน่วยรบพิเศษของสหรัฐฯ จำนวนไม่มากไปซีเรียในครั้งนี้ว่า เป็นการปรับนโยบายที่น่าจับตา ภารกิจของหน่วยรบพิเศษที่จะเข้าไปช่วยประสานงาน ให้กับกองกำลังของฝ่ายต่อต้านรัฐบาลที่สู้รบอยู่ทางภาคพื้นดินกับกองกำลังผสมในการสู้รบกับไอเอสนั้น ในทางปฏิบัติหน่วยรบพิเศษอาจร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับกองกำลังชาวเคิร์ด ซึ่งเป็นพันธมิตรที่สำคัญกลุ่มหนึ่งของสหรัฐฯ ด้วย การประสานงานในครั้งนี้อาจหมายถึงให้ฝ่ายที่อยู่ทางภาคพื้นดินคอยชี้เป้าสำหรับการโจมตีทางอากาศ โดยในขณะนี้สหรัฐฯ มีเครื่องบินรบที่พร้อมสำหรับปฏิบัติการจอดรออยู่ที่ฐานทัพในตุรกีแล้ว

ปฏิบัติการครั้งนี้เป็นเพียงก้าวเล็ก ๆ ของสหรัฐฯ ที่มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มขวัญและกำลังใจให้กับกลุ่มพันธมิตรของสหรัฐฯ ที่อยู่ในภูมิภาค โดยการปรับนโยบายของสหรัฐฯ ในซีเรียเห็นเด่นชัดขึ้น นับตั้งแต่รัสเซียเริ่มปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในซีเรีย แต่เพื่อจะให้ปฏิบัติการและการปรับนโยบายของสหรัฐฯ มีความน่าเชื่อถือ สหรัฐฯ อาจจะต้องทำมากกว่านี้ ซึ่งท้ายที่สุดก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประธานาธิบดีบารัค โอบามา‪#‎SyriaCrisis‬