ภรรยาร้องดีเอสไอให้รับสืบสวนคดี “บิลลี่” หรือพอละจีหายตัว
น.ส. พิณนภา พฤกษาพรรณ หรือมึนอ ภรรยาของนายบิลลี หรือพอละจี รักจงเจริญ นักกิจกรรมชาวกะเหรี่ยงในพื้นที่ บ้านบางกลอย อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ที่หายตัวไปร่วมปีเข้ายื่นหนังสือต่ออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อให้พิจารณารับคดีการหายตัวไปของสามีไว้สอบสวน โดยระบุว่ามีความกังวลเรื่องคดีที่ไม่มีความคืบหน้าและหวั่นเกรงผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ โดยมีพ.ต.ต. วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการศูนย์บริหารคดีพิเศษ เป็นผู้รับเรื่อง

ในการพูดคุยหลังยื่นหนังสือ ในช่วงเช้าวันนี้ (6 ส.ค.)มึนอแสดงความกังวลว่า คดีดังกล่าวผ่านมาแล้วปีกว่า และทางเจ้าหน้าที่ค้นพบหลักฐานบางอย่างเช่นเสื้อผ้าและรองเท้าของนายบิลลีแล้ว รวมถึงมีการตรวจดีเอนเอ แต่ก็แต่ยังไม่มีความคืบหน้า รวมถึงยังไม่ทราบผลพิสูจน์ดีเอนเอด้วย
ขณะเดียวกัน ล่าสุดหัวหน้าอุทยานแห่งชาติคนเดิมที่ถูกย้ายออกจากพื้นที่ ได้ย้ายกลับเข้ามาในพื้นที่ทำให้ครอบครัวและชาวบ้านเกิดความหวาดกลัว ไม่กล้าออกไปทำไร่
นางอังคณา นีละไพจิตร ประธานมูลนิธิยุติธรรมเพื่อสันติภาพ ซึ่งเดินทางไปพร้อมกับ น.ส. พิณนภา ระบุว่าเนื่องจากคดีดังกล่าวเกิดขึ้นมาหนึ่งปีกว่าแล้ว แต่ยังไม่เห็นความคืบหน้า และผู้เกี่ยวข้องกับคดีมีความกังวลว่าหากกระบวนการพิจารณาเนิ้นช้าออกไปพยานจะถูกคุกคาม
ด้านพ.ต.ต. วรณันได้รับจดหมายร้องเรียนไว้และชี้แจงว่า กรณีการหายตัวไปของนายพอละจี ต้องเสนอให้คณะกรรมการคดีพิเศษพิจารณาว่าคดีนี้เข้าลักษณะที่จะรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่ โดยต้องพิจารณาองค์ประกอบคือ คดีนี้เป็นคดีอาญาหรือไม่ มีคนสำคัญอยู่เบื้องหลังหรือไม่ และยังต้องพิจารณาด้วยว่าพนักงานสอบสวนทำอย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ ซึ่งกรณีการหายตัวของนายบิลลีจะสามารถบ่งชี้ว่าเป็นคดีฆาตกรรมหรือไม่นั้นต้องพิจารณาจากหลักฐานและประสานกับทีมสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธร ภาค 7 ต่อไป อย่างไรก็ตาม ยืนยันดีเอสไอให้ความสำคัญกับคดีดังกล่าวจึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบและพบหลักฐานเพิ่มเติมบางส่วน สำหรับการร้องเรียนวันนี้ ก็จะนำเอาไปพิจารณาเพิ่มเติม
นายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ เป็นผู้นำชุมชนและสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยแม่เพรียง อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ได้หายตัวไปเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2557 ซึ่งภายหลังนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ได้ออกมายอมรับว่าได้ควบคุมตัวนายบิลลี่ไปเพื่อสอบสวน โดยอ้างความผิดซึ่งหน้าว่าหลังจากค้นตัวนายบิลลี่เจอรังผึ้งและน้ำผึ้ง 6 ขวด แต่บอกว่า หลังจากนั้นได้ปล่อยตัวนายบิลลี่ไปแล้ว และยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการหายตัวไปของนายบิลลี่แต่อย่างใด นอกจากนี้ได้มีการสั่งย้ายหัวหน้าอุทยานหลังจากที่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและผลการสอบสวน สรุปว่าหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานรายดังกล่าวกระทำความผิดทางวินัยในการจับกุมตัวนายบิลลี่ ซึ่งครอบครองน้ำผึ้งป่า เพราะไม่ส่งตัวให้พนักงานสอบสวนตามระเบียบของทางราชการ

 
Top