ศาลแพ่งส่งประเด็นสืบพยานคดีพลทหารเสียชีวิตระหว่างประจำการ ไปสืบต่อที่ศาล จ.เชียงใหม่
เมื่อวานนี้ (26 ส.ค.) ศาลแพ่งรัชดา นัดสืบคดีที่พลทหารสมชาย ศรีเอื้องดอย ทหารในสังกัด ร.7 พ.1 ค่ายกาวิละ จ.เชียงใหม่ เสียชีวิตเมื่อวันที่ 29 ม.ค. 2557 ซึ่งแพทย์ระบุว่าเสียชีวิตจากการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ แต่ทนายโจทก์ระบุญาติยังติดใจสงสัย เพราะก่อนหน้าจะเสียชีวิตพลทหารสมชายโทรบอกแม่ว่าถูกซ้อมและเอาปี๊บคลุมหัว ด้านกระทรวงสาธารณสุขยืนยันตั้งแต่ต้นปีที่แล้วว่าผู้เสียชีวิตติดเชื้อ H1N1
คดีนี้นางสายสุดา ศรีเอื้องดอย แม่ของพลทหารสมชาย เป็นโจทก์ฟ้องกระทรวงกลาโหม จำเลยที่ 1 กองทัพบก จำเลยที่ 2 และ สำนักนายกรัฐมนตรี จำเลยที่ 3 ในข้อหา ละเมิดเรียกค่าเสียหาย หลังจากที่ศาลฟังการสืบพยานฝ่ายโจทก์แล้ว ศาลแพ่งได้ส่งประเด็นไปสืบโจทก์และจำเลยต่อที่ศาลจังหวัดเชียงใหม่ในวันที่ 9 และ11 ธันวาคม 2558
ทนายนิตยา หว่างไพบูลย์ จากสภาทนายความและสถาบันพัฒนานักกฎหมายสิทธิมนุษยชน ซึ่งอาสาทำคดีให้กับโจทก์ระบุว่า คดีนี้ ผู้เสียชีวิตเป็นชาวไทยเชื้อสายปกากะญอ ซึ่งสมัครพลทหาร สังกัด ร.7 พ.1 ค่ายกาวิละ จ.เชียงใหม่ ส่วนสาเหตุที่ต้องขึ้นไปสืบคดีต่อที่เชียงใหม่เพราะว่าคดีนี้เหตุเกิดที่เชียงใหม่ และพยานจำเลย 7 ปากเป็นเจ้าหน้าที่ทหารที่เชียงใหม่
สำหรับสาเหตุที่ญาติไม่ปักใจเชื่อว่าพลทหารสมชายเสียชีวิตเพราะไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่นั้น ทนายโจทก์ให้เหตุผลว่าเพราะผู้ตายโทรศัพท์คุยกับทางบ้านทุกวันและบอกว่าถูกซ้อม เอาปี๊บคลุมหัวและเอาอาวุธตีที่หลังและอกประมาณ 20 ครั้ง และขอให้แม่ทำพิธีล้างไข้ทางศาสนาให้ ทั้งนี้ ญาติมีสมมติฐานว่าหากผู้เสียชีวิตไม่ถูกซ้อมจนร่างกายอ่อนแอ แม้จะติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ก็น่าจะไม่เสียชีวิต
ทั้งนี้ เมื่อต้นปีที่แล้ว สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปสอบสวนโรคและผลการตรวจจากห้องทดลองพบว่าผู้ป่วยเสียชีวิตด้วยเชื้อไข้ไวรัส H1N12009 ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขได้ออกมายืนยันในช่วงเวลาเดียวกันว่าพลทหารสมชายติดเชื้อ H1N1 ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เดิมและมีรายงานพบผู้ป่วยในไทยได้ตลอดปี