น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเดินทางไปที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเช้าวันนี้เพื่อเข้าร่วมการตรวจสอบพยานหลักฐานในคดีถูกฟ้องในโครงการรับจำนำข้าว ท่ามกลางประชาชนจำนวนมากที่ไปให้กำลังใจ ในขณะที่ทนายความยื่นคำร้องขอให้โอนคดีไปศาลปกครองเนื่องจากเป็นเรื่องของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง รวมทั้งคัดค้านบัญชีเพิ่มเติมพยานหลักฐานของอัยการ
อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวระบุว่า ศาลฎีกายกคำร้องของทนายความทั้งสองเรื่อง โดยเห็นว่าศาลฎีกาเองมีอำนาจในการพิจารณาคดีนี้ได้เพราะเป็นคดีอาญา ส่วนในเรื่องบัญชีพยานหลักฐานที่ทนายอ้างว่าไม่เป็นธรรมนั้นศาลก็เห็นว่า ศาลสามารถจะเรียกพยานหลักฐานเพิ่มเติมเองได้ รวมทั้งจำเลยเองก็สามารถนำเสนอพยานหลักฐานเพิ่มเติมได้เช่นกัน
อดีตนายกรัฐมนตรีถูกฟ้องร้องว่าในระหว่างที่ดำรงตำแหน่ง ได้ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ปล่อยปละละเลยทำให้เกิดความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว
ก่อนหน้านี้นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความน.ส.ยิ่งลักษณ์ทวิตข้อความว่า ฝ่ายโจทย์เพิ่มหลักฐานนอกสำนวนจำนวนกว่า 60,000 หน้า และในการแถลงกับผู้สื่อข่าวหน้าศาลฎีกา น.ส.ยิ่งลักษณ์ระบุว่าในส่วนของพยานบุคคลนั้นฝ่ายอัยการยังได้ยื่นรายชื่อเพิ่มถึง 23 คนซึ่งไม่เคยเห็นหรือมีการไต่สวนมาก่อน
น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่าในส่วนของตนเองมีพยานบุคคลจำนวน 70 ปากที่จะเสนอ โดยระบุว่าส่วนหนึ่งเป็นพยานที่เบิกความในชั้นป.ป.ช.แต่ไม่ได้รับการไต่สวน
นสพ.ไทยโพสต์รายงานว่า ทั้งฝ่ายอัยการและจำเลยได้อ้างอิงพยานหลักฐานทั้งที่เป็นเอกสารและพยานบุคคลจำนวนมาก ศาลได้นัดให้ทั้งสองฝ่ายให้ร่วมกันตรวจพยานทุกวันพุธของสัปดาห์จนกว่าจะแล้วเสร็จ และได้นัดพร้อมคู่ความทั้งสองฝ่ายเพื่อกำหนดวันไต่สวนพยานในวันที่ 29 ต.ค.นี้
