0


อัยการสูงสุดตั้งคณะทำงานฟ้องคดีค้ามนุษย์โรฮิงญา เผยจำเลย 74 คน มีเจ้าหน้าที่ร่วมด้วยหลายคน ด้านหัวหน้าทีมสอบสวนเผยผลจากการทำคดีทำให้ถูกข่มขู่

ร.ท.สมนึก เสียงก้อง โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดแจ้งว่า เมื่อวันที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา อัยการสูงสุดได้มีคำสั่งแต่งตั้งพนักงานอัยการเป็นคณะทำงานจำนวน 18 คนเพื่อให้ทำหน้าที่ดำเนินคดีค้ามนุษย์ที่เพิ่งรับโอนมาจากศาลจังหวัดนาทวี คือเป็นโจทก์ฟ้องร้องนายบรรณจงหรือจง ปองพลกับพวกอีก 74 คน ซึ่งเป็นกรณีค้ามนุษย์กลุ่มชาวโรฮิงญา โดยนอกเหนือจากคดีดังกล่าวแล้ว ให้สามารถดำเนินคดีที่เกี่ยวข้องที่อาจนำมารวมพิจารณาด้วยกันได้

คดีค้ามนุษย์ดังกล่าวนี้เริ่มต้นจากการพบค่ายกักขังชาวโรฮิงญาเมื่อเดือน พ.ย. ปีที่แล้วในภาคใต้ของไทย และพบหลุมศพชาวโรฮิงญาอีกเป็นจำนวนร่วมสามสิบศพ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการสอบสวนขยายผลเพิ่มเติมสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ถึง 74 คน คดีนี้เดิมทีขึ้นกับศาลจังหวัดนาทวี สงขลาเนื่องจากเหตุเกิดในพื้นที่ดังกล่าว แต่เนื่องจากอัยการจังหวัดนาทวีเห็นว่า ควรโอนให้ดำเนินการในกรุงเทพฯเนื่องจากเป็นคดีสำคัญ มีลักษณะเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ มีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องจำนวนมากและเป็นที่สนใจของประชาชนและสื่อมวลชน รวมทั้งเกรงว่าอาจมีการขัดขวางการพิจารณา หรือมีการก่อความไม่สงบหรือเหตุร้ายอย่างอื่น นอกจากนั้นคดีนี้มีพยานหลักฐานจำนวนมาก บวกกับพยานโจทก์อีกถึง 200 ปาก ในที่สุดประธานศาลฎีกาเห็นชอบให้โอนคดีมาดำเนินการในกรุงเทพฯ และอัยการสูงสุดตั้งคณะทำงานขึ้นมารับมือดังกล่าว

สำหรับคณะทำงานชุดนี้มีอธิบดีกรมอัยการ สำนักงานคดีค้ามนุษย์เป็นหัวหน้าคณะ มีอัยการพิเศษฝ่ายคดีค้ามนุษย์ 1 คือนายวิโรจน์ ชัชวาลวงศ์เป็นเลขานุการ คดีนี้จะขึ้นศาลอาญาแผนกคดีค้ามนุษย์ โดยเป็นคดีแรกหลังจากที่ได้มีการตั้งศาลอาญาแผนกนี้ขึ้นมา ศาลได้นัดให้โจทก์แถลงแนวทางการดำเนินคดีไปแล้วเมื่อวันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา และเมื่อวันที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา ศาลได้นัดพร้อมเพื่อตรวจพยานหลักฐานของทั้งฝ่ายโจทก์และจำเลยในวันที่ 10-13 พ.ย.โดยกำหนดให้โจทก์ยื่นบัญชีพยานหลักฐานล่วงหน้าไม่น้อยกว่าเจ็ดวัน ร.ท.สมนึกระบุว่า ขณะนี้ศาลได้จัดเตรียมล่ามไว้พร้อมแล้วทั้งที่ใช้ภาษาเมียนมาร์และภาษาบังกลาเทศ

นอกจากคดีค้ามนุษย์แล้ว ในเวลาเดียวกันนี้ยังจะมีการดำเนินคดีกลุ่มบุคคลในคดีฟอกเงินไปพร้อมๆ กันอันเป็นคดีที่ต่อเนื่องจากคดีค้ามนุษย์คือชาวโรฮิงญา คดีนี้มีผู้ต้องหาทั้งสิ้น 81 คน ที่สามารถจับกุมได้และฝากขังไว้มีทั้งหมด 13 คนรวมไปถึงพล.ท. มนัส คงแป้นที่ศาลอาญาสั่งให้โอนคดีมาดำเนินการที่กรุงเทพฯแล้ว ในคดีนี้ผู้ต้องหาสองคนเสียชีวิตไปแล้ว สำหรับคนที่ยังเหลือที่ยังจับไม่ได้ ศาลได้ออกหมายจับแล้วจำนวน 65 คน ซึ่งในจำนวนนี้รวมเจ้าหน้าที่รัฐหลายรายด้วย

ด้านสำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า พล.ต.ต.ประวีณ พงศ์สิรินทร์ซึ่งเป็นหัวหน้าทีมสืบสวนสอบสวนคดีนี้ที่เห็นว่า ยังไม่ควรรีบร้อนปิดคดีและควรจะต้องสืบสวนขยายผลต่อเพราะว่าปัญหานี้หมักหมมเนื่องจากเกิดมาหลายปีแล้ว พล.ต.ต.ประวีณบอกว่า คนที่ถูกจับกุมมีทั้งหมดกว่า 90 คนซึ่งรวมไปถึง พล.ท.มนัส และยังมีเจ้าหน้าที่ทหารอีกนายหนึ่งที่ถูกจับ และยังมีที่หลบหนีอยู่อีกสามนาย พล.ต.ต.ประวีณบอกกับเอเอฟพีว่า ผลของการทำงานในคดีนี้ทำให้เขาถูกข่มขู่ มีผู้ฝากข้อความให้ระมัดระวังตัว และขณะนี้พล.ต.ต.ประวีณได้ถูกย้ายเข้าไปทำงานในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้แล้ว

#Rohingya #HumanTrafficking

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

 
Top