แถลงดำเนินคดีเครือข่ายหมอหยองและพวกรวม 13 คดี
พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต. อ. ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต. ต. ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และพล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกันแถลงข่าวช่วงบ่ายวันนี้ ที่ห้องประชุมศรียานนท์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถึงกรณีการจับกุม นายสุริยันต์ สุจริตพลวงศ์ หรือหมอหยองกับพวกอีกสองคน โดยเบื้องต้นนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า มีผู้ต้องหา 3 ราย ได้แก่นายสุริยันต์ นายจิรวงศ์ วัฒนเทวาศิลป์ และพ.ต.ต.ปรากรม วรุณประภา ซึ่งได้ร่วมกันกระทำผิดหลายกรรมหลายกระทรวง รวมทั้งสิ้น 13 คดี เป็นความผิดที่เกิดตั้งแต่เดือน มิถุนายนจนถึงเดือนตุลาคม
สำหรับฐานความผิด เจ้าหน้าที่ระบุว่า ประกอบไปด้วยการแอบอ้างเบื้องสูง เรียกรับสิ่งของและเงินจากเอกชนหลายราย เป็นจำนวนเงินรวมราว 5.9 ล้านบาท ซึ่งเป็นพฤติการที่เป็นความผิดอาญามาตรา 112 หรือความผิดฐานหมิ่นสถาบันกษัตริย์
นอกจากนี้ มีความผิดฐานครอบครองอาวุธสงครามโดยไม่ได้รับอนุญาต ความผิดฐานครอบครองวิทยุสื่อสารโดยไม่ได้รับอนุญาต และจากการสืบสวนสอบสวน คาดว่าจะมีการเรียกสอบพยานและการออกหมายเรียกบุคคลเพิ่มเติมอีกจำนวนมาก โดยคาดว่าจะใช้เวลาการในสืบสวนสอบสวนคดีนี้ราว 2-3 เดือน
ส่วนการถอดอดีตโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ประวุฒิ ถาวรศิรินั้น ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติระบุว่าเป็นอำนาจของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และเป็นการบริหารจัดการภายใน ส่วนพล.ต.อ.ประวุฒิเกี่ยวข้องกับคดีนี้หรือไม่นั้น ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลใดๆ และเรื่องการลาพักร้อนของพล.ต.อ.ประวุฒิ ก็เป็นสิทธิที่จะลาพักได้ พร้อมทั้งยืนยันว่ายังไม่ได้รับใบลาออกจากอดีตโฆษก สตช. แต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวตั้งข้อสังเกตว่า ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้นำเอาอาวุธสงครามจำนวนมากมาแสดงโดยระบุว่าเป็นหลักฐานซึ่งยึดได้จาก พ.ต.ต. ปรากรม พร้อมทั้งมีทรัพย์สินอื่นๆ ของผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย และมีการจัดแสดงภาพรถยนต์และจักรยานยนต์ที่ถูกยึดไว้ตรวจสอบ รวม 19 คัน นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดวางผังเรื่องการจัดทำเข็มกลัดสำหรับกิจกรรมสำคัญ 2 กิจกรรม และมีการเปิดเผยชื่อเอกชนที่เกี่ยวข้องกับการทำเข็มกลัด แต่ในภายหลังได้ปลดผังดังกล่าวลง เหลือเพียงรายละเอียดของกลางเท่านั้น โดยพล.ต.ต. ศรีวราห์ ได้กล่าวเตือนผู้สื่อข่าวให้นำเสนอข่าวด้วยความระมัดระวัง ไม่ทำซ้ำความผิดอาญามาตรา 112 และไม่ก่อความเสียหายให้กับเอกชน
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น