0

พบตัวผู้ป่วยโรคเมอร์สในไทยเป็นรายที่ 2
นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สาธารณสุข แถลงผลการตรวจเชื้อเมอร์สของชายชาวโอมานวัย 71 ปี เป็นบวก ขณะนี้พักรักษาตัวที่ห้องแยกโรค สถาบันบำราศนราดูร และเฝ้าระวังบุตรชายซึ่งมีความเสี่ยงสูง ระบุต้องติดตามลูกเรือและผู้โดยสารบนเครื่องบินอีก 218 คนที่ยังอยู่ในประเทศไทย ด้านคนขับแท็กซี่ที่นำตัวชายดังกล่าวไปส่งโรงพยาบาลได้ติดต่อมายังสถาบันบำราศนราดูเพื่อเฝ้าระวังอาการแล้ว
นอกจากลูกเรือและผู้โดยสารเครื่องบินลำเดียวกับผู้ป่วย ยังมีพนักงานโรงแรม 1 คน และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล 30 คน
ผู้ป่วยรายดังกล่าวเป็นชายชาวโอมาน อายุ 71 ปี เดินทางเข้ามารักษาตัวที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ และจากการสอบประวัติพบว่า ชายรายดังกล่าวเข้ารับการตรวจเชื้อเมอร์สที่ประเทศโอมานก่อนแล้ว แต่ไม่รอผลการตรวจเชื้อ และตัดสินใจเดินทางมารักษาที่ประเทศไทยพร้อมบุตรชายโดยไม่ได้แจ้งผ่านระบบการส่งต่อระหว่างประเทศ
ทั้งนี้ ผลการตรวจเชื้อเมอร์สทั้งที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และสถาบันบำราศนราดูร ได้ผลเป็นบวก
เวลาประมาณ 12.40 น. วันนี้ คนขับแท็กซี่ที่รับชายชาวโอมานไปส่งโรงพยาบาลได้ติดต่อมายังสถาบันบำราศนราดูร ซึ่งเบื้องต้นสถาบันบำราศนราดูรได้รับตัวไว้เพื่อสังเกตอาการ อย่างไรก็ตามได้อนุญาตให้ภรรยาและบุตรกลับบ้านได้ และได้แนะนำแนวทางเฝ้าระวังโรคและสังเกตอาการ
นพ.โสภณ เมฆธนปลัดกระทรวงสาธารณสุขระบุว่า ระยะเวลาเฝ้าระวังคือ 14 วัน และคำแนะนำของประชาชนทั่วไปคือ ควรหมั่นล้างมือ และใช้ช้อนกลาง สำหรับผู้ที่เดินทางไปประเทศที่มีการระบาดของเชื้อเมอร์ส หลังจากกลับเข้าประเทศไทยแล้ว ภายใน 14 วัน หากมีอาการไข้ ให้ติดต่อแพทย์ทันที และหากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามจากสายด่วนกรมควบคุมโรค 1422
ภาพ: บรรยากาศที่สถาบันบำราศนราดูร บ่ายนี้ หลังมีการแถลงข่าวพบผู้ติดเชื้อเมอร์ส โดยผู้ป่วยรายดังกล่าวอยู่ในห้องแยกโรค ขณะที่แท็กซี่ที่รับผู้โดยสารรายดังกล่าว ติดต่อเข้ามายังสถาบันฯ ขณะนี้อยู่ระหว่างเฝ้าระวังโรคและสังเกตอาการ


แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

 
Top