RIP David Bowie ในมุมนักดูหนัง
ลูกชาย Bowie กับเมียคนแรกคือ Duncan Jones ผู้กำกับหนัง Moon (2009) หนังนิยายวิทยาศาสตร์เล็กๆ ซึ่งนักวิจารณ์ชื่นชม (Roger Ebert ให้ 3 ดาวครึ่งจาก 4 ดาว) แล้วก้าวมากำกับ Source Code (2011) เป็นหนังทำเงิน ผลงานเรื่องหน้าคือ Warcraft (2016) หนังสร้างจากวีดิโอเกม
ไม่แปลกเลยเพราะ David Bowie แสดงหนังไว้หลายเรื่อง แม้มีบางเรื่องล้มเหลว แต่ก็มีหลายเรื่องโดดเด่น เริ่มจาก The Man Who Fell to Earth (1976) หนังนิยายวิทยาศาสตร์ของผู้กำกับ Nicolas Roeg เรื่องมนุษย์ต่างดาวที่มาโลกเพื่อหาทางเอาน้ำกลับไป แล้วได้เรียนรู้วัฒนธรรมโลกจากสาวเสิร์ฟ ซึ่งมีทั้งไปโบสถ์ เซ็กส์ และแอลกอฮอล์ จัดเป็นหนัง cult ที่มีแฟนคลับชื่นชอบมากกับสไตล์เหนือจริงแบบเฮี้ยนๆ ซึ่งเข้ากับการแสดงของ Bowie (อ้อ ฉากนู้ดในหนังนี่ระดับ explicit เลยละ)
หนังอื่นๆ ที่เขาแสดงได้แก่ The Hunger (1983) หนังแวมไพร์อีโรติก ของ Tony Scott นำแสดงกับ Catherine Deneuve และ and Susan Sarandon เสียดายหนังออกมาไม่ค่อยลงตัว (แต่แค่เห็น Deneuve กับ Sarandon แสดงคู่กันก็คุ้มแล้ว)
Labyrinth (1986) ของ Jim Henson แสดงกับเจนนิเฟอร์ คอนเนลลี ที่ตอนนั้นอายุแค่ 15 The Last Temptation of Christ (1988) ของ Martin Scorsese. Twin Peaks: Fire Walk with Me (1992) ของ David Lynch
น่าสังเกตว่า Bowie นี่ถูกใจผู้กำกับดังที่ชอบทำหนังแปลกๆ แต่ก็มีหลายเรื่องที่ล้มเหลวเช่น Just a Gigolo (1978) Absolute Beginners (1986) The Linguini Incident (1991)
ผลงานที่คนจดจำได้มากที่สุดอีกเรื่องคือ Merry Christmas, Mr. Lawrence (1983) ที่กำกับโดย Nagisa Oshima (เคยดูหนัง In the Realm of the Senses ไหม) เรื่องของนายทหารญี่ปุ่น (Ryuichi Sakamoto) ที่หลงรักนายทหารนิวซีแลนด์เชลยศึก ซึ่งฉากไคลแมกซ์คือ Bowie จูบแก้ม Sakamoto หน้าแถวทหาร ทำให้ Sakamoto ลมจับ แต่ Bowie ก็ถูกฝังดินแค่คอจนตาย (ชีวิตจริง Bowie รับว่าเป็น Bi) ฉากจูบนี่ฮือฮามาก เพราะนั่นมัน 32 ปีที่แล้ว
Sakamoto ประพันธ์ดนตรีประกอบหนังเรื่องนี้เอง ได้รางวัล Bafta สาขา Best Score แล้วต่อมาก็ก้าวไปชนะออสการ์จาก The Last Emperor (1987) ชนะลูกโลกทองคำจาก The Last Emperor และ Sheltering Sky เข้าชิงล่าสุดจาก The Revenant
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น