อัยการสูงสุดสั่งฟ้องเอกชนเพิ่มอีก 7 รายคดีจำนำข้าว
อัยการสูงสุด (อสส.) ยื่นฟ้องคดีอาญาบริษัทเอกชนและกลุ่มบุคคลอีกรวม 7 ราย ฐานผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและทุจริตกรณีการระบายข้าวแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล หรือจีทูจีในโครงการรับจำนำข้าว ส่วนการไต่สวนคดี อสส. เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลยในคดีทุจริตโครงการจำนำข้าวจะเริ่มการไต่สวนพยานโจทก์ในวันศุกร์ที่ 15 ม.ค. นี้
เช้านี้ นายชุติชัย สาขากร รองอัยการสูงสุด นายกิตินันท์ ธัชประมุข รองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน และ นายพันธุ์โชติ บุญศิริ อัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน1 ได้ร่วมกันแถลงว่า อัยการสูงสุดได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องห้างหุ้นส่วนจำกัดโรงสีกิจทวียโสธร กับพวกรวม7คน เป็นจำเลยต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในข้อหาตามที่ คณะกรรมการ ป.ป.ช.กล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา151 และ157 มาตรา83 มาตรา91 พ.ร.บ.การป้องกันและปราบปรามการทุจริต มาตรา4 และมาตรา123/1 พร้อมนำสำนวนการไต่สวนและเอกสารต่างๆรวม300กล่อง 2,280แฟ้ม หรือประมาณ 85,990แผ่น ยื่นต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
จำเลยทั้ง 7 รายประกอบด้วย นิติบุคคล 4 ราย และบุคคลธรรมดา 3 ราย ได้แก่ ห้างหุ้นส่วนจำกัดโรงสีกิจทวียโสธร, บริษัท กิจทวียโสธร ,บริษัทเค เอ็ม ซี อินเตอร์ไรซ์ 2002 จำกัด และบริษัทเจียเม้ง จำกัด นายทวี อาจสมรรถ นายปกรณ์ ลีศิริกุล และนางประพิศ มานะธัญญา
ทั้งนี้ ศาลนัดฟังคำสั่งว่าจะรับหรือไม่รับในวันที่ 25 ก.พ. เวลา 10.00 น.
สำหรับคดีที่อสส. ฟ้องน.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย ในคดีที่กล่าวหาว่ากระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1 กรณีปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว นั้นจะเริ่มมีการไต่สวนพยานโจทก์ปากแรกในวันศุกร์ที่จะถึงนี้ โดยพยานที่จะให้การในศาลมีทั้งสิ้น 56 ปาก แบ่งเป็นพยานโจทก์ 14 ปาก และพยานจำเลย 42 ปาก ซึ่งจะมีการไต่สวนทั้งหมด 21 นัด โดยคาดว่าน่าจะมีการตัดสินในปลายปีนี้
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น