0
ผู้บริหารบริษัทยักษ์ใหญ่ของโลกมองเศรษฐกิจโลกปีนี้ไม่สดใส 

ผลสำรวจของบริษัทไพร้ซวอเตอร์เฮาส์คูเปอร์ส บริษัทที่ปรึกษาด้านการลงทุนระบุว่า บรรดาผู้บริหารบริษัทยักษ์ใหญ่ของโลก มองภาวะเศรษฐกิจโลกในปีนี้ไปในทางลบกว่าเมื่อปีที่แล้ว มีผู้ตอบแบบสอบถามเพียง 27% เท่านั้น ที่มองว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้น ผิดกับเมื่อปีที่แล้วที่มีถึง 37% โดยพวกเขาเป็นห่วงถึงปัจจัยเสี่ยงด้านภูมิศาสตร์การเมือง การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน และราคาน้ำมันที่ลดลง

ทั้งนี้ บริษัทไพร้ซวอเตอร์ฯ ได้สอบถามความเห็นของผู้บริหารบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลก 1,400 คน จาก 83 ประเทศทั่วโลก และได้เปิดเผยผลออกมาก่อนหน้าการประชุมเวิลด์ อีโคโนมิค ฟอรั่ม ในเมืองดาวอส สวิตเซอร์แลนด์ ที่เปิดฉากเมื่อวาน (20 ม.ค.) และในเวลาไล่เลี่ยกับรายงานของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ที่ได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจโลก โดยไอเอ็มเอฟประเมินว่าปีนี้เศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 3.4% จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ที่ 3.6% เมื่อเดือนตุลาคม

ช่วงที่ผ่าน ตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลกปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะนักลงทุนเป็นห่วงว่า ราคาน้ำมันที่ลดลงจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อตลาดเกิดใหม่ รวมทั้งการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ในบรรดาผู้บริหารที่ตอบแบบสอบถามในครั้งนี้ ผู้บริหารของบริษัทในสหรัฐฯ มองแนวโน้มเศรษฐกิจโลกไปในทางลบมากที่สุด ขณะที่ผู้บริหารบริษัทในอินเดียมองแน้วโน้มไปในทางบวกมากที่สุด โดยพวกเขาให้เหตุผลว่า มาจากบรรยากาศในการทำธุรกิจที่ดูสดใสภายใต้การบริหารประเทศของนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี #Davos2016#WEF2016



แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

 
Top