0
มูลนิธิเอเชียวิเคราะห์สถานการณ์ย่านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปี 2559  ชี้เมียนมาร์เป็นประชาธิปไตยที่สุดบนแผ่นดินใหญ่อุษาคเนย์ ขณะทหารไทยมุ่งสร้างระบอบชนชั้นนำควบคุมประเทศ
บทวิเคราะห์ของมูลนิธิเอเชีย กล่าวว่า ประชาธิปไตยในประเทศไทยจะยังคงเสื่อมถอยต่อไป ย้อนหลังไปเมื่อไม่กี่ปีก่อน ไม่มีใครคาดคิดว่า เมียนมาร์จะกลายเป็นประเทศที่เป็นประชาธิปไตยมากที่สุดในภาคพื้นทวีปของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
แม้รัฐบาลทหารของไทยป้องกันไม่ให้เกิดการปะทะในหมู่พรรคการเมือง ทว่าความแตกแยกทางการเมืองอย่างลึกซึ้งยังคงมีอยู่ ยังมองไม่เห็นโอกาสของความปรองดอง การคว่ำร่างรัฐธรรมนูญของสภาปฎิรูปแห่งชาติเมื่อเดือนกันยายน 2558 ทำให้การเลือกตั้งต้องเลื่อนออกไปเป็นกลางปี 2560 เป็นอย่างเร็วที่สุด
บทวิเคราะห์ระบุว่า เป้าหมายหลักของกองทัพไทย คือ กีดกันไม่ให้พันธมิตรหรือตัวแทนของทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับมาครองอำนาจอีก สิ่งที่กองทัพต้องการ คือ “ประชาธิปไตยนำวิถี” ซึ่งชนชั้นนำดั้งเดิมควบคุมกลไกต่างๆของประเทศ
@  ผู้สนับสนุนพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย เลือกซื้อปฏิทินภาพนางอองซาน ซูจี เนื่องในวันชาติ เมื่อ 4 มกราคม 2555 
ในปี 2558 ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือจีดีพี ของไทย ขยายตัว 3.2 % นับเป็นอัตราต่ำสุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แม้ได้ยุติโครงการรับจำนำข้าวซึ่งใช้เงินมหาศาล แต่รัฐบาลทหารยังคงจ่ายเงินอุดหนุนและแจกเงินในรูปแบบต่างๆแก่เกษตรกรรายย่อยต่อไป
รอบปีที่ผ่านมา ภาวะภัยแล้งทำให้ผลผลิตทางการเกษตรลดลง 20-30 % คาดว่าในปี 2559 ไทยจะยังคงเผชิญภัยแล้งต่อไป ซึ่งจะส่งผลต่อรายได้ของชาวชนบท และการใช้จ่ายของผู้บริโภค
บทวิเคราะห์ ซึ่งเขียนโดยจอห์น เจ. แบรนดัน ผอ.อาวุโสของโครงการความร่วมมือระดับภูมิภาคของมูลนิธิฯ ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สรุปว่า เมื่อพิจารณาสถานการณ์ต่างๆข้างต้น คาดว่าประเทศไทยจะเผชิญความยากลำบากในการแสวงหาจุดประนีประนอมทางการเมือง.

Source: Asia Foundation
Photo:  AFP


แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

 
Top