ทหารมีไว้ทำไม มีไว้จับจ่านิวด้วยพฤติกรรมเยี่ยงโจร
อุ้มคนไปโดยไม่แสดงตนไม่แสดงหมายจับ เป็นการกระทำของโจร ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ ไม่ใช่แค่ละเมิดสิทธิมนุษยชน แต่ไม่มีนิติรัฐ ระบอบการปกครองด้วยกฎหมาย ทุกคนอยู่ใต้กฎหมาย ตำรวจทหารก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ถ้าไม่มีนิติรัฐ มันก็คือระบอบบ้านป่าเมืองเถื่อน นี่ไม่เพียงแต่ปล้นอำนาจแล้วประกาศคำสั่งของตัวเองเป็นกฎหมาย หากยังละเมิดกฎหมายเสียเองด้วย
ข้อเขียนของ อ.นิธิ "ทหารมีไว้ทำไม" เฉียบคมมาก เพราะรัฐประหารครั้งนี้สถาบันกองทัพเอาอนาคตตัวเองเข้ามาทุ่มสุดตัว โดยยังไม่เห็นทางบรรลุเป้าหมาย ยังไม่เห็นทางลง ได้แต่แกว่งปืนอยู่บนยอดเขา ให้มันค้างอยู่อย่างนี้ละครับ ถ้าพังก็พังทั้งสถาบันกองทัพ และถึงเวลาปฏิรูปกองทัพเสียที
0000000
“ทหารมีไว้ทำไม” อ.นิธิ เอียวศรีวงศ์ เพิ่งถาม ไม่กี่วันได้คำตอบ ทหารมีไว้จับจ่านิวไง
อุตส่าห์ไปชูป้ายให้จับตำรวจไม่จับ มีหมายจับแล้วจะมาเอาตัวเมื่อไหร่ก็ได้ แค่ไปที่บ้านเหมือนเมื่อครั้งไปดูเครื่องซักผ้า บอกแม่แล้วเอาตัวมา จ่านิวจะหนีไปไหน ทำไมต้องใส่ผ้าปิดหน้า ใช้รถปิกอัพปิดป้ายทะเบียน “อุ้ม” มาจากประตูธรรมศาสตร์
ทำเอาเพื่อนๆ ตกอกตกใจ นึกว่า “โจร” จับไป ที่ไหนได้ทหารจับ แถมนายกฯ ยืนยันว่าจับได้ทุกรูปแบบ ทีจับโจรอื่นทำไมไม่พูดบ้าง
แต่นี่นักศึกษานะครับ ไม่ใช่โจร ถึงแม้เรียนหลายปีไม่จบก็เป็นเรื่องของเขากับมหาวิทยาลัย นักศึกษาเรียน 5-6 ปีมีถมไป ท่านพูดทำไมว่าธรรมศาสตร์ต้องไปดู เดี๋ยวคนก็เข้าใจผิดว่าท่านอยากให้ธรรมศาสตร์ซึ่งท่านตั้งอธิการบดีเป็น สนช. ตั้งรองอธิการฯเป็นกรธ. (กินเงินเดือนสองต่อ) กดดันจ่านิวหยุดเคลื่อนไหวไม่งั้นจะถูกรีไทร์
แล้วไม่ว่านักศึกษาหรือโจรที่ไหน ไม่ว่าทำผิดกฎหมายอะไร เมื่อเขาไม่ได้หลบหนี ไม่มีอาวุธ เจ้าหน้าที่ผู้จับกุมก็ต้องแสดงตนโดยเปิดเผย แสดงหมายจับ แล้วจึงนำตัวไป ไม่ใช่อุ้มหายไปเหมือนลักพาตัว อีก 2 ชั่วโมงกว่าค่อยพาไปส่งสน.
คนรักท่านผู้นำ คนเกลียดนักศึกษาไม่ตรวจสอบจำนำข้าว อาจเชื่อว่าจ่านิวโกหก ที่อ้างว่าถูกทหารข่มขู่คุกคาม ถูกคลุมหัวไปนั่งเตะถีบในป่าหญ้า เอาอะไรคล้ายปืนมาจ่อหัวทำเสียงแก๊กๆ แต่คนเห็นใจนักศึกษาก็จะถามว่าถ้าเจตนาบริสุทธิ์ทำไมต้องอุ้มหายไป
นี่ไงที่เรียกว่า “สิทธิมนุษยชน” ภายใต้หลักนิติรัฐ ซึ่งไม่ได้แปลว่าส่งเสริมให้คนละเมิดกฎหมาย แต่เจ้าหน้าที่ก็ต้องทำตามกฎหมาย ต้องแสดงตน แสดงหมายจับ ต้องเคารพสิทธิของผู้ถูกจับกุม “นิติรัฐ” แปลว่าทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย รวมทั้งตำรวจทหาร ไม่ใช้อำนาจได้ตามอำเภอใจ ไม่เช่นนั้นก็เป็นระบอบ “อำนาจเถื่อน” ไม่ใช่การปกครองด้วยกฎหมาย
นี่ยังไม่พูดถึง “กฎหมายคืออะไร” เพราะกฎหมายที่ท่านบอกให้ทุกคนเคารพ คือประกาศ คำสั่งคสช. คือกฎหมายความมั่นคงที่ห้ามต่อต้านคสช. แถมกฎหมายชุมนุมสาธารณะ (ที่ตีความว่าการขึ้นรถไฟถือเป็นการชุมนุมชนิดหนึ่ง) ซึ่งออกในยุคท่าน ไม่ได้มีความชอบธรรมทางประชาธิปไตย ไม่ผ่านการโต้แย้งลงมติโดยผู้แทนประชาชน
คำถามคือเรากำลังปกครองด้วยระบอบอะไร ระบอบทหารหรือระบอบกฎหมาย ถ้าใช้ระบอบทหารก็ไม่ต้องอ้างความชอบธรรมทางกฎหมาย เพราะระบอบกฎหมายต้องมีหลักเกณฑ์ แต่ระบอบทหารมีหลักเดียวคือทำตามคำสั่ง เชื่อฟังผู้บังคับบัญชา กระทั่งสั่งให้ไปตายก็ต้องไป
พูดอย่างนี้ไม่ใช่ไม่เข้าใจความคิดทหาร ทหารมีไว้ทำไม ไว้ทำรัฐประหารก็ได้ เพราะทหารถูกปลูกฝังให้เชื่อว่ารักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ มากกว่าใคร กระทั่งพร้อมพลีชีพได้ ทหารมีแสนยานุภาพ มีวินัย เป็นปึกแผ่น ถ้าไม่ใช่พวกท่านแล้วใครจะเข้ามาแก้ปัญหาประเทศชาติ
ทหารยึดอำนาจได้ไม่ยาก แม้คนรักประชาธิปไตยมีมาก แต่ประชาธิปไตยยิ่งพัฒนาก็ยิ่งรักสันติ ตกผลึกว่าวิถีทางการต่อสู้ด้วยอาวุธหรือการนองเลือดไม่คุ้มค่า มีแต่รอเวลาให้สังคมคลี่คลายด้วยเหตุผล ทหารจึงมีอำนาจได้ ในสถานการณ์ที่คนจำนวนหนึ่งชื่นชอบ คนจำนวนหนึ่งไม่ยอมรับ และคนอีกจำนวนหนึ่งก็ไม่สนใจ เอาแต่ดูข่าวดาราตบกัน หรือข่าวตามล่าหาควายเผือก หาควายพ่อควายแม่ อย่างที่ท่านนายกฯ เคยพูด
ทหารยึดอำนาจได้ ใช้อำนาจได้ แต่จะลงจากอำนาจไม่ได้ นับวันยิ่งต้องใช้อำนาจมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะทหารต้องการให้คนไทยคิดเหมือนกัน คิดเหมือนทหาร ทหารต้องการสร้างประชาธิปไตย แต่เป็นประชาธิปไตยในทัศนะทหาร อย่างที่ “เพนกวิน” เขียนเรื่องเล่าจากเขาชนไก่ เป็นระบบคิดตกค้างจากอดีต 40-50 ปีที่ทำให้นักศึกษาวิชาทหารหลับสบาย
ไม่ต้องแปลกใจ ร่างรัฐธรรมนูญกี่ฉบับก็มองไม่เห็นทางออก กลับสู่เลือกตั้งเมื่อไหร่ก็วุ่นวาย ไม่รู้จะเกิดอะไร เพราะร่างรัฐธรรมนูญภายใต้ทัศนะกองทัพและเครือข่ายอนุรักษนิยม มีแต่พันธนาการสังคมรอระเบิดเวลา อยู่กับพล.อ.ประยุทธ์อย่างนี้ต่อไปดีกว่า
แต่ถ้ากองทัพปล่อยคลายไม่ได้ ลงจากอำนาจไม่ได้ ต้องแบกรับภาระต่อไป ก็ไม่รู้ว่าจะถึงทางตันเมื่อไหร่ ไม่รู้อนาคตจะเป็นอย่างไร ทั้งอนาคตประเทศ อนาคตกองทัพ ระวังนะครับ คำถาม “ทหารมีไว้ทำไม” จะเกิดขึ้นเรื่อยๆ อย่าให้ทุกอย่างตีกลับก็แล้วกัน
source :- FB Atukkit Sawangsuk & http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1453468050
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น