TCIJ: เจาะเวลาหาอดีต แบบแผน‘การเกิด-ดับ’ ของรัฐบาลไทยช่วงปี 2518 ถึง 2539

<div style="color: #333333; font-family: 'Open Sans', sans-serif; font-size: 16px; line-height: 22.8571px; margin: 10px;"> <strong>TCIJ: เจาะเวลาหาอดีต แบบแผน‘การเกิด-ดับ’ ของรัฐบาลไทยช่วงปี 2518 ถึง 2539</strong></div> <div style="color: #333333; font-family: 'Open Sans', sans-serif; font-size: 16px; line-height: 22.8571px; margin: 10px;"> Posted: 29 May 2016 11:34 PM PDT  (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เวบไซท์ประชาไท)</div> <div style="color: #333333; font-family: 'Open Sans', sans-serif; font-size: 16px; line-height: 22.8571px;"> <div> ย้อนดู ‘แบบแผน’ ของการจัดตั้งรั<wbr></wbr>ฐบาลของประเทศไทย การดำรงอยู่ และจุดจบของรัฐบาลทั้งรูปแบบ ‘เผด็จการ ประชาธิปไตยครึ่งใบ และประชาธิปไตย’ ในช่วงปี 2518-2539</div> <div> <img alt="" class="aligncenter" data-mce-src="https://blogger.googleusercontent.com/img/proxy/AVvXsEjGTziEMXuDqAszRoV9DdLv4bX2NrtzlPquRSOZRiZ4EvEWSv6L8nPASggPCmzHC31bBovXgY2J2Fv80HVPOAq4IyYyFEdN-NWWwoT8aEMjw_ndCdC64vhvgUbaty18N_1AtQYygquuAuMaQOdGmv0OC1042t9ReXho5NZb0j7rBr9t-A=s0-d-e1-ft" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/proxy/AVvXsEjGTziEMXuDqAszRoV9DdLv4bX2NrtzlPquRSOZRiZ4EvEWSv6L8nPASggPCmzHC31bBovXgY2J2Fv80HVPOAq4IyYyFEdN-NWWwoT8aEMjw_ndCdC64vhvgUbaty18N_1AtQYygquuAuMaQOdGmv0OC1042t9ReXho5NZb0j7rBr9t-A=s0-d-e1-ft" style="border: 0px; display: block; height: auto; margin: 0px auto 15px; max-width: 100%; vertical-align: middle;" /></div> <div>  </div> <div> จากรายงานวิจัยเรื่อง 'รูปแบบรัฐบาลในระบบรัฐสภาไทย ระหว่าง พ.ศ. 2518-2539' โดย ธีรภัทร เสรีรังสรรค์ ด้วยเงินทุนสนับสนุนของสำนั<wbr></wbr>กงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เผยแพร่เมื่อปี 2541 ที่ได้ศึกษาถึงลักษณะความแตกต่<wbr></wbr>างของรูปแบบรัฐบาลในช่<wbr></wbr>วงระยะเวลา 20 ปีเศษดังกล่าว และศึกษาปัจจัยที่ทำให้เกิ<wbr></wbr>ดความแตกต่างของรูปแบบรัฐบาล รวมถึงทัศนคติของกลุ่มบุคคลสำคั<wbr></wbr>ญที่มีต่อรูปแบบรัฐบาล  ศึกษาเปรียบเทียบที่มาและการล่<wbr></wbr>มสลายของรัฐบาลแต่ละรู<wbr></wbr>ปแบบภายใต้ระบอบการเมืองที่มี<wbr></wbr>ความแตกต่างกัน รวมทั้งที่มาและองค์<wbr></wbr>ประกอบของคณะรัฐมนตรีในแต่ละรั<wbr></wbr>ฐบาล</div> <div>  </div> <div> โดยงานวิจัยชิ้นนี้ศึกษาเริ่<wbr></wbr>มจากรัฐบาลของ ม.ร.ว. เสนีย์ ปราโมช จนถึง รัฐบาลนายบรรหาร ศิลปอาชา มีการสำรวจทัศนคติของกลุ่มบุ<wbr></wbr>คคลชั้นนำทางการเมืองไทย โดยเฉพาะกลุ่มสมาชิกผู้แทนสภาผู<wbr></wbr>้แทนราษฎร กลุ่มสมาชิกวุฒิสภา นักวิชาการ ข้าราชการประจำระดับสูง รวมถึงผู้ทรงคุณวุฒิอื่น ๆ ประมาณ 100 คน โดยผลวิจัยมีข้อค้นพบสำคัญด้าน แบบแผนการจัดตั้งรัฐบาลและการจั<wbr></wbr>ดความสัมพันธ์ทางการเมือง  ที่อาจเป็นข้อสังเกตสำหรั<wbr></wbr>บสถานการณ์ในปัจจุบัน</div> <div>  </div> <div> <strong>ปัจจัยและความแตกต่าง ระหว่างปี 2518-2539</strong></div> <div>  </div> <div> ในช่วงระยะเวลา 20 ปี ดังกล่าว (2518-2539) มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบรั<wbr></wbr>ฐบาลในระบบรัฐสภาไทยทั้ง 3 รูปแบบคือ มีรัฐบาลรูปแบบเผด็จการ  รัฐบาลรูปแบบประชาธิปไตย และรัฐบาลรูปแบบกึ่งประชาธิปไตย ซึ่งปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่<wbr></wbr>ความแตกต่างของรูปแบบการปกครอง สรุปได้ดังนี้</div> <div>  </div> <div> รัฐธรรมนูญ ในการกำหนดรูปแบบของรั<wbr></wbr>ฐบาลในระบบรัฐสภาไทยในช่<wbr></wbr>วงเวลาตั้งแต่ พ.ศ.2018-2539 ปัจจัยสำคัญที่สุดคือกฎหมายรั<wbr></wbr>ฐธรรมนูญ โดยรัฐธรรมนูญที่ใช้<wbr></wbr>ปกครองประเทศจะกำหนดหลักเกณฑ์<wbr></wbr>กติกาออกมาว่าในเวลานั้น ๆ ประเทศจะปกครองด้วยรูปแบบใด  จะปกครองด้วยรูปแบบเผด็จการ  รูปแบบประชาธิปไตย  หรือว่ารูปแบบกึ่งประชาธิปไตย  ในช่วงเวลาดังกล่าวปรากฏว่<wbr></wbr>าประเทศไทยได้มีการประกาศใช้รั<wbr></wbr>ฐธรรมนูญ 6 ฉบับ ได้แก่ รัฐธรรมนูญฯ พ.ศ. 2517 รัฐธรรมนูญฯ พ.ศ. 2519 ธรรมนูญการปกครองฯ พ.ศ. 2520 รัฐธรรมนูญฯ พ.ศ. 2521 ธรรมนูญการปกครองฯ พ.ศ. 2534 และรัฐธรรมนูญฯ พ.ศ. 2534  ในบรรดารัฐธรรมนูญและธรรมนู<wbr></wbr>ญการปกครองประเทศเหล่านี้จำนวน 3 ฉบับ  ที่กำหนดหลักเกณฑ์ให้มีรั<wbr></wbr>ฐบาลในรูปแบบเผด็จการ คือ รัฐธรรมนูญฯ พ.ศ. 2519 ธรรมนูญการปกครองฯ พ.ศ. 2520 และธรรมนูญการปกครองฯ พ.ศ. 2534 ส่วนรัฐธรรมนูญที่กำหนดรูปแบบรั<wbr></wbr>ฐเป็นแบบกึ่งประชาธิปไตย ได้แก่ รัฐธรรมนูญฯ พ.ศ. 2521 รัฐธรรมนูญฯ พ.ศ. 2534 (ฉบับดั้งเดิมที่ยังไม่มีการแก้<wbr></wbr>ไขเพิ่มเติม)  และรัฐธรรมนูญกำหนดหลักเกณฑ์<wbr></wbr>ให้มีรัฐบาลในรูปแบบประชาธิปไตย คือ  รัฐธรรมนูญฯ พ.ศ. 2517  ทั้งนี้การกำหนดว่ารูปแบบรั<wbr></wbr>ฐบาลจะเป็นแบบใด  สามารถพิจารณาได้จากรู<wbr></wbr>ปแบบของสภาที่จะให้ประชาชนมีส่<wbr></wbr>วนร่วมทางการเมืองการปกครองได้<wbr></wbr>มากน้อยแค่ไหนนั่นเอง</div> <div>  </div> <div> <a data-mce-href="http://www.tcijthai.com/tcijthainews/view.php?ids=6223" data-saferedirecturl="https://www.google.com/url?hl=en&q=http://www.tcijthai.com/tcijthainews/view.php?ids%3D6223&source=gmail&ust=1464784172767000&usg=AFQjCNGz5s66TS0SHXfU_mCIGeP-CwbbuA" href="http://www.tcijthai.com/tcijthainews/view.php?ids=6223" style="background-attachment: initial; background-clip: initial; background-image: initial; background-origin: initial; background-position: initial; background-repeat: initial; background-size: initial; color: #428bca; text-decoration: none;" target="_blank">อ่านเพิ่มเติมรายงานนี้จนจบได้<wbr></wbr>ที่: เจาะเวลาหาอดีต แบบแผน‘การเกิด-ดับ’ ของรัฐบาลไทยช่วงปี 2518 ถึง 2539</a></div> </div> <hr style="box-sizing: content-box; color: #333333; cursor: default; font-family: 'Open Sans', sans-serif; font-size: 16px; height: 0px; line-height: 22.8571px;" /> <h3 style="color: #282828; font-family: Raleway, sans-serif; font-size: 24px; font-weight: normal; line-height: 1.1; margin: 20px 0px 10px; text-rendering: optimizeLegibility;"> เนื้อหาที่อยู่ในกลุ่มเดียวกัน</h3> <div style="color: #333333; font-family: 'Open Sans', sans-serif; font-size: 16px; line-height: 22.8571px; margin: 10px;"> [pt_view id="ce498db9e9"]</div>

TCIJ: เจาะเวลาหาอดีต แบบแผน‘การเกิด-ดับ’ ของรัฐบาลไทยช่วงปี 2518 ถึง 2539

TCIJ: เจาะเวลาหาอดีต แบบแผน‘การเกิด-ดับ’ ของรัฐบาลไทยช่วงปี 2518 ถึง 2539 Posted: 29 May 2016 11:34 PM PDT  (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เวบไซท์...

อ่านเพิ่มเติม »

สบายใจได้ 'หมอเหรียญทอง' ยัน รพ.มงกุฎวัฒนะ ปลอดคนคิดเลวร้าย เผยไล่ออกตั้งแต่ 53

<div style="color: #333333; font-family: 'Open Sans', sans-serif; font-size: 16px; line-height: 22.8571px; margin: 10px;"> <strong>สบายใจได้ 'หมอเหรียญทอง' ยัน รพ.มงกุฎวัฒนะ ปลอดคนคิดเลวร้าย เผยไล่ออกตั้งแต่ 53</strong></div> <div style="color: #333333; font-family: 'Open Sans', sans-serif; font-size: 16px; line-height: 22.8571px; margin: 10px;"> Posted: 29 May 2016 11:39 PM PDT  (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เวบไซท์ประชาไท)  </div> <div style="color: #333333; font-family: 'Open Sans', sans-serif; font-size: 16px; line-height: 22.8571px;"> <div style="margin: 10px;"> ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะและปธ.องค์<wbr></wbr>กรเก็บขยะแผ่นดิน ระบุที่รพ.แม้<wbr></wbr>มีคนต้านคสช.อยู่ แต่ก็เป็นส่วนน้อยและให้ความร่<wbr></wbr>วมมือล่าแม่มดพวกหมิ่นฯเป็นอย่<wbr></wbr>างดี แนะองค์กรอื่นเปิดเผยบอุดมการณ์<wbr></wbr>ทางการเมืองบุคลากรเพื่อให้ผู้<wbr></wbr>บริโภคสบายใจ</div> <div style="margin: 10px;"> <img alt="" class="aligncenter" data-mce-src="https://blogger.googleusercontent.com/img/proxy/AVvXsEheSUnDBRMCo9Y9047l4_FiJfVYW8QVX-u_evM4EdfjcjKF4inhTtKd3jIHs14McrH6DPFTwk0s7sr3PjGlteiVq9lLgy2tHrpE7ILbvPD7v_fmMgFNfkzwMIB1g868RqVbHkbFM2WZAVdqcWHgDbX_aNFXjqSFxRzWcL2ZJit5=s0-d-e1-ft" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/proxy/AVvXsEheSUnDBRMCo9Y9047l4_FiJfVYW8QVX-u_evM4EdfjcjKF4inhTtKd3jIHs14McrH6DPFTwk0s7sr3PjGlteiVq9lLgy2tHrpE7ILbvPD7v_fmMgFNfkzwMIB1g868RqVbHkbFM2WZAVdqcWHgDbX_aNFXjqSFxRzWcL2ZJit5=s0-d-e1-ft" style="border: 0px; display: block; height: auto; margin: 0px auto 15px; max-width: 100%; vertical-align: middle;" /></div> <div style="margin: 10px;"> <br /></div> <div style="margin: 10px;"> 30 พ.ค. 2559 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 10.38 น. ที่ผ่านมา เฟซบุ๊กแฟนเพจ '<a data-mce-href="https://www.facebook.com/437000306508309/photos/a.437497109791962.1073741828.437000306508309/537249329816739/" data-saferedirecturl="https://www.google.com/url?hl=en&q=https://www.facebook.com/437000306508309/photos/a.437497109791962.1073741828.437000306508309/537249329816739/&source=gmail&ust=1464784172767000&usg=AFQjCNFErxAs-InXhhNF2tj4IIoD3__qNg" href="https://www.facebook.com/437000306508309/photos/a.437497109791962.1073741828.437000306508309/537249329816739/" style="background-attachment: initial; background-clip: initial; background-image: initial; background-origin: initial; background-position: initial; background-repeat: initial; background-size: initial; color: #428bca; text-decoration: none;" target="_blank">เหรียญทอง แน่นหนา</a>' ของ พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะ และประธานองค์กรเก็บขณะแผ่นดิน ได้โพสต์ (ซึ่งเฟซบุ๊กเพจ '<a data-mce-href="https://www.facebook.com/thaigoldmedal/posts/1086261368126793" data-saferedirecturl="https://www.google.com/url?hl=en&q=https://www.facebook.com/thaigoldmedal/posts/1086261368126793&source=gmail&ust=1464784172767000&usg=AFQjCNG1-Y7cMu5DRwql_1Xrvzo7n8Qcqg" href="https://www.facebook.com/thaigoldmedal/posts/1086261368126793" style="background-attachment: initial; background-clip: initial; background-image: initial; background-origin: initial; background-position: initial; background-repeat: initial; background-size: initial; color: #428bca; text-decoration: none;" target="_blank">องค์กรเก็บขยะแผ่นดิน</a>' ได้แชร์ต่ออีกที) ว่า ขออนุญาตประชาสัมพันธ์<wbr></wbr>การเปิดเผยข้อมูลเพื่อการตัดสิ<wbr></wbr>นใจของผู้บริโภคหรือผู้ใช้บริ<wbr></wbr>การ รพ.มงกุฎวัฒนะ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับอุ<wbr></wbr>ดมการณ์ทางการเมืองของแพทย์<wbr></wbr>และบุคลากรส่วนน้<wbr></wbr>อยบางคนตามโพสต์นี้</div> <div> "ผมเป็นคนชัดเจนจึงขอเปิดเผยว่า รพ.มงกุฎวัฒนะ ก็เป็นองค์กรหนึ่งที่มีแพทย์<wbr></wbr>และบุคลากรที่ต่อต้าน คสช. แต่ก็มีเพียงส่วนน้อยและไม่ถึ<wbr></wbr>งกับเลวร้าย (พวกที่เลวร้ายไล่ออกไปตั้งแต่<wbr></wbr>ปี 53 แล้ว) แต่ที่ทำให้ผมยอมรับได้ก็<wbr></wbr>เพราะแพทย์และบุคลากรส่วนน้<wbr></wbr>อยเหล่านี้ให้ความร่วมมือสืบค้<wbr></wbr>นและส่งรายชื่อพวกหมิ่<wbr></wbr>นพระบรมเดชานุภาพเป็<wbr></wbr>นจำนวนมากให้แก่ผมเป็นอย่างดี ดังนั้นท่านผู้ใช้บริการ รพ.มงกุฏวัฒนะได้โปรดอย่ารังเกี<wbr></wbr>ยจพวกเขา อย่างไรก็ตามหากท่านต้องการเลื<wbr></wbr>อกตรวจรักษากับแพทย์จำนวนมากที่<wbr></wbr>สนับสนุน คสช. ท่านสามารถสอบถามข้อมู<wbr></wbr>ลโดยตรงได้ที่ผม" พล.ต.นพ.เหรี<wbr></wbr>ยญทอง</div> <div>  </div> <div> ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะ ระบุด้วยว่า ตนมีนโยบายเปิดเผยข้อมูล ทั้งนี้ก็เพราะทุกองค์กรมี<wbr></wbr>คนประเภทนี้ปะปนอยู่ด้วยกันทั้<wbr></wbr>งสิ้น เพียงแต่ผู้บริหารองค์กรจะต้<wbr></wbr>องเปิดเผยข้อมูลเพื่อให้ผู้บริ<wbr></wbr>โภคตัดสินใจรับการตรวจอย่<wbr></wbr>างสบายใจ</div> </div>

สบายใจได้ 'หมอเหรียญทอง' ยัน รพ.มงกุฎวัฒนะ ปลอดคนคิดเลวร้าย เผยไล่ออกตั้งแต่ 53

สบายใจได้ 'หมอเหรียญทอง' ยัน รพ.มงกุฎวัฒนะ ปลอดคนคิดเลวร้าย เผยไล่ออกตั้งแต่ 53 Posted: 29 May 2016 11:39 PM PDT  (อ้างอิงจากอีเม...

อ่านเพิ่มเติม »

นักกฎหมายสากลชี้คำพิพากษาพรุ่งนี้ คดีปะทะเหมืองแร่ จ.เลย ทดสอบสิทธิของนักปกป้องสิทธิฯ

<div style="margin: 10px;"> <strong>นักกฎหมายสากลชี้คำพิพากษาพรุ่<wbr></wbr>งนี้ คดีปะทะเหมืองแร่ จ.เลย ทดสอบสิทธิของนักปกป้องสิทธิฯ</strong></div> <div style="margin: 10px;"> Posted: 30 May 2016 01:00 AM PDT  (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เวบไซท์ประชาไท)</div> <div> <div style="background-color: white; color: #333333; font-family: 'Open Sans', sans-serif; font-size: 16px; line-height: 22.8571px; margin: 10px;"> คณะกรรมการนักนิติศาสตร์<wbr></wbr>สากลและโพรเท็คชันฯ ออแถลงการณ์ร่วม ชี้คำพิพากษาพรุ่งนี้คดีอดี<wbr></wbr>ทหารนำกลุ่มชายฉกรรจ์ทำร้ายร่<wbr></wbr>างกายชาวบ้านเปิดทางขนแร่ จ.เลย เป็นบททดสอบสำคัญเรื่องสิทธิ<wbr></wbr>ของนักปกป้องสิทธิมนุษยชน</div> <div style="background-color: white; color: #333333; font-family: 'Open Sans', sans-serif; font-size: 16px; line-height: 22.8571px; margin: 10px;"> <img class="aligncenter" data-mce-src="https://blogger.googleusercontent.com/img/proxy/AVvXsEiwqJuI10bKuB2F815ck2KahgXXJ9K86f8OykeA9y0x5OujTD9OsvNwCH6qHncMyCGk_x7o2BjXf4FAPaWc0nol867KHrdpwp4722PP2OkDSEOIDQYyTaDBlG-ngmwPjLYM6mmL11b1tD6Os8MuV0a_w2HbOzitqvGUXsGWzK8=s0-d-e1-ft" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/proxy/AVvXsEiwqJuI10bKuB2F815ck2KahgXXJ9K86f8OykeA9y0x5OujTD9OsvNwCH6qHncMyCGk_x7o2BjXf4FAPaWc0nol867KHrdpwp4722PP2OkDSEOIDQYyTaDBlG-ngmwPjLYM6mmL11b1tD6Os8MuV0a_w2HbOzitqvGUXsGWzK8=s0-d-e1-ft" style="border: 0px; display: block; height: auto; margin: 0px auto 15px; max-width: 100%; vertical-align: middle;" /></div> <div style="background-color: white; color: #333333; font-family: 'Open Sans', sans-serif; font-size: 16px; line-height: 22.8571px; margin: 10px;"> ภาพเหตุการณ์ 15 พ.ค. 2557 กรณีกลุ่มชายฉกรรจ์ พร้อมอาวุธ เข้าเปิดทางให้รถบรรทุกขนย้<wbr></wbr>ายแร่ทองคำออกจากเหมืองแร่<wbr></wbr>ทองคำวังสะพุงจังหวัดเลย ชาวบ้านได้รับบาดเจ็บร่วม 30 คน </div> <div style="background-color: white; color: #333333; font-family: 'Open Sans', sans-serif; font-size: 16px; line-height: 22.8571px; margin: 10px;"> 30 พ.ค. 2559 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า วันนี้ คณะกรรมการนักนิติศาสตร์สากล หรือ ไอซีเจ (International Commission of Jurists) และโพรเท็คชัน อินเตอร์เนชั่นแนล (Protection International) ได้ออกแถลงการณ์ร่วม เรื่องคำพิพากษาของศาลจังหวั<wbr></wbr>ดเลยที่จะออกมาในวันพรุ่งนี้ (31พ.ค.59) ในคดีที่มีจำเลย คือ พล.ท.ปรเมษฐ์ ป้อมนาค (เกษียณอายุ) และพ.ท.ปรมินทร์ ป้อมนาค (บุตรชาย) จำเลยทั้งสองถูกกล่าวหาในคดี<wbr></wbr>อาญาว่ามีส่วนร่วมในการใช้<wbr></wbr>ความรุนแรง โดยใช้กลุ่มชายฉกรรจ์ติดอาวุธ กว่า 100 คน เข้าทำร้ายสมาชิกกลุ่มฅนรักษ์บ้<wbr></wbr>านเกิด รวมถึงชาวบ้านนอกเหนือจากกลุ่<wbr></wbr>มดังกล่าวด้วย เหตุเกิดที่บ้<wbr></wbr>านนาหนองบง จังหวัดเลย ในคืนวันที่ 15 พ.ค. 2557 โดยผู้เสียหายถูก ทำร้ายและกักขังไว้มากกว่า 7 ชั่วโมงระหว่างเกิดเหตุการณ์<wbr></wbr>ปะทะกัน ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็<wbr></wbr>บมากกว่า 20 ราย โดยในจำนวนดังกล่าวมีผู้ได้รั<wbr></wbr>บบาดเจ็บสาหัสจนต้องเข้ารั<wbr></wbr>บการรักษาตัวที่โรงพยาบาลจำนวน 7 ราย </div> <div style="background-color: white; color: #333333; font-family: 'Open Sans', sans-serif; font-size: 16px; line-height: 22.8571px;"> ซึ่งคำแถลงร่วมดังกล่าว ระบุว่า คำพิพากษาของศาลจังหวัดเลยที่<wbr></wbr>จะออกมาในวันพรุ่งนี้ จะเป็นบททดสอบสำคัญต่อความยึดมั<wbr></wbr>่นของประเทศไทยเรื่องการนำตัวผู<wbr></wbr>้กระทำความผิดทางอาญาต่อนักปกป้<wbr></wbr>องสิทธิมนุษยชนมาลงโทษ</div> <div style="background-color: white; color: #333333; font-family: 'Open Sans', sans-serif; font-size: 16px; line-height: 22.8571px;">  </div> <div style="background-color: white; color: #333333; font-family: 'Open Sans', sans-serif; font-size: 16px; line-height: 22.8571px;"> สำหรับกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดนั้น เป็นการรวมตัวของกลุ่มชุมชนที่<wbr></wbr>ประท้วง โดยกล่าวอ้างว่าการทำเหมืองส่<wbr></wbr>งผลกระทบ เป็นการทำลายสุขภาพและสิ่งแวดล้<wbr></wbr>อมของพวกเขา ทั้งนี้กิจกรรมของกลุ่มฯส่<wbr></wbr>วนมาก เน้นที่การขอให้บริษัท ทุ่งคำ จำกัด หยุดการเหมืองแร่ทองคำ ที่ภูทับฟ้า จังหวัดเลย  </div> <div style="background-color: white; color: #333333; font-family: 'Open Sans', sans-serif; font-size: 16px; line-height: 22.8571px; margin: 10px;"> แซม ซารีฟี (Sam Zarifi) ผู้อำนวยการคณะกรรมการนักนิติ<wbr></wbr>ศาสตร์สากล สำนักงานเอเชีย กล่าวว่า “สำหรับประเทศไทย คดีนี้กลายมาเป็นคดีสัญลักษณ์ที<wbr></wbr>่นักปกป้องเพื่อสิทธิมนุษยชนถู<wbr></wbr>กละเมิดสิทธิมนุษยชนจากการที่<wbr></wbr>พยายามคุ้มครองสิทธิชุ<wbr></wbr>มชนของพวกเขา” นอกจากนี้ยังได้กล่าวเพิ่มเติ<wbr></wbr>มว่า “มีคนจำนวนมากกำลังติดตามคดีนี้ เพื่อจะดูว่ารัฐบาลไทยจะได้<wbr></wbr>ทำตามความยึดมั่นของตนเองที่<wbr></wbr>จะคุ้มครองนักต่อสู้เพื่อสิทธิ<wbr></wbr>มนุษยชนหรือไม่”</div> <div style="background-color: white; color: #333333; font-family: 'Open Sans', sans-serif; font-size: 16px; line-height: 22.8571px; margin: 10px;"> ทั้งนี้ การบุกโจมตีบ้านนาหนองบงดังกล่<wbr></wbr>าวเกิดขึ้นสืบเนื่องมาจากกลุ่<wbr></wbr>มฅนรักษ์บ้านเกิดรวมถึงชาวบ้<wbr></wbr>านในพื้นที่ตั้งสิ่งกี<wbr></wbr>ดขวางถนนเส้นในหมู่บ้านที่มุ่<wbr></wbr>งไปทางเหมืองทองคำ ระหว่างการบุกโจมตี ได้มีการทำลายด่านกีดขวาง โดยมีรายงานว่ามีรถบรรทุ<wbr></wbr>กจำนวนอย่างน้อย 13 คัน เข้ามาขนแร่จากพื้นที่เหมือง</div> <div style="background-color: white; color: #333333; font-family: 'Open Sans', sans-serif; font-size: 16px; line-height: 22.8571px; margin: 10px;"> จากคำให้การบางส่วนของชาวบ้าน พล.ท.ปรเมษฐ์ และพ.ท.ปรมินทร์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับความรุ<wbr></wbr>นแรงในวันที่ 15 พ.ค.57  โดยบุคคลทั้งสองถูกตั้งข้อหาต่<wbr></wbr>าง ๆ รวมถึงข้อหา ‘ทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิ<wbr></wbr>ดอันตรายแก่กาย’ และ ‘การกักขังผู้อื่นโดยมิชอบ หรือการลิดรอนเสรีภาพของผู้อื่<wbr></wbr>นโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 295 และ มาตรา 309</div> <div style="background-color: white; color: #333333; font-family: 'Open Sans', sans-serif; font-size: 16px; line-height: 22.8571px; margin: 10px;"> แซม ยังได้กล่าวเสริมว่า “หากพิเคราะห์จากรายงานที่น่<wbr></wbr>าเชื่อถือว่ามีกลุ่มชายฉกรรจ์ติ<wbr></wbr>ดอาวุธมากกว่า 100 นาย เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว ไอซีเจมีข้อห่วงใยในประเด็นว่<wbr></wbr>ามีจำเลยเพียงสองรายเท่านั้นที่<wbr></wbr>ถูกตั้งข้อกล่าวหาจากการโจมตีดั<wbr></wbr>งกล่าว ดังนั้น เราขอเรียกร้องให้รัฐบาลไทยได้<wbr></wbr>สืบสวนคดีใหม่และประกันว่ามี<wbr></wbr>การนำบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้<wbr></wbr>งหมดมารับผิดชอบ รวมถึงมีการให้การเยียวยาเหยื่<wbr></wbr>อที่เกี่ยวข้องด้วย”</div> <div style="background-color: white; color: #333333; font-family: 'Open Sans', sans-serif; font-size: 16px; line-height: 22.8571px; margin: 10px;"> คดีที่กล่าวหา พล.ท.ปรเมษฐ์ และพ.ท.ปรมินทร์ มีเหตุเชื่อมโยงมาจากความขัดแย้<wbr></wbr>งระหว่างกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิ<wbr></wbr>ดและบริษัท ทุ่งคำ จำกัด โดยในรอบ 7 ปีที่ผ่านมา ทางบริษัทฯได้ยื่นฟ้องทั้<wbr></wbr>งทางแพ่งและอาญากว่า 19 คดีต่อสมาชิกกลุ่มฅนรักษ์บ้<wbr></wbr>านเกิดและชาวบ้านอื่น ๆ จำนวน 33 ราย ซึ่งหนึ่งในการยื่นฟ้องคดีรวมถึ<wbr></wbr>งการฟ้องหมิ่นประมาททางอาญากั<wbr></wbr>บเด็กหญิงอายุ 15 ปี ที่ถูกกล่าวหาว่าได้กล่าวข้<wbr></wbr>อความอันไม่เป็นผลดีเกี่ยวกั<wbr></wbr>บงานของบริษัทฯในรายการโทรทัศน์<wbr></wbr>รายการหนึ่ง</div> <div style="background-color: white; color: #333333; font-family: 'Open Sans', sans-serif; font-size: 16px; line-height: 22.8571px; margin: 10px;"> อนึ่ง กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดได้เข้าเป็<wbr></wbr>นโจทก์ร่วมในคดีอาญาและเรียกร้<wbr></wbr>องค่าสินไหมทดแทนจากจำเลยทั้<wbr></wbr>งสอง ศาลจังหวัดเลยได้นัดอ่านคำพิ<wbr></wbr>พากษาในวันอังคารที่ 31 พ.ค.59 เวลา 9.00 น.</div> <h3 style="background-color: white; color: #282828; font-family: Raleway, sans-serif; font-size: 24px; font-weight: normal; line-height: 1.1; margin: 20px 0px 10px; text-rendering: optimizeLegibility;"> ข้อมูลพื้นฐาน :</h3> <div style="background-color: white; color: #333333; font-family: 'Open Sans', sans-serif; font-size: 16px; line-height: 22.8571px;"> <div style="margin: 10px;"> พล.ท.ปรเมษฐ์ ป้อมนาค และพ.ท.ปรมินทร์ ป้อมนาค ถูกตั้งข้อหาอย่างเป็นทางการ ตามประมวลกฎหมายอาญา ได้แก่ มาตรา 295 (‘ความผิดฐานทำร้ายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่<wbr></wbr>กาย’) และมาตรา 296 (‘ระวางโทษฐานทำร้ายร่างกาย’), มาตรา 309 (‘ความผิดฐานการกักขังผู้อื่<wbr></wbr>นโดยมิชอบ’ ) และมาตรา 310 (‘ระวางการกักขังผู้อื่นโดยมิ<wbr></wbr>ชอบ’) , มาตรา 358 (‘ความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ ’), มาตรา 371 (‘ความผิดฐานพกพาอาวุธ’ ), มาตรา 376 (‘ความผิดฐานใช้ดินระเบิด’ ) , มาตรา 391 (‘ความผิดฐานใช้กำลังทำร้ายผู้<wbr></wbr>อื่น โดยไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอั<wbr></wbr>นตราย’) ประกอบกับข้อหาตามพระราชบัญญัติ<wbr></wbr>อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 ได้แก่ มาตรา 32, มาตรา 33 (‘การนำอาวุธปืนไปจดทะเบียนยั<wbr></wbr>งนายทะเบียนท้องที่’) รวมถึงมาตราอื่น ๆ ตามประมวลกฎหมายอาญา อาทิ มาตรา 83และมาตรา 84 (ตัวการและผู้ใช้), มาตรา 91 (มาตรา 90 และมาตรา 91 เป็นมาตราเกี่ยวกั<wbr></wbr>บการกระทำความผิดเดียวแต่ผิ<wbr></wbr>ดกฎหมายหลายบท โดยให้ศาลลงโทษทุกกรรมเป็<wbr></wbr>นกระทงความผิดไป แต่เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้ว ต้องไม่เกินโทษตามที่กำหนดไว้<wbr></wbr>ในมาตรา 91) นอกจากนี้ยังรวมถึงความผิดอื่น ๆ ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 4, มาตรา 7, มาตรา 8 ทวิ, มาตรา 72 และมาตรา 72ทวิ, พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปื<wbr></wbr>น (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2501 มาตรา 3, และคำสั่งของคณะปฏิรู<wbr></wbr>ปการปกครองแผ่นดินฉบับที่ 44 ลงวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2519 ข้อ 3,<br />ข้อ6, และข้อ 7  </div> <div style="margin: 10px;"> ประเทศไทยมีพันธกรณีทางกฎหมายที<wbr></wbr>่จะคุ้มครองนักปกป้องเพื่อสิทธิ<wbr></wbr>มนุษยชนจากการถูกโต้กลับด้<wbr></wbr>วยเหตุที่มาจากการใช้สิทธิ<wbr></wbr>ของพวกเขาที่ชอบธรรมและชอบด้<wbr></wbr>วยกฎหมาย เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2558 ประเทศไทยได้ร่วมกับประเทศอื่น ๆ อีก 126 ประเทศที่สมัชชาสหประชาชาติ (UN General Assembly) เพื่อรับเอาหนึ่งในข้อมติล่าสุ<wbr></wbr>ดของสหประชาชาติเรื่องนักปกป้<wbr></wbr>องเพื่อสิทธิมนุษยชน  ข้อมติสหประชาชาติที่ 70/161 ได้รับรองความสำคัญที่การให้<wbr></wbr>ความคุ้มครองนักปกป้องเพื่อสิ<wbr></wbr>ทธิมนุษยชนของรัฐต่าง ๆ โดยเฉพาะเรื่องที่นักปกป้องเพื่<wbr></wbr>อสิทธิมนุษยชนถูกประหัตประหารอั<wbr></wbr>นมีเหตุมาจากการมีกิจกรรมที่<wbr></wbr>สงบและมติยังได้ต่อต้านภัยต่าง ๆ, การคุกคามและการข่มขู่ต่อนั<wbr></wbr>กปกป้องเพื่อสิทธิมนุษยชน รวมทั้งส่งเสริมให้รัฐต่าง ๆ สอบสวนข้อกล่าวหาเรื่องการข่มขู<wbr></wbr>่และการโต้กลับ ทั้งยังสนับสนุนให้มีการนำตัวผู<wbr></wbr>้กระทำผิดเข้ามาสู่กระบวนการยุ<wbr></wbr>ติธรรม</div> <div> <br /></div> </div> </div>

นักกฎหมายสากลชี้คำพิพากษาพรุ่งนี้ คดีปะทะเหมืองแร่ จ.เลย ทดสอบสิทธิของนักปกป้องสิทธิฯ

นักกฎหมายสากลชี้คำพิพากษาพรุ่ งนี้ คดีปะทะเหมืองแร่ จ.เลย ทดสอบสิทธิของนักปกป้องสิทธิฯ Posted: 30 May 2016 01:00 AM PDT  (อ้างอิงจากอีเมล...

อ่านเพิ่มเติม »

‘ทอม ดันดี’ กลับคำให้การรับสารภาพ คดี112 คดีแรก เหลืออีกคดีที่ศาลทหาร

<div style="margin: 10px; text-align: center;"> <strong><img border="0" height="368" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEi-mpp6hhEfjeo3KeyzIRBQH1E90Bpwu7w_xmxjGbZ4yHl_IAhtHAOMqfJn8rd5iKGJP0p0_eAcNJUHB0BolLf2i7ekEjR6V-D539SrqXSCX4lMB6aLGUqgPcabkKuI3CIfRgOT_8T3v-4/s640/2016-05-31_195537.jpg" width="640" /></strong></div> <div style="margin: 10px;"> <strong>‘ทอม ดันดี’ กลับคำให้การรับสารภาพ คดี112 คดีแรก เหลืออีกคดีที่ศาลทหาร</strong></div> <div style="margin: 10px;"> Posted: 30 May 2016 01:05 AM PDT  (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เวบไซท์ประชาไท) </div> <div> <div style="background-color: white; color: #333333; font-family: 'Open Sans', sans-serif; font-size: 16px; line-height: 22.8571px; margin: 10px;"> </div> <div style="background-color: white; color: #333333; font-family: 'Open Sans', sans-serif; font-size: 16px; line-height: 22.8571px; margin: 10px;"> 30 พ.ค.2559 ที่ห้องพิจารณาคดี 912 ศาลอาญารัชดา นายธานัท ธนวัชรนนท์ หรือ ทอม ดันดี นักร้องดังวัย 58 ปีมาศาลในนัดตรวจความพร้อมของคู<wbr></wbr>่ความ ในคดีหมายเลข อ.3575/2558 ก่อนจะถึงนัดสืบพยานในวันที่ 26-29 ก.ค.ที่จะถึงนี้ อย่างไรก็ตาม ในนัดนี้ทอม ดันดี ได้กลับคำให้การจากที่ปฏิเสธข้<wbr></wbr>อกล่าวหาขอต่อสู้คดี เป็น รับสารภาพทุกข้อกล่าวหาและขอให้<wbr></wbr>ศาลลงโทษสถานเบาและตัดสินคดี<wbr></wbr>โดยเร็วเพื่อให้จำเลยได้มี<wbr></wbr>โอกาสรับประโยชน์<wbr></wbr>จากการพระราชทานอภัยโทษ ศาลได้ยกเลิกกำหนดสืบพยานเดิ<wbr></wbr>มและนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 1 มิ.ย.นี้เวลา 10.00 น.</div> <div style="background-color: white; color: #333333; font-family: 'Open Sans', sans-serif; font-size: 16px; line-height: 22.8571px; margin: 10px;"> ทอม ดันดี กล่าวว่า เหตุที่ให้การรับสารภาพเนื่<wbr></wbr>องจากติดคุกมาเกือบ 2 ปีแล้วถูกฟ้องคดี 112 ทั้งที่<wbr></wbr>ศาลอาญาและศาลทหารโดยมองไม่เห็<wbr></wbr>นทางว่าการต่อสู้คดีนั้<wbr></wbr>นจะจบลงที่ใดจึงขอกลับคำให้<wbr></wbr>การเพื่อให้คดีสิ้นสุดและเพื่<wbr></wbr>อดำเนินการขออภัยพระราชทานอภั<wbr></wbr>ยโทษโดยเร็ว</div> <div style="background-color: white; color: #333333; font-family: 'Open Sans', sans-serif; font-size: 16px; line-height: 22.8571px; margin: 10px;"> ทั้งนี้ ทนายจำเลยระบุว่าคาดว่<wbr></wbr>าในศาลทหารที่มีกำหนดสื<wbr></wbr>บพยานในวันที่ 21 มิ.ย.นี้ ทอม ดันดีก็จะกลับคำให้การเป็นรั<wbr></wbr>บสารภาพด้วยเช่นเดียวกัน</div> <div style="background-color: white; color: #333333; font-family: 'Open Sans', sans-serif; font-size: 16px; line-height: 22.8571px; margin: 10px;"> ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทอม ดันดี ถูกจับกุมตัวโดยเจ้าหน้ามที่<wbr></wbr>ทหารเมื่อวันที่ 9 ก.ค.2557 เขาถูกแจ้งข้อหาฝ่าฝืนคำสั่<wbr></wbr>งคสช.ไม่มารายงานตัว ศาลลงโทษจำคุก 6 เดือนแต่ให้รอลงอาญา 2 ปี จากนั้นเขาถูกแจ้งข้อหาเพิ่มเติ<wbr></wbr>มอีก 2 คดี คือ ความผิดตามมาตรา 112 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (1) (3) และ (5)</div> <div style="background-color: white; color: #333333; font-family: 'Open Sans', sans-serif; font-size: 16px; line-height: 22.8571px; margin: 10px;"> คดี 112 คดีแรก พิจารณาคดีในศาลทหาร โดยอัยการทหารยื่นฟ้<wbr></wbr>องเขาจากกรณีการปราศรัยเมื่อวั<wbr></wbr>นที่ 6 พ.ย.2556 ปรากฏเป็นคลิปในอินเทอร์เน็<wbr></wbr>ตระหว่าง 6 พ.ย.2556-27 มิ.ย.2557 ซึ่งเป็นช่วงเวลาหลังรัฐประหาร และคสช.ประกาศให้คดี 112 ขึ้นศาลทหาร </div> <div style="background-color: white; color: #333333; font-family: 'Open Sans', sans-serif; font-size: 16px; line-height: 22.8571px; margin: 10px;"> คดี 112 คดีที่สอง อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 6 ยื่นฟ้องเขาต่อศาลอาญา รัชดา ในวันที่ 19 ต.ค.2558 ซึ่งเป็นเวลาหลังจากเขาถูกคุมขั<wbr></wbr>งมา 1 ปี 3 เดือน เหตุจากกรณีมีคลิปปราศรั<wbr></wbr>ยของเขาปรากฏในอินเทอร์เน็<wbr></wbr>ตระหว่างวันที่ 13 พ.ย.2556- 26 เม.ย.2557 ซึ่งเป็นเวลาก่อนการรัฐประหาร</div> </div> <div> <br /></div>

‘ทอม ดันดี’ กลับคำให้การรับสารภาพ คดี112 คดีแรก เหลืออีกคดีที่ศาลทหาร

‘ทอม ดันดี’ กลับคำให้การรับสารภาพ คดี112 คดีแรก เหลืออีกคดีที่ศาลทหาร Posted: 30 May 2016 01:05 AM PDT  (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เวบไซท์ปร...

อ่านเพิ่มเติม »

หญิงวัยรุ่นเนปาลถ่ายภาพสิ่งห้ามแตะต้องช่วงมีเมนส์ ชวนถกข้อห้ามชุมชน

<div style="color: #333333; font-family: 'Open Sans', sans-serif; font-size: 16px; line-height: 22.8571px; margin: 10px;"> <strong>หญิงวัยรุ่นเนปาลถ่ายภาพสิ่งห้<wbr></wbr>ามแตะต้องช่วงมีเมนส์ ชวนถกข้อห้ามชุมชน</strong></div> <div style="color: #333333; font-family: 'Open Sans', sans-serif; font-size: 16px; line-height: 22.8571px; margin: 10px;"> Posted: 30 May 2016 04:05 AM PDT  (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เวบไซท์ประชาไท)    </div> <div style="color: #333333; font-family: 'Open Sans', sans-serif; font-size: 16px; line-height: 22.8571px;"> <div style="margin: 10px;"> ในพื้นที่ชนบทของเนปาลยังคงมี<wbr></wbr>ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับเรื่องประจำเดือนของผู<wbr></wbr>้หญิง ทำให้เกิดการกีดกันที่ส่งผลถึ<wbr></wbr>งปัญหาสุขภาวะและทำให้ผู้หญิ<wbr></wbr>งเข้าไม่ถึงระบบการศึกษา แต่ก็มีผู้หญิงวัยรุ่น 7 คน จากจังหวัดสินธุลี ตอบโต้กลับด้วยการถ่ายภาพสิ่งที<wbr></wbr>่พวกเธอถูกห้ามไม่ให้แตะต้<wbr></wbr>องในช่วงที่มีประจำเดือน</div> <div style="margin: 10px;"> <strong><img alt="" class="aligncenter" data-mce-src="https://blogger.googleusercontent.com/img/proxy/AVvXsEjSRIS5OI1mNgm4MC5vltifrh-DLyD3SMJgin_xx3YuNoxF_1qI6iLC9oJVuf1o303SifTmRWOKuWXqbQ6KYmJW3OQSneQjyWq0Rtm-YT-K6HB5ptsy9A91Ltf6w6qWUIQZZyVpHLTiKcsnICzrf1VaRNdtxlvzN10f0skhijKz=s0-d-e1-ft" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/proxy/AVvXsEjSRIS5OI1mNgm4MC5vltifrh-DLyD3SMJgin_xx3YuNoxF_1qI6iLC9oJVuf1o303SifTmRWOKuWXqbQ6KYmJW3OQSneQjyWq0Rtm-YT-K6HB5ptsy9A91Ltf6w6qWUIQZZyVpHLTiKcsnICzrf1VaRNdtxlvzN10f0skhijKz=s0-d-e1-ft" style="border: 0px; display: block; height: auto; margin: 0px auto 15px; max-width: 100%; vertical-align: middle;" /></strong><br />พวกเธอถ่ายสิ่งต้องห้ามขณะมี<wbr></wbr>ประจำเดือน (จากซ้ายไปขวา/บนลงล่าง) พวกเธอถูกห้ามดื่มนมวัว, ตัดเล็บ, ร่วมกิจกรรมชุมชน, ห้ามมองพระอาทิตย์ตรงๆ และต้องชำระร่างกายและแผ่นอนามั<wbr></wbr>ยในที่ลับตาคน<br /><strong>ที่มาภาพ <a data-mce-href="https://medium.com/@WaterAidUK/in-a-small-rural-village-in-sindhuli-nepal-15-year-old-bandana-and-her-friends-share-a-common-80333207636e#.seidmcnx4" data-saferedirecturl="https://www.google.com/url?hl=en&q=https://medium.com/@WaterAidUK/in-a-small-rural-village-in-sindhuli-nepal-15-year-old-bandana-and-her-friends-share-a-common-80333207636e%23.seidmcnx4&source=gmail&ust=1464784172765000&usg=AFQjCNEUSFnKJ4Cr_cLZIwdWydq2Eyq5jg" href="https://medium.com/@WaterAidUK/in-a-small-rural-village-in-sindhuli-nepal-15-year-old-bandana-and-her-friends-share-a-common-80333207636e#.seidmcnx4" style="background-attachment: initial; background-clip: initial; background-image: initial; background-origin: initial; background-position: initial; background-repeat: initial; background-size: initial; color: #428bca; text-decoration: none;" target="_blank">WaterAid</a> </strong></div> <div style="margin: 10px;"> 30 พ.ค. 2559 ในจังหวัดสินธุลีห่างจากกรุ<wbr></wbr>งกาฐมาณฑุลงไปทางภาคตะวันออกเฉี<wbr></wbr>ยงใต้ 130 กม. โครงการของหน่วยงานการกุ<wbr></wbr>ศลวอเทอร์เอด (WaterAid) สนับสนุนโครงการให้ผู้หญิงวัยรุ<wbr></wbr>่นทำการถ่ายภาพสิ่งต้องห้<wbr></wbr>ามสำหรับพวกเธอในช่วงที่<wbr></wbr>พวกเธอมีประจำเดือนเพื่อเป็<wbr></wbr>นการท้าทายข้อห้ามในชุมชนและส่<wbr></wbr>งเสริมสุขอนามัยสตรี มีการนำเสนอเรื่องนี้ผ่านสื่<wbr></wbr>ออย่างดิอินดิเพนเดนต์เมื่อวั<wbr></wbr>นที่ 28 พ.ค. ที่ผ่านมาในโอกาสวันสุขอนามั<wbr></wbr>ยประจำเดือนนานาชาติ</div> <div style="margin: 10px;"> เนปาลมีความเชื่อว่าผู้หญิงในช่<wbr></wbr>วงมีประจำเดือนเป็นสิ่งที่ "ไม่บริสุทธิ์" หรือ "แปดเปื้อน" จึงมีการแยกผู้หญิงจากครอบครั<wbr></wbr>วในช่วงนั้น มีการห้ามมองพระอาทิตย์ ห้ามแตะต้องผลไม้หรือดอกไม้ หรือแม้กระทั่งห้ามอยู่ที่บ้<wbr></wbr>านตัวเอง หนึ่งในข้อห้ามนี้มาจากประเพณี "เชาปาดี" (Chhaupadi) ที่นิยมในหมู่ชุมชนชาวฮินดู<wbr></wbr>ในตะวันตกของเนปาลที่กีดกันไม่<wbr></wbr>ให้ผู้หญิงปฏิสัมพันธ์กั<wbr></wbr>บครอบครัวเป็นเวลา 6-10 วัน คนที่เพิ่งคลอดลูกก็อาจจะถูกห้<wbr></wbr>ามในแบบเดียวกันเป็นเวลา 10 วันด้วย</div> <div style="margin: 10px;"> เรื่องนี้มาจากความเชื่อเหนื<wbr></wbr>อธรรมชาติที่ว่าผู้หญิงที่มี<wbr></wbr>ประจำเดือนไม่บริสุทธิ์<wbr></wbr>และอาจจะทำให้เกิดโชคร้ายหรื<wbr></wbr>อความเจ็บป่วย ทำให้ผู้หญิงถูกห้ามไม่ให้กิ<wbr></wbr>นเนื้อ นม ผลไม้ และผัก เพราะกลัวว่าประจำเดือนจะทำให้<wbr></wbr>ผลผลิตแย่ลง ทำให้ผู้หญิงในช่วงมีประจำเดื<wbr></wbr>อนกินได้แต่ข้าว เกลือ และอาหารแห้งเท่านั้น เรื่องนี้อาจจะส่งผลกระทบต่<wbr></wbr>อการศึกษา สุขภาวะทางกายและใจ รวมถึงบทบาทในชุมชนของผู้หญิงด้<wbr></wbr>วย ถึงแม้ว่าประเพณี "เชาปาดี" จะถูกสั่งห้ามจากศาลสูงสุ<wbr></wbr>ดของเนปาลในปี 2548 แต่ก็ยังคงมีชุมชนในชนบทยั<wbr></wbr>งคงปฏิบัติตามประเพณีเหล่านี้<wbr></wbr>อยู่</div> <div style="margin: 10px;"> มานิชา หญิงวัยรุ่นอายุ 14 ปีที่เข้าร่วมโครงการเล่าว่<wbr></wbr>าเธอต้องไปอยู่กับบ้านคนอื่<wbr></wbr>นในช่วงที่มีประจำเดือนครั้งแรก เธอถูกห้ามไม่ให้ไปโรงเรี<wbr></wbr>ยนและแม้กระทั่งถูกห้ามอ่านหนั<wbr></wbr>งสือ เธอมองว่ามันเป็นความเชื่อที่ผิ<wbr></wbr>ดที่ห้ามคนเรียนหนังสือในช่วงมี<wbr></wbr>ประจำเดือน ในเนปาลมีจำนวนผู้หญิงที่ไม่รู้<wbr></wbr>หนังสือมากถึงร้อยละ 58</div> <div style="margin: 10px;"> หญิงวัยรุ่นที่เข้าร่<wbr></wbr>วมโครงการต่างก็ไม่เคยแตะกล้<wbr></wbr>องมาก่อน แต่พวกเธอก็ได้รับโอกาสให้<wbr></wbr>สามารถแสดงผลงานภาพถ่ายของเธอต่<wbr></wbr>อชุมชนได้เพื่อให้เพื่<wbr></wbr>อนและครอบครัวของพวกเธอร่วมกั<wbr></wbr>นหารือเกี่ยวกับข้อห้ามเรื่<wbr></wbr>องประจำเดือน</div> <div style="margin: 10px;"> บาร์บารา ฟรอสต์ ผู้บริหารสูงสุดของวอเทอร์<wbr></wbr>เอดกล่าวว่า ความเงียบและการตีตราเกี่ยวกั<wbr></wbr>บเรื่องประจำเดือนส่งผลกระทบต่<wbr></wbr>อชีวิตประจำวันของผู้หญิง นอกจากนี้การที่ไม่มีห้องน้ำส่<wbr></wbr>วนตัวในโรงเรียนทำให้ผู้หญิงมั<wbr></wbr>กจะโดดเรียนในช่วงที่มีประจำเดื<wbr></wbr>อนหรือบางคนก็ออกจากโรงเรี<wbr></wbr>ยนไปเลยเมื่อเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น</div> <div style="margin: 10px;"> ฟรอสต์กล่าวอีกว่า "ความสามารถในการจัดการกั<wbr></wbr>บประจำเดือนอย่างถูกสุขลั<wbr></wbr>กษณะและมีศักดิ์ศรีได้เป็นสิ่<wbr></wbr>งสำคัญต่อความเป็นอยู่ที่ดี<wbr></wbr>ของผู้หญิง มันทำให้ผู้หญิงรู้สึกว่<wbr></wbr>าพวกเธอสามารถมีบทบาทอย่างเต็<wbr></wbr>มที่ในสังคมได้ไม่ว่าจะเป็นช่<wbr></wbr>วงเวลาใดก็ตาม"</div> <div style="margin: 10px;"> หญิงวัยรุ่นที่เข้าร่<wbr></wbr>วมโครงการถ่ายภาพต่างๆ ตั้งแต่ กระจก หวี ในฐานะสิ่งของที่ถูกห้ามใช้<wbr></wbr>เวลาที่มีประจำเดือน ภาพของแสงอาทิตย์ ภาพครอบครัว ภาพผลไม้อย่างมะละกอ ภาพห้องน้ำโรงเรียนที่มีคนต่<wbr></wbr>อแถวยาวเหยียดเพราะโรงเรียนห้<wbr></wbr>องน้ำน้อยเกินไปจนไม่พอใช้ ภาพสถานที่ส่วนตัวที่พวกเธอใช้<wbr></wbr>ชำระล้างผ้าอนามัยเนื่องจากถู<wbr></wbr>กห้ามไม่ให้ชำระล้างในที่ๆ คนเห็น ภาพของคนที่ต้องเก็บหญ้าและฟื<wbr></wbr>นเพื่อสะท้อนประสบการณ์สิ่งที่<wbr></wbr>เธอกำลังทำอยู่ตอนมีประจำเดื<wbr></wbr>อนครั้งแรก</div> <div style="margin: 10px;"> ซุชมา ดิยาลี อายุ 15 ปี บรรยายถึงรูปกระจกกับหวี<wbr></wbr>ของเธอว่า หวีกับกระจกสำหรับเธอเป็นสิ่งที<wbr></wbr>่สำคัญในการทำตัวเองให้<wbr></wbr>สะอาดและมีสุขภาพดี เธอหวังว่าเพื่อนคนอื่นๆ ที่มีประจำเดือนเหมื<wbr></wbr>อนเธอจะสามารถเติบโตได้<wbr></wbr>ในสภาพแวดล้อมที่ไม่ถูกจำกัดเพี<wbr></wbr>ยงเพราะมีประจำเดือน ได้รับการสนับสนุนจากครอบครั<wbr></wbr>วมากกว่านี้ และสามารถเป็นอิ<wbr></wbr>สระออกสำรวจหาโอกาสและศักยภาพที<wbr></wbr>่ดีขึ้นรอบตัวพวกเธอได้</div> <div style="margin: 10px;"> <br /></div> <div style="margin: 10px;"> <br /></div> <div style="margin: 10px;"> <strong>เรียบเรียงจาก</strong></div> <div style="margin: 10px;"> Nepalese girls take photos of all the things they can't touch during their periods due to menstrual taboos, The Independent, 28-05-2016<br /><a data-mce-href="http://www.independent.co.uk/news/world/asia/nepalese-girls-take-photos-of-all-the-things-they-cant-touch-during-their-periods-due-to-menstrual-a7052266.html" data-saferedirecturl="https://www.google.com/url?hl=en&q=http://www.independent.co.uk/news/world/asia/nepalese-girls-take-photos-of-all-the-things-they-cant-touch-during-their-periods-due-to-menstrual-a7052266.html&source=gmail&ust=1464784172765000&usg=AFQjCNG_0Xvd7Rk3FOA9TGtOUOEVHlxkcA" href="http://www.independent.co.uk/news/world/asia/nepalese-girls-take-photos-of-all-the-things-they-cant-touch-during-their-periods-due-to-menstrual-a7052266.html" style="background-attachment: initial; background-clip: initial; background-image: initial; background-origin: initial; background-position: initial; background-repeat: initial; background-size: initial; color: #428bca; text-decoration: none;" target="_blank">http://www.independent.co.uk/<wbr></wbr>news/world/asia/nepalese-<wbr></wbr>girls-take-photos-of-all-the-<wbr></wbr>things-they-cant-touch-during-<wbr></wbr>their-periods-due-to-<wbr></wbr>menstrual-a7052266.html</a></div> </div>

หญิงวัยรุ่นเนปาลถ่ายภาพสิ่งห้ามแตะต้องช่วงมีเมนส์ ชวนถกข้อห้ามชุมชน

หญิงวัยรุ่นเนปาลถ่ายภาพสิ่งห้ ามแตะต้องช่วงมีเมนส์ ชวนถกข้อห้ามชุมชน Posted: 30 May 2016 04:05 AM PDT  (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เวบไซท์ประชา...

อ่านเพิ่มเติม »

ส่ง กกต.กทม.ตรวจสอบ 'สุรนันทน์-พิชญ์' สวมเสื้อชี้นำ ผิด กม.ประชามติหรือไม่

<div style="color: #333333; font-family: 'Open Sans', sans-serif; font-size: 16px; line-height: 22.8571px; margin: 10px;"> <strong>ส่ง กกต.กทม.ตรวจสอบ 'สุรนันทน์-พิชญ์' สวมเสื้อชี้นำ ผิด กม.ประชามติหรือไม่</strong></div> <div style="color: #333333; font-family: 'Open Sans', sans-serif; font-size: 16px; line-height: 22.8571px; margin: 10px;"> Posted: 30 May 2016 05:11 AM PDT  (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เวบไซท์ประชาไท)  </div> <div style="color: #333333; font-family: 'Open Sans', sans-serif; font-size: 16px; line-height: 22.8571px;"> <div style="margin: 10px;"> กกต.เผยมีผู้ร้องผ่านแอพตาสับปะรด 'สุรนันทน์-พิชญ์' ใส่เสื้อข้อความ “รับและไม่รับ" มีลักษณะชี้นำ ส่ง กกต.กทม.ตรวจสอบผิดกฎหมายหรือไม่ ระบุความผิดตาม พ.ร.บ.ประชามติ เป็นความผิดทางอาญา ผู้พบเห็นแจ้งพนักงานสอบสวนได้เลย</div> <div style="margin: 10px;"> <img alt="" class="aligncenter" data-mce-src="https://blogger.googleusercontent.com/img/proxy/AVvXsEiKA4MU8TfTJMXY8pGRATnS_pGUWqpbSdgoik_fcPmJQmG7tfY_tZ15KRf1kjG1JvgCn_Op0JgSSOWDobQuOBkp3ES4ZieCdLRWEUB7bHCfMf-Wl0wHXZDJ-gMZrsqvoT6K35adyugxR1mP-fpgxykED6Wgfw4jSuu8rzMmbF6c=s0-d-e1-ft" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/proxy/AVvXsEiKA4MU8TfTJMXY8pGRATnS_pGUWqpbSdgoik_fcPmJQmG7tfY_tZ15KRf1kjG1JvgCn_Op0JgSSOWDobQuOBkp3ES4ZieCdLRWEUB7bHCfMf-Wl0wHXZDJ-gMZrsqvoT6K35adyugxR1mP-fpgxykED6Wgfw4jSuu8rzMmbF6c=s0-d-e1-ft" style="border: 0px; display: block; height: auto; margin: 0px auto 15px; max-width: 100%; vertical-align: middle;" /></div> <div style="margin: 10px;"> ที่มา เฟซบุ๊ก '<a data-mce-href="https://www.facebook.com/photo.php?fbid=10209525290108045&set=rpd.653688209&type=3&theater" data-saferedirecturl="https://www.google.com/url?hl=en&q=https://www.facebook.com/photo.php?fbid%3D10209525290108045%26set%3Drpd.653688209%26type%3D3%26theater&source=gmail&ust=1464784172765000&usg=AFQjCNH6lBuBHJMDz1w4KA8NSxsAnzrMfw" href="https://www.facebook.com/photo.php?fbid=10209525290108045&set=rpd.653688209&type=3&theater" style="background-attachment: initial; background-clip: initial; background-image: initial; background-origin: initial; background-position: initial; background-repeat: initial; background-size: initial; color: #428bca; text-decoration: none;" target="_blank">Suranand Vejjajiva</a>' </div> <div style="margin: 10px;"> 30 พ.ค. 2559 บุญส่ง น้อยโสภณ กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวว่า กกต.ได้รับแจ้งเบาะแสการกระทำการออกเสียงประชามติบริเวณปริมณฑล จำนวน 11 เรื่อง ที่เกี่ยวข้องกับนักการเมือง กลุ่มการเมืองที่ลงพื้นที่ แสดงความคิดเห็น และร้องว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อาจกระทำผิด พ.ร.บ.ประชามติ ซึ่งฝ่ายสืบสวนสอบสวนตรวจสอบแล้ว พบว่าไม่ครบองค์ประกอบความผิดตามกฎหมาย และบางเรื่องเกิดขึ้นก่อนพ.ร.บ.ประชามติมีผลบังคับใช้ จึงได้สั่งยุติเรื่อง ดังนั้นจึงถือว่าไม่มีเรื่องร้องเรียนใน กกต.</div> <div style="margin: 10px;"> บุญส่ง กล่าวว่า พบว่ามีการแจ้งเบาะแสแอพพลิเคชั่นตาสับปะรด นับตั้งแต่เปิดตัวแอพฯ จนถึงวันที่ 16 พ.ค.59 จำนวน 2 เรื่อง โดยร้องว่า สุรนันทน์ เวชชาชีวะ สมาชิกพรรคเพื่อไทย และ พิชญ์ พงษ์สวัสดิ์ อาจารย์รัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สวมเสื้อข้อความ  “รับและไม่รับ” ที่มีลักษณะชี้นำ ซึ่งได้ส่งไปยัง กกต.กทม. ในฐานะเจ้าของพื้นที่ในการตรวจสอบ  ว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดอาญาหรือไม่</div> <div style="margin: 10px;"> นายบุญส่ง  กล่าวว่า แม้มาตรา 61 ของ พ.ร.บ.ประชามติ   จะถูกมองว่าขัดรัฐธรรมนูญ แต่ส่วนตัวเห็นว่าไม่ขัดรัฐธรรมนูญ  เพราะการกระทำที่ถือว่าเข้าข่ายผิดมาตราดังกล่าวต้องมี 3 องค์ประกอบ  คือ 1.ต้องไม่บิดเบือนข้อเท็จจริง 2.ต้องไม่ก้าวราว รุนแรง ข่มขู่ ปลุกระดม   และ 3.การกระทำนั้นมีเจตนามุ่งให้ประชาชนออกเสียงไปทางใดทางหนึ่ง  ยากมากที่จะมีการกระทำผิดในลักษณะดังกล่าวได้</div> <div style="margin: 10px;"> “ไม่อยากให้ผู้ที่จะแสดงความคิดเห็นเกรงกลัวมากเกินไป เพราะตัวกฎหมายมีเจตนาปรามเท่านั้น ความผิดตาม พ.ร.บ.ประชามติ เป็นความผิดทางอาญา ซึ่งกฎหมายไม่ได้ให้อำนาจ กกต. ในการชี้ขาด ดังนั้น หากประชาชนพบเห็นการกระทำความผิดก็สามารถที่จะแจ้งต่อพนักงานสอบสวนได้เลย ถ้ามาแจ้ง กกต. ก็จะรวบรวมแจ้งต่อพนักงานสอบสวนให้ไปดำเนินการ ซึ่งแนวปฏิบัตินี้แจ้งเป็นหนังสือไปยังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 23 พ.ค.59 ว่าตำรวจจะดำเนินการอย่างไร” บุญส่ง กล่าว</div> <div style="margin: 10px;"> บุญส่ง ยังกล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายการเมืองเรียกร้องให้มีการเปิดพื้นที่แสดงความคิดเห็นมากขึ้น ว่า กรณีดังกล่าวไม่ใช่หน้าที่ของ กกต. ตนมองว่าผู้ออกกฎหมายควบคุมสถานการณ์มีเจตนาที่ดี เพราะขณะนี้สถานการณ์ยังอยู่ในช่วงที่มีความขัดแย้งอยู่</div> <div style="margin: 10px;"> ที่มา : <a data-mce-href="http://www.tnamcot.com/content/479104" data-saferedirecturl="https://www.google.com/url?hl=en&q=http://www.tnamcot.com/content/479104&source=gmail&ust=1464784172765000&usg=AFQjCNHchH4Mg2qrxSMP3X8stqQSccgTkA" href="http://www.tnamcot.com/content/479104" style="background-attachment: initial; background-clip: initial; background-image: initial; background-origin: initial; background-position: initial; background-repeat: initial; background-size: initial; color: #428bca; text-decoration: none;" target="_blank">สำนักข่าวไทย</a><a data-mce-href="http://www.matichon.co.th/news/153755" data-saferedirecturl="https://www.google.com/url?hl=en&q=http://www.matichon.co.th/news/153755&source=gmail&ust=1464784172765000&usg=AFQjCNE0NAuO0RjyLTp75DEnzChy8DPLUg" href="http://www.matichon.co.th/news/153755" style="background-attachment: initial; background-clip: initial; background-image: initial; background-origin: initial; background-position: initial; background-repeat: initial; background-size: initial; color: #428bca; text-decoration: none;" target="_blank">มติชนออนไลน์</a>และ<a data-mce-href="http://www.dailynews.co.th/politics/401020" data-saferedirecturl="https://www.google.com/url?hl=en&q=http://www.dailynews.co.th/politics/401020&source=gmail&ust=1464784172765000&usg=AFQjCNF2MGkr63p_s26BVRVn5IKUYl-GMg" href="http://www.dailynews.co.th/politics/401020" style="background-attachment: initial; background-clip: initial; background-image: initial; background-origin: initial; background-position: initial; background-repeat: initial; background-size: initial; color: #428bca; text-decoration: none;" target="_blank">เดลินิวส์</a></div> <div> <br /></div> </div>

ส่ง กกต.กทม.ตรวจสอบ 'สุรนันทน์-พิชญ์' สวมเสื้อชี้นำ ผิด กม.ประชามติหรือไม่

ส่ง กกต.กทม.ตรวจสอบ 'สุรนันทน์-พิชญ์' สวมเสื้อชี้นำ ผิด กม.ประชามติหรือไม่ Posted: 30 May 2016 05:11 AM PDT  (อ้างอิงจากอีเมล์ข่า...

อ่านเพิ่มเติม »

อองซานซูจีเตรียมเยือนไทยมิถุนายนนี้-หลังพม่าตั้งรัฐบาลพลเรือน

<div style="color: #333333; font-family: 'Open Sans', sans-serif; font-size: 16px; line-height: 22.8571px; margin: 10px;"> <strong>อองซานซูจีเตรียมเยือนไทยมิถุ<wbr></wbr>นายนนี้-หลังพม่าตั้งรั<wbr></wbr>ฐบาลพลเรือน</strong></div> <div style="color: #333333; font-family: 'Open Sans', sans-serif; font-size: 16px; line-height: 22.8571px; margin: 10px;"> Posted: 30 May 2016 11:42 AM PDT  (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เวบไซท์ประชาไท)    </div> <div style="color: #333333; font-family: 'Open Sans', sans-serif; font-size: 16px; line-height: 22.8571px;"> <div style="margin: 10px;"> โฆษกสำนักงานประธานาธิบดีพม่<wbr></wbr>าเผย อองซานซูจี ซึ่งมีตำแหน่งที่ปรึกษาของรัฐ รมว.ต่างประเทศ และ รมว.สำนักงานประธานาธิบดี เตรียมเยือนไทยเดือนมิถุนายนนี้ แต่ยังไม่แน่ว่าประธานาธิบดีถิ่<wbr></wbr>นจ่อ จะเยือนไทยด้วยหรือไม่ ด้านสื่อพม่า 'อิระวดี' แซวว่าไทย-พม่าเป็นชาติเพื่อนบ้<wbr></wbr>านที่มีชะตาทางการเมืองพลิกผั<wbr></wbr>นกัน พม่าเปิดกว้างมากขึ้นแม้จะเป็<wbr></wbr>นไปอย่างกระท่อนกระแท่น ส่วนไทยซึ่งเป็นที่พักพิงผู้<wbr></wbr>อพยพ-แหล่งจ้างงานแรงงานพม่านั<wbr></wbr>บล้าน ขณะนี้ปกครองภายใต้รัฐบาลทหารมา 2 ปีแล้ว</div> <div style="margin: 10px;"> 31 พ.ค. 2559 ซอเท โฆษกของสำนักงานประธานาธิบดีพม่<wbr></wbr>า เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ (30 พ.ค.) ว่า อองซานซูจี ในฐานะที่ปรึกษาของรัฐ รัฐมนตรีประจำสำนักงานประธานาธิ<wbr></wbr>บดี และรัฐมตรีว่าการกระทรวงการต่<wbr></wbr>างประเทศ จะเดินทางมาเยือนประเทศไทยในเดื<wbr></wbr>อนมิถุนายนนี้ โดยรายละเอียดและกำหนดการเดิ<wbr></wbr>นทางอยู่ระหว่างการหารือ</div> <div style="margin: 10px;"> อย่างไรก็ตาม ซอเท ปฏิเสธที่จะยืนยันว่า ประธานาธิบดีถิ่นจ่อจะเดิ<wbr></wbr>นทางมาเยือนไทยด้วยหรือไม่</div> <div style="margin: 10px;"> ด้านสำนักข่าวอิระวดีของพม่า ยังอ้างแหล่งข่าวว่า หากกำหนดการเยือนประเทศไทยอยู่<wbr></wbr>ระหว่าง 23 - 25 มิถุนายน คาดว่า ถิ่นจ่อ จะร่วมเดินทางเยือนไทยด้วย</div> <div style="margin: 10px;"> สำหรับกำหนดการเยือนต่<wbr></wbr>างประเทศหลังพรรคสันนิบาตแห่<wbr></wbr>งชาติเพื่อประชาธิปไตยตั้งรั<wbr></wbr>ฐบาลพม่าเมื่อเดือนมีนาคมนั้น ก่อนหน้านี้ ในเดือนพฤษภาคม ถิ่นจ่อ และ อองซานซูจี เดินทางเยือนประเทศลาว และในวันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา ถิ่นจ่อเดินทางเยือนรัสเซียเพื่<wbr></wbr>อฉลองความสัมพันธ์อาเซียน-รั<wbr></wbr>สเซีย 20 ปี</div> <div style="margin: 10px;"> </div> <div style="margin: 10px;"> <strong>ดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ หารือ อองซานซูจี ในฐานะ รมว.ต่างประเทศพม่าเมื่อ 9 พ.ค. ที่ผ่านมา (ที่มา: <a data-mce-href="http://globalnewlightofmyanmar.com/myanmar-thailand-look-to-promote-sector-wide-development/" data-saferedirecturl="https://www.google.com/url?hl=en&q=http://globalnewlightofmyanmar.com/myanmar-thailand-look-to-promote-sector-wide-development/&source=gmail&ust=1464784172764000&usg=AFQjCNH_4rZUKDcukgYagMoHldX4gpNH_Q" href="http://globalnewlightofmyanmar.com/myanmar-thailand-look-to-promote-sector-wide-development/" style="background-attachment: initial; background-clip: initial; background-image: initial; background-origin: initial; background-position: initial; background-repeat: initial; background-size: initial; color: #428bca; text-decoration: none;" target="_blank">MNA</a>)</strong></div> <div style="margin: 10px; text-align: center;"> <img border="0" height="368" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgbIpDahlS7fS6MqZ8gjyMmhGbRz_M78cDtRhS37MahiCQFYPiLw86bTIRgsveXVJQc4t7BZOhAu4q4-rI0XeJeORG3ZJZ0OLAMwGJV2RGM_s7fd0dvLFlFezifvL1qfDZN1OPYmv7YTxE/s640/2016-05-31_193627.jpg" width="640" /></div> <div style="margin: 10px;"> ก่อนหน้านี้เมื่อ 9 พฤษภาคม ดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่<wbr></wbr>างประเทศเดินทางเยือนพม่าและเข้<wbr></wbr>าพบอองซานซูจี ผู้นำพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่<wbr></wbr>อประชาธิปไตย ซึ่งมีตำแหน่งเสมือนเป็นผู้นำ แต่ด้วยข้อจำกัดทางรัฐธรรมนู<wbr></wbr>ญทำให้อองซานซูจี ไม่สามารถขึ้นเป็นประธานาธิบดี<wbr></wbr>ได้</div> <div style="margin: 10px;"> ขณะที่เมื่อสัปดาห์ก่อน ผู้บัญชาการกองทัพพม่า พล.อ.อาวุโส มินอ่องหล่าย ได้เยือนประเทศไทยเป็นเวลา 3 วัน ตามคำเชิญของผู้บัญชาการทหารสู<wbr></wbr>งสุด พล.อ.สมหมาย เกาฏีระ โดย พล.อ.อาวุโส มินอ่องหล่าย ได้พบกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. รวมทั้ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม</div> <div style="margin: 10px;"> ทั้งนี้สำนักข่าวอิระวดี บรรยายสภาพทางการเมืองของไทย-<wbr></wbr>พม่าว่า "เป็นประเทศเพื่อนบ้านในเอเชี<wbr></wbr>ยตะวันออกเฉียงใต้ ที่พลเมืองของพวกเขาประสบกั<wbr></wbr>บสถานการณ์ทางการเมืองที่มี<wbr></wbr>ชะตาผกผันน่าสนใจในรอบไม่กี่ปี<wbr></wbr>มานี้ โดยที่นับตั้งแต่ปี 2554 พม่าเคลื่อนไปในทิศทางที่เปิ<wbr></wbr>ดกว้างและเป็นประชาธิปไตยมากขึ้<wbr></wbr>น แม้จะเป็นการเคลื่อนอย่างกระท่<wbr></wbr>อนกระแท่นก็ตาม ซึ่งนำมาสู่การผ่<wbr></wbr>อนคลายทางการเมืองมากขึ้นเมื่<wbr></wbr>อพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่<wbr></wbr>อประชาธิปไตยหรือเอ็นแอลดี<wbr></wbr>ชนะการเลือกตั้งที่ทำให้ อองซานซูจีขึ้นสู่อำนาจ</div> <div style="margin: 10px;"> ในขณะที่ประเทศไทยอยู่ภายใต้รั<wbr></wbr>ฐบาลทหารมาได้ 2 ปี นับตั้งแต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยึดอำนาจ และเสรีภาพสื่อมวลชน เสรีภาพในการรวมตัวสมาคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรวมตั<wbr></wbr>วของฝ่ายต่อต้าน คสช. ถูกจำกัดอย่างเข้มงวดโดยรั<wbr></wbr>ฐบาลทหาร</div> <div style="margin: 10px;"> สำนักข่าวอิระวดีกล่าวถึ<wbr></wbr>งสภาพของชาวพม่าในไทยว่า ผู้คนพม่านับหลายล้านคนเข้<wbr></wbr>ามาทำงานในประเทศไทยในรอบหลายปี<wbr></wbr>มานี้ ขณะที่คนเรือนแสนยังคงอยู่ในค่<wbr></wbr>ายผู้อพยพตามแนวชายแดนไทย-พม่า พวกเขาหลบหนีภัยมาหลายทศวรรษแล้<wbr></wbr>ว อันเนื่องมาจากความขัดแย้งระหว่<wbr></wbr>างรัฐบาลพม่าและกองกำลังกลุ่<wbr></wbr>มชาติพันธุ์ นอกจากนี้หลายคนก็หลบหนีการกดขี<wbr></wbr>่ภายใต้อดีตรัฐบาลทหารพม่า</div> <div style="margin: 10px;"> <br /></div> <div style="margin: 10px;"> <strong>แปลและเรียบเรียงจาก</strong></div> <div style="margin: 10px;"> Suu Kyi to Visit Thailand in June, By THE IRRAWADDY, Monday, May 30, 2016 <a data-mce-href="http://www.irrawaddy.com/burma/suu-kyi-to-visit-thailand-in-june.html" data-saferedirecturl="https://www.google.com/url?hl=en&q=http://www.irrawaddy.com/burma/suu-kyi-to-visit-thailand-in-june.html&source=gmail&ust=1464784172764000&usg=AFQjCNEUUIR-kHRrUzyvVpCJuMWWaFwaKw" href="http://www.irrawaddy.com/burma/suu-kyi-to-visit-thailand-in-june.html" style="background-attachment: initial; background-clip: initial; background-image: initial; background-origin: initial; background-position: initial; background-repeat: initial; background-size: initial; color: #428bca; text-decoration: none;" target="_blank">http://www.irrawaddy.com/<wbr></wbr>burma/suu-kyi-to-visit-<wbr></wbr>thailand-in-june.html</a></div> </div>

อองซานซูจีเตรียมเยือนไทยมิถุนายนนี้-หลังพม่าตั้งรัฐบาลพลเรือน

อองซานซูจีเตรียมเยือนไทยมิถุ นายนนี้-หลังพม่าตั้งรั ฐบาลพลเรือน Posted: 30 May 2016 11:42 AM PDT  (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เวบไซท์ประชาไท)  ...

อ่านเพิ่มเติม »

อนุฯ เนื้อหา กสทช.เสนอปรับ 'วอยซ์ทีวี' เหตุเสนอข่าว 'พลเมืองโต้กลับ' ขัดประกาศ คสช.

<div style="text-align: center;"> <img border="0" height="368" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiuFhATM7-4aIcuf2HhDgqxol5wi88QGFp0qWKt2O-DdtCWFhXZxZO7Qp4AhArMTQqIxKmwe8qkpSv1b6apYP8J88i_6xjBka4spkHa7VIRwWTOwqkWb338FdNgLa4aZcrjR_ehrN99YEQ/s640/2016-05-30_190419.jpg" width="640" /></div> <div style="color: #333333; font-family: 'Open Sans', sans-serif; font-size: 16px; line-height: 22.8571px; margin: 10px;"> <strong>อนุฯ เนื้อหา กสทช.เสนอปรับ 'วอยซ์ทีวี' เหตุเสนอข่าว 'พลเมืองโต้กลับ' ขัดประกาศ คสช.</strong></div> <div style="color: #333333; font-family: 'Open Sans', sans-serif; font-size: 16px; line-height: 22.8571px; margin: 10px;"> Posted: 28 May 2016 09:42 PM PDT  (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เวบไซท์ประชาไท)</div> <div style="color: #333333; font-family: 'Open Sans', sans-serif; font-size: 16px; line-height: 22.8571px;"> <div> เผยจันทร์ 30 พ.ค. นี้ กสท.ถกต่อกรณี อนุฯ เนื้อหา เสนอปรับวอยซ์ทีวี เหตุเสนอข่าวพลเมืองโต้กลับจั<wbr></wbr>ดกิจกรรมเรียกร้องปล่อยวัฒนา ขัดประกาศ คสช. สุภิญญาเห็นต่าง ชี้รัฐ -กสทช.ควรเปิดกว้าง ส่วนกรณีถ่ายทอดสดยิงตัวตาย อนุฯเนื้อหากำลังรวบรวมข้อมูล</div> <div>  </div> <div> 29 พ.ค. 2559 นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่าการประชุ<wbr></wbr>มคณะกรรมการกิจการกระจายเสี<wbr></wbr>ยงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ครั้งที่ 17/2559 วันจันทร์ที่ 30 พ.ค. นี้ มีวาระประชุมน่าจับตา ได้แก่ การออกอากาศรายการ Wake Up News ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง VOICE TV เมื่อวันที่ 21 เม.ย. 2559 เวลาประมาณ 07.22 น. นำเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับกลุ่<wbr></wbr>มพลเมืองโต้กลับ ประกาศจัดกิจกรรมอีกครั้งในวั<wbr></wbr>นศุกร์นี้ เพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวนายวั<wbr></wbr>ฒนา เมืองสุข แบบไม่มีเงื่อนไข ซึ่งสำนักงาน กสทช.ได้ตรวจสอบพบเนื้<wbr></wbr>อหารายการดังกล่าว และได้พิจารณาในคณะอนุกรรมการด้<wbr></wbr>านผังรายการและเนื้อหา พบว่า มีลักษณะเป็นการต้องห้ามมิให้<wbr></wbr>ออกอากาศตามประกาศคณะรั<wbr></wbr>กษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ ฉบับที่ 97/2557 ลงวันที่ 18 ก.ค. 2557 และประกาศ คสช. ฉบับที่ 103/57 ลงวันที่ 21 ก.ค. 2557  ซึ่งการออกอากาศที่เป็นการฝ่<wbr></wbr>าฝืนประกาศ คสช. ทั้ง 2 ฉบับ มีผลเป็นการออกอากาศที่มีเนื้<wbr></wbr>อหาสาระกระทบต่อความสงบเรียบร้<wbr></wbr>อย หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ซึ่งต้องห้ามมิให้<wbr></wbr>ออกอากาศตามมาตรา 37 แห่ง พ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสี<wbr></wbr>ยงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 และเป็นการขัดต่อข้อกำหนดในบั<wbr></wbr>นทึกข้อตกลง วันที่ 4 มิ.ย. 2557 ระหว่างสำนักงาน กสทช. และ บริษัท วอยซ์ทีวี จำกัด ผู้รับใบอนุญาตช่อง VOICE TV ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการฯเห็นสมควรโทษปรั<wbr></wbr>บทางปกครอง ตามมาตรา 57(2) ประกอบกับมาตรา 57(3) แห่ง พ.ร.บ.ประกอบกิจการกระจายเสียงฯ พ.ศ. 2551</div> <div>  </div> <div> นางสาวสุภิญญากล่าวว่า อนุฯเนื้อหาเสนอให้ กสท. เอาผิดรายการโทรทัศน์ที่วิจารณ์<wbr></wbr>การเมืองอีกแล้ว ดิฉันกลับเห็นต่างว่า กสทช.และฝ่ายรัฐควรเปิดใจกว้<wbr></wbr>างขึ้นสำหรับการแสดงความเห็<wbr></wbr>นของฝ่ายค้านและน้อมรั<wbr></wbr>บการตรวจสอบจากสื่อต่างๆ ให้มากขึ้น เพราะเป็นเสรีภาพขั้นพื้<wbr></wbr>นฐานของพลเมือง อีกทั้งเพื่อลดแรงเสี<wbr></wbr>ยดทานจากกลุ่มคนที่เห็นต่าง ในเวลาที่ประเทศกำลังจะลงมติรั<wbr></wbr>บหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญใหม่ กสทช. ควรให้ความสำคัญกับการกำกับดู<wbr></wbr>แลสื่อไม่ให้ละเมิดสิทธิมนุษยชน และ คุ้มครองผู้บริโภคสื่อมากขึ้น แทนที่จะเน้นควบคุมเสรี<wbr></wbr>ภาพทางการเมืองเป็นหลัก</div> <div>  </div> <div> “ส่วนกรณีเรื่องร้องเรียนการถ่<wbr></wbr>ายทอดสดเหตุการณ์เจรจาผู้ต้<wbr></wbr>องหาจนยิงตนเองเสียชีวิต ขณะนี้อนุกรรมการด้านเนื้อหายั<wbr></wbr>งอยู่ในระหว่างการรวบรวมข้อมูล และให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาชี้<wbr></wbr>แจงก่อนสรุปว่าขัดมาตรา 37 หรือไม่ จึงยังไม่ได้เสนอวาระเข้ามาให้ กสท. พิจารณาครั้งนี้ ส่วนในมิติจริยธรรม สำนักงาน กสทช. ได้ส่งจดหมายไปให้แต่ช่องพิ<wbr></wbr>จารณาตั<wbr></wbr>วเองตามกรอบจรรยาบรรณของช่องต่<wbr></wbr>างๆแล้วว่าขัดกติกากำกับตนเองที<wbr></wbr>่วางไว้หรือไม่ แล้วให้แจ้งกลับมาที่ กสทช. ใน 15 วัน จากนั้น สำนักงาน กสทช. จะส่งเรื่องต่อให้องค์กรวิชาชี<wbr></wbr>พสื่อพิจารณาต่อไป เพื่อให้เป็นบรรทัดฐานว่<wbr></wbr>าการเผยแพร่ถือว่าขัดจริยธรรมสื<wbr></wbr>่อไหม ถ้าขัดแล้วสื่อควรทำอย่างไร เช่น การขอโทษและแก้ไข เป็นต้น” สุภิญญากล่าว</div> <div>  </div> <div> นอกจากนี้มีวาระน่าติดตาม ได้แก่ วาระการกำหนดแนวทางการดำเนินคดี<wbr></wbr>ปกครอง กรณีมูลนิธิเสียงธรรมเพื่<wbr></wbr>อประชาชน ได้ยื่นฟ้อง กสทช. และ กสท. ต่อศาลปกครองอุดรธานี โดยศาลปกครองมีคำสั่งให้<wbr></wbr>ทำการแก้คำฟ้องพร้อมด้วยพยานหลั<wbr></wbr>กฐานยื่นต่<wbr></wbr>อศาลโดยจะครบกำหนดในวันที่ 3 มิ.ย. นี้ วาระสรุปผลการรับฟังความคิดเห็<wbr></wbr>นร่างประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์การจัดทำผั<wbr></wbr>งรายการสำหรับการให้บริการกิ<wbr></wbr>จการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ (ฉบับที่ 4) การพิจารณาให้ระงั<wbr></wbr>บการออกอากาศโฆษณาผลิตภัณฑ์หรื<wbr></wbr>อสินค้าในกิจการกระจายเสี<wbr></wbr>ยงและกิจการโทรทัศน์<wbr></wbr>วาระการขยายระยะเวลายื่<wbr></wbr>นรายงานการแพร่แปลกปลอมของสถานี<wbr></wbr>วิทยุกระจายเสียงที่ได้รับจั<wbr></wbr>ดสรรคลื่นความถี่และวาระอื่น ๆ ติดตามการประชุมในวันจันทร์นี้</div> </div>

อนุฯ เนื้อหา กสทช.เสนอปรับ 'วอยซ์ทีวี' เหตุเสนอข่าว 'พลเมืองโต้กลับ' ขัดประกาศ คสช.

อนุฯ เนื้อหา กสทช.เสนอปรับ 'วอยซ์ทีวี' เหตุเสนอข่าว 'พลเมืองโต้กลับ' ขัดประกาศ คสช. Posted: 28 May 2016 09:42 PM PDT  (...

อ่านเพิ่มเติม »

ศาลตัดสินโทษ 'บิกโนเน' เผด็จการคนสุดท้ายของอาร์เจนตินา ฐานเอี่ยวล่าสังหารประชาชน

<div style="text-align: center;"> <img border="0" height="368" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgW7znh3XPMw-9LkOM-7D81s0Chy1ZK3evxhXLOZZ5w3vOLrNuHHqQ-8sJR94-y9ALubMZtnCoyefYMnjy6nKxyCCR5leY1INuyQiK_z2tgsnSoSTAtJiBggwfdoMYneg-4M9LVp9NOSUI/s640/2016-05-30_185918.jpg" width="640" /></div> <br /> <div style="color: #333333; font-family: 'Open Sans', sans-serif; font-size: 16px; line-height: 22.8571px; margin: 10px;"> <strong>ศาลตัดสินโทษ 'บิกโนเน' เผด็จการคนสุดท้ายของอาร์เจนติ<wbr></wbr>นา ฐานเอี่ยวล่าสังหารประชาชน</strong></div> <div style="color: #333333; font-family: 'Open Sans', sans-serif; font-size: 16px; line-height: 22.8571px; margin: 10px;"> Posted: 29 May 2016 07:40 AM PDT</div> <div style="color: #333333; font-family: 'Open Sans', sans-serif; font-size: 16px; line-height: 22.8571px;"> <div style="margin: 10px;"> อดีตนายพลผู้ได้รับสมญานามว่าเผด็จการคนสุดท้ายของอาร์เจนตินาถูกตัดสินลงโทษจำคุกเพิ่มอีก 20 ปี ฐานมีส่วนเกี่ยวข้องกับปฏิบัติการเหยี่ยวที่มีการไล่ล่าศัตรูทางการเมืองของเผด็จการในอเมริกาใต้ของยุคนั้นอย่างโหดเหี้ยม นอกจากนี้ยังพบว่าสหรัฐฯ มีส่วนช่วยเหลือเผด็จการอเมริกาใต้ในปฏิบัติการดังกล่าวด้วย</div> <div style="margin: 10px;"> 30 พ.ค. 2559 เรย์นัลโด บิกโนเน อดีตนายพล วัย 88 ปี ผู้ที่ได้รับขนานนามว่าเป็นเผด็จการทหารคนสุดท้ายของอาร์เจนตินาถูกตัดสินลงโทษจำคุก 20 ปี จากที่เขามีบทบาทในปฏิบัติการเหยี่ยว (Operation Condor) ซึ่งเป็นปฏิบัติการจัดตั้งหน่วยสังหารร่วมกันในประเทศเผด็จการแถบเมริกาใต้ ได้แก่ บราซิล โบลิเวีย ชิลี ปารากวัย อุรุกวัย รวมถึงอาร์เจนตินา ที่ทำการข้ามแดนเพื่อลักพาตัว ทารุณกรรมและสังหารศัตรูทางการเมืองที่หนีข้ามประเทศ</div> <div style="margin: 10px;"> ในอาร์เจนตินามีกรณี "การจับกุมอย่างผิดกฎหมาย" 105 กรณีซึ่งส่วนใหญ่มักจะตามมาด้วยการเสียชีวิตของชาวต่างชาติหลายสัญชาติที่หลบหนีการถูกตามล่าทางการเมืองเข้าไปอยู่ในอาร์เจนตินา และในอาร์เจนตินาเองภายใต้รัฐบาลทหารในยุคสมัยนั้นก็มีการปราบปรามผู้คนด้วยสาเหตุทางการเมืองจนมีผู้คนหลบหนีออกจากประเทศเช่นกัน โดยหลังจากที่จับกุมตัวเหยื่อมีการบังคับให้ "สาบสูญ" โดยมักจะถูกเผา หรือถูกวางยาแล้วโยนจากเครื่องบินลงสู่มหาสมุทรแอตแลนติก</div> <div style="margin: 10px;"> แต่ในที่สุดตัวการผู้ก่ออาชญากรรมโหดเหี้ยมเหล่านี้ก็ถูกตัดสินลงโทษ โดยที่ผู้พิพากษา อเดรียน กรุนแบร์ก อ่านคำพิพากษาตัดสินอดีตเจ้าหน้าที่ทหาร 17 คนในห้องพิจารณาคดีที่เต็มไปด้วยญาติๆ ของเหยื่อ</div> <div style="margin: 10px;"> บิกโนเน ปกครองอาร์เจนตินาสมัยปี 2525-2526 ในช่วงต้นสงครามเกาะฟอล์กแลนด์ เขาถูกตัดสินว่ามีส่วนพัวพันกับการลักพาตัวและการใช้อำนาจในทางที่ผิดในการบังคับสาบสูญประชาชนมากกว่า 100 คน โดยที่ก่อนหน้านี้บิกโนเนก็เคยถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตมาแล้วจากการละเมิดสิทธิมนุษยชนหลายเรื่องในช่วงที่อาร์เจนตินาอยู่ภายใต้เผด็จการในปี 2519-2526 อดีตนายพลระดับสูงอีกรายหนึ่งที่ถูกตัดสินคือ ซานติเอโก ริเวอรอส ถูกตัดสินให้จำคุก 25 ปี</div> <div style="margin: 10px;"> ลุซ ปาลมาส ซาลดัว ทนายความฝ่ายญาติผู้สูญเสียจากศูนย์ศึกษาสังคมและกฎหมายซึ่งเป็นกลุ่มสิทธิมนุษยชนอาร์เจนตินากล่าวว่า การตัดสินในครั้งนี้มีความสำคัญเพราะเป็นครั้งแรกที่ปฏิบัติการเหยี่ยวได้รับการพิสูจน์คดีในศาล และถือเป็นครั้งแรกที่อดีตสมาชิกผู้ร่วมปฏิบัติการเหยี่ยวถูกตัดสินฐานก่อตั้งองค์กรอาชญากรรม</div> <div style="margin: 10px;"> หนึ่งในกรณีที่ริเวอรอสถูกตัดสินคือกรณีที่พวกเขาลักพาตัวคู่สามีภรรยาพร้อมกับทารกไปคุมขังไว้ในสถานกักกันของกองบัญชาการปฏิบัติการเหยี่ยวในบัวโนสไอเรส คู่สามีภรรยาถูกสังหารและลูกของพวกเขาชื่อมารีอานา อายุ 1 ขวบถูกมอบให้กับเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองอาร์เจนตินาเลี้ยงดู จนกระทั่งอีก 16 ปีหลังจากนั้นมารีอานาถึงจะได้กลับไปสู่ญาติๆ ครอบครัวจริงของเธอ ส่วนพ่อเลี้ยงของเธอถูกตัดสินฐานกระทำทารุณกรรมและจับกุมคนอย่างผิดกฎหมาย</div> <div style="margin: 10px;"> ถึงแม้ว่าในการพิจารณาคดีในครั้งนี้จะไม่ได้คำนึงถึงบทบาทของทางการสหรัฐฯ ในยุคนั้นต่อปฏิบัติการที่โหดร้ายในอเมริกาใต้ แต่ก็มีหลักฐานสำคัญที่โยงถึงบทบาทของสหรัฐฯ ในยุคนั้นได้ ซาลดัวกล่าวว่าพวกเขาค้นพบเอกสารของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ แสดงให้เห็นว่าสหรัฐฯ รู้เห็นเกี่ยวกับการสังหารในกรณีปฏิบัติการเหยี่ยวและให้ความช่วยเหลือทางเทคนิค มีหลักฐานบ่งชี้ว่าหน่วยงานข่าวกรองกลางสหรัฐฯ หรือซีไอเอ ให้คอมพิวเตอร์แก่หน่วยปฏิบัติการเหยี่ยวและติดต่อพวกเขาผ่านทางบริการโทรเลขในกรุงปานามา</div> <div style="margin: 10px;"> แม้ว่าโดยทางการแล้วบริการโทรเลขนี้ถูกกำหนดให้ใช้กับการซ้อมรบร่วมกันของทหารในประเทศอเมริกาใต้กับสหรัฐฯ ที่ปานามา แต่เอกสารโทรเลขจากสถานทูตสหรัฐฯ ในปารากวัยส่งถึงทางการสหรัฐฯ ระบุว่าพวกเขาทำการประสานงานด้านข้อมูลกับประเทศแถบอเมริกาใต้ที่เป็นเครือข่ายของปฏิบัติการเหยี่ยว</div> <div style="margin: 10px;"> ซาลดัวระบุว่าอาจจะมีการเปิดเผยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทบาทของสหรัฐฯ ในปฏิบัติการเหยี่ยวในอนาคต ปัจจุบันพวกเขามีแต่เอกสารของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ พวกเขาหวังว่าจะได้ข้อมูลมากกว่านี้หลังจากที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ และซีไอเอยอมเผยแพร่เอกสารในช่วงเผด็จการอเมริกาใต้ จากที่ก่อนหน้านี้ในวงที่ไปเยือนอาร์เจนตินาในเดือน มี.ค. ประธานาธิบดีบารัก โอบามา ให้สัญญาว่าจะเปิดเผยเอกสารเรื่องนี้ทั้งหมด รวมถึงเอกสารของกองทัพและเอกสารด้านข่าวกรองด้วย</div> <div style="margin: 10px;"> "ผมชื่อว่าพวกเราควรจะมีความรับผิดชอบที่จะเผชิญหน้ากับอดีตด้วยความซื่อสัตย์และโปร่งใส" ซาลดัวกล่าว</div> <div style="margin: 10px;"> <br /></div> <div style="margin: 10px;"> <br /></div> <div style="margin: 10px;"> <strong>เรียบเรียงจาก</strong></div> <div style="margin: 10px;"> Argentina's last military dictator jailed for role in international death squad, The Guardian, 27-05-2016 <a data-mce-href="http://www.theguardian.com/world/2016/may/27/argentinas-last-military-dictator-jailed-over-role-in-operation-condor" data-saferedirecturl="https://www.google.com/url?hl=en&q=http://www.theguardian.com/world/2016/may/27/argentinas-last-military-dictator-jailed-over-role-in-operation-condor&source=gmail&ust=1464694050348000&usg=AFQjCNHXx1-SqYUEkSTe772gJdmt9oXswg" href="http://www.theguardian.com/world/2016/may/27/argentinas-last-military-dictator-jailed-over-role-in-operation-condor" style="background-attachment: initial; background-clip: initial; background-image: initial; background-origin: initial; background-position: initial; background-repeat: initial; background-size: initial; color: #428bca; text-decoration: none;" target="_blank">http://www.theguardian.com/world/2016/may/27/argentinas-last-military-dictator-jailed-over-role-in-operation-condor</a></div> <div> <br /></div> </div>

ศาลตัดสินโทษ 'บิกโนเน' เผด็จการคนสุดท้ายของอาร์เจนตินา ฐานเอี่ยวล่าสังหารประชาชน

ศาลตัดสินโทษ 'บิกโนเน' เผด็จการคนสุดท้ายของอาร์เจนติ นา ฐานเอี่ยวล่าสังหารประชาชน Posted: 29 May 2016 07:40 AM PDT อดีตนายพ...

อ่านเพิ่มเติม »

ฮิวแมนไรท์วอทช์จี้ขอรูปธรรมหลังครม.ผ่าน กม.ป้องกันทรมาน-บังคับให้สูญหาย

<div style="text-align: center;"> <img border="0" height="356" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEglzrRtqW0qjLgHfD4g_COTX5zkVurZggYQa5IRXNN0l4TNQGqWUZQEQ0d_iEsOtVwBro72mUFie987nvhs58aM49b3uaKB3eTGL4w1zzKjdhwYTxLXFqwCHI9_Wr7UpjSoaxJtDZnGHgs/s640/2016-05-27_015105.jpg" width="640" /></div> <div style="margin: 10px;"> <strong>ฮิวแมนไรท์วอทช์จี้ขอรูปธรรมหลั<wbr></wbr>งครม.ผ่าน กม.ป้องกันทรมาน-บังคับให้สู<wbr></wbr>ญหาย</strong></div> <div style="margin: 10px;"> Posted: 26 May 2016 02:31 AM PDT  (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เวบไซท์ประชาไท)     </div> <div> <div style="background-color: white; color: #333333; font-family: 'Open Sans', sans-serif; font-size: 16px; line-height: 22.8571px; margin: 10px;"> ฮิวแมนไรท์วอทช์จี้ขอรูปธรรมหลั<wbr></wbr>งรัฐไทยรับหลักการ กม.ป้องกันทรมาน-บังคับให้สู<wbr></wbr>ญหาย ชี้หลังรัฐประหาร มีกรณีซ้อมทรมานเพียบ ด้านข้าหลวงใหญ่สิทธิ ยูเอ็น เผยได้รับเรื่องร้องเรียนกรณีบุ<wbr></wbr>คคลถูกบังคับให้สูญหายในไทยถึง 82 กรณี พร้อมเสนอไทยอนุญาตให้กรรมการสิ<wbr></wbr>ทธิไทย เข้าสังเกตสถานที่ควบคุมตัวอย่<wbr></wbr>างอิสระ</div> <div style="background-color: white; color: #333333; font-family: 'Open Sans', sans-serif; font-size: 16px; line-height: 22.8571px; margin: 10px;"> 26 พ.ค. 2559 หลังที่ประชุม ครม. มีมติเห็นชอบในหลักการร่าง พ.ร.บ.ป้องกั<wbr></wbr>นและปราบปรามการทรมานและการบั<wbr></wbr>งคับให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. …. และมีมติเห็นชอบให้สัตยาบันอนุ<wbr></wbr>สัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ<wbr></wbr>้มครองบุคคลทุกคนจากการบังคั<wbr></wbr>บให้หายสาบสูญ</div> <div style="background-color: white; color: #333333; font-family: 'Open Sans', sans-serif; font-size: 16px; line-height: 22.8571px; margin: 10px;"> องค์กรฮิวแมนไรท์วอทช์ ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา เรียกร้องให้รัฐบาลเร่งดำเนิ<wbr></wbr>นการตามที่ให้คำมั่นไว้ ว่าจะทำให้การทรมานและการบังคั<wbr></wbr>บให้สูญหายเป็นความผิดอาชญากรรม โดยชี้ว่าแม้ไทยจะประกาศว่า จะผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวรวมถึ<wbr></wbr>งให้สัตยาบัน แต่รัฐบาลไทยก็ยังไม่ได้ระบุ<wbr></wbr>กรอบเวลาที่ชัดเจนในการดำเนิ<wbr></wbr>นการดังกล่าว</div> <div style="background-color: white; color: #333333; font-family: 'Open Sans', sans-serif; font-size: 16px; line-height: 22.8571px; margin: 10px;"> แบรด อดัมส์ ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียของฮิ<wbr></wbr>วแมนไรท์วอทช์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่รัฐที่<wbr></wbr>กระทำการทรมานและบังคับให้สู<wbr></wbr>ญหายในไทยมักเลี่ยงโทษร้ายแรงที<wbr></wbr>่พวกเขาควรจะได้รับ เพราะกฎหมายไทยไม่ได้ถือว่ามั<wbr></wbr>นเป็นอาชญากรรมร้ายแรง</div> <div style="background-color: white; color: #333333; font-family: 'Open Sans', sans-serif; font-size: 16px; line-height: 22.8571px; margin: 10px;"> "รัฐบาลต้องดำเนินการอย่<wbr></wbr>างรวดเร็วและเป็นรูปธรรม เพื่อทำให้การทรมานและบังคับบุ<wbr></wbr>คคลให้สูญหายเป็นความผิดทางอาญา และใช้กฎหมายใหม่อย่างมีประสิ<wbr></wbr>ทธิภาพ"</div> <div style="background-color: white; color: #333333; font-family: 'Open Sans', sans-serif; font-size: 16px; line-height: 22.8571px; margin: 10px;"> ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวจะมี<wbr></wbr>บทลงโทษจำคุกเจ้าหน้าที่รัฐผู้<wbr></wbr>กระทำทรมานสูงสุดถึง 20 ปี ซึ่งโทษนี้จะเพิ่มเป็น 30 ปีหากการทรมานนำไปสู่การบาดเจ็<wbr></wbr>บอย่างรุนแรง และโทษจำคุกตลอดชีวิ<wbr></wbr>ตหากการทรมานส่งผลให้ผู้เคราะห์<wbr></wbr>ร้ายเสียชีวิต เจ้าหน้าที่ผู้กระทำการบังคั<wbr></wbr>บให้บุคคลสูญหายจะได้รับโทษจำคุ<wbr></wbr>กสูงสุด 20 ปี ซึ่งจะเพิ่มเป็น 30 ปีหากการบังคับให้บุคคลสู<wbr></wbr>ญหายทำให้บุคคลต้องบาดเจ็บอย่<wbr></wbr>างรุนแรง และมีโทษจำคุกตลอดชีวิตหากบุ<wbr></wbr>คคลถึงแก่ชีวิต</div> <div style="background-color: white; color: #333333; font-family: 'Open Sans', sans-serif; font-size: 16px; line-height: 22.8571px; margin: 10px;"> นอกจากนี้ ฮิวแมนไรท์วอทช์แสดงความกั<wbr></wbr>งวลอย่างมากต่อกรณีการคุมตัวอย่<wbr></wbr>างลับๆ โดยทหาร ภายใต้มาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 ต่อผู้เห็นต่างทางการเมือง และผู้ต้องหาคดีความมั่นคง และภายใต้กฎอัยการศึก 2457 ต่อผู้ต้องสงสัยว่าเป็นผู้ก่<wbr></wbr>อการในชายแดนใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังรัฐประหาร พ.ค. 2557</div> <div style="background-color: white; color: #333333; font-family: 'Open Sans', sans-serif; font-size: 16px; line-height: 22.8571px; margin: 10px;"> แถลงการณ์ของฮิวแมนไรท์วอชท์ชี้<wbr></wbr>ว่า การทรมานเป็นปัญหาที่เกิดระหว่<wbr></wbr>างการคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่<wbr></wbr>ตำรวจและทหาร หลังรัฐประหารเมื่อ พ.ค. 2557 มีคนจำนวนมากซึ่งถูกนำตัวไปคุ<wbr></wbr>มขังที่ค่ายทหารบอกว่าพวกเขาถู<wbr></wbr>กทรมานหรือปฏิบัติไม่ดี โดยวิธีการทรมาน เช่น การตี การช็อตไฟฟ้า ทำให้แทบหายใจไม่ออก รัฐบาลทหารมักจะปฏิเสธข้อกล่<wbr></wbr>าวหาว่า ทหาร ตำรวจ หรือหน่วยงานความมั่นคงทรมานหรื<wbr></wbr>อปฏิบัติไม่ดีต่อผู้ถูกคุมขัง นอกจากนี้ยังมักฟ้องกลับด้วยข้<wbr></wbr>อหาแจ้งความเท็จ โดยตั้งใจทำลายชื่อเสี<wbr></wbr>ยงประเทศไทย</div> <div style="background-color: white; color: #333333; font-family: 'Open Sans', sans-serif; font-size: 16px; line-height: 22.8571px; margin: 10px;"> อดัมส์ ชี้ว่า รัฐต่างๆ ที่ห่วงใยในประเด็นนี้ควรเร่<wbr></wbr>งให้รัฐบาลไทยทำตามคำมั่นที่ให้<wbr></wbr>ไว้ว่าจะต่อสู้กั<wbr></wbr>บการทรมานและการบังคับให้สูญหาย ปัญหาที่ฝังรากยาวนาน ซึ่งกลายเป็นหลักฐานของการไม่<wbr></wbr>เคารพกฎหมายและสิทธิขั้นพื้นฐาน ต้องใช้ความพยายามที่แข็งแกร่<wbr></wbr>งและยั่งยืนเพื่อขจัดมัน</div> <div style="background-color: white; color: #333333; font-family: 'Open Sans', sans-serif; font-size: 16px; line-height: 22.8571px; margin: 10px;"> <br /></div> <h3 style="background-color: white; color: #282828; font-family: Raleway, sans-serif; font-size: 24px; font-weight: normal; line-height: 1.1; margin: 20px 0px 10px; text-rendering: optimizeLegibility;"> ยูเอ็นยินดี ไทยผ่านกม.ป้องอุ้มหาย-แนะอนุ<wbr></wbr>ญาต กสม.สังเกตสถานที่คุมตัว</h3> <div style="background-color: white; color: #333333; font-family: 'Open Sans', sans-serif; font-size: 16px; line-height: 22.8571px; margin: 10px;"> ด้าน สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิ<wbr></wbr>มนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UNOHCHR) ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 25 พ.ค. แสดงความยินดีที่รัฐบาลไทยตัดสิ<wbr></wbr>นใจจะออกกฎหมายให้<wbr></wbr>การทรมานและการบังคับให้บุคคลสู<wbr></wbr>ญหายถือเป็นความผิดทางอาญา รวมทั้งจะให้สัตยาบันต่ออนุสั<wbr></wbr>ญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้<wbr></wbr>มครองบุคคลทุกคนจากการถูกบังคั<wbr></wbr>บให้สูญหาย (International Convention for the Protection of All Persons from Enforced Disappearance)</div> <div style="background-color: white; color: #333333; font-family: 'Open Sans', sans-serif; font-size: 16px; line-height: 22.8571px; margin: 10px;"> “การตัดสินใจของรัฐบาลถือเป็นก้<wbr></wbr>าวย่างที่ดีในการปฏิบัติ<wbr></wbr>ตามมาตรฐานด้านสิทธิมนุ<wbr></wbr>ษยชนระหว่างประเทศ เราขอเร่งรัดให้สภานิติบัญญัติ<wbr></wbr>แห่งชาติผ่านกฎหมายว่าด้<wbr></wbr>วยการทรมานและการบังคับให้บุ<wbr></wbr>คคลสูญหายอย่างเร่งด่วนต่อไป” โลรอง เมย์ยอง รักษาการผู้แทนสำนักงานข้<wbr></wbr>าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่<wbr></wbr>งสหประชาชาติประจำภูมิภาค กล่าว</div> <div style="background-color: white; color: #333333; font-family: 'Open Sans', sans-serif; font-size: 16px; line-height: 22.8571px; margin: 10px;"> “เป็นเวลานานเหลือเกินแล้วที่<wbr></wbr>ไม่มีการรับผิดชอบกรณีเกิ<wbr></wbr>ดการทรมานและบังคับบุคคลให้สู<wbr></wbr>ญหายโดยไม่สมัครใจ ทั้งนี้เพราะไม่มี<wbr></wbr>กรอบทางกฎหมายที่จะลงโทษผู้<wbr></wbr>กระทำผิด แต่เมื่อใดก็ตามที่มีการผ่านร่<wbr></wbr>างกฎหมายฉบับนี้ การทรมานและการบังคับให้บุคคลสู<wbr></wbr>ญหายจะถือเป็นอาชญากรรมเสียที และเหยื่อและครอบครั<wbr></wbr>วจะสามารถใช้ช่องทางกฎหมาย ในขณะที่ผู้ก่ออาชญากรรมอั<wbr></wbr>นโหดร้ายจะถูกลงโทษ”</div> <div style="background-color: white; color: #333333; font-family: 'Open Sans', sans-serif; font-size: 16px; line-height: 22.8571px; margin: 10px;"> แถลงการณ์ระบุว่า คณะทำงานของสหประชาชาติว่าด้<wbr></wbr>วยการบังคับให้บุคคลสูญหายหรื<wbr></wbr>อโดยไม่สมัครใจรับเรื่องร้องเรี<wbr></wbr>ยนกรณีบุคคลถูกบังคับให้สู<wbr></wbr>ญหายในประเทศไทยที่ยังไม่ได้รั<wbr></wbr>บการคลี่คลายอยู่ถึง 82 กรณี</div> <div style="background-color: white; color: #333333; font-family: 'Open Sans', sans-serif; font-size: 16px; line-height: 22.8571px; margin: 10px;"> นอกจากนี้ สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิ<wbr></wbr>มนุษยชนแห่งสหประชาชาติประจำภู<wbr></wbr>มิภาค ยังได้ขอให้รัฐบาลไทยอนุญาตให้<wbr></wbr>สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุ<wbr></wbr>ษยชนแห่งชาติ (กสม.) เข้าสังเกตสถานที่ควบคุมตัวทุ<wbr></wbr>กแห่งอย่างอิสระ เพื่อเป็นการป้องกันเพิ่มเติ<wbr></wbr>มไม่ให้ผู้ถูกควบคุมตัวถูกซ้<wbr></wbr>อมทรมาน</div> <div style="background-color: white; color: #333333; font-family: 'Open Sans', sans-serif; font-size: 16px; line-height: 22.8571px; margin: 10px;"> พร้อมกันนี้ สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิ<wbr></wbr>มนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ยังได้เรียกร้องให้รัฐบาลไทยปฏิ<wbr></wbr>บัติตามภาระผูกพันของตนด้<wbr></wbr>วยการให้สัตยาบันรับรองพิธี<wbr></wbr>สารเลือกรับอนุสัญญาต่อต้<wbr></wbr>านการทรมาน (Optional Protocol to the Convention against Torture) ทันที ซึ่งจะส่งผลให้สามารถจัดตั้<wbr></wbr>งกลไกป้องกันระดับชาติเพื่อสั<wbr></wbr>งเกตการณ์การเข้าเยี่ยมสถานที่<wbr></wbr>ต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ เช่น ศูนย์ควบคุมตัว เรือนจำ และสถานที่อื่นในทำนองเดียวกัน</div> <div style="background-color: white; color: #333333; font-family: 'Open Sans', sans-serif; font-size: 16px; line-height: 22.8571px; margin: 10px;"> ทั้งนี้ ในระหว่างการทบทวนสถานการณ์สิ<wbr></wbr>ทธิมนุษยชน (ยูพีอาร์) ของไทยที่เจนีวาเมื่อต้นเดือนที<wbr></wbr>่ผ่านมา ประเทศไทยได้กล่าวว่<wbr></wbr>าตนวางแผนจะยื่นพิธีสารเลือกรั<wbr></wbr>บอนุสัญญาต่อต้านการทรมานให้กั<wbr></wbr>บคณะรัฐมนตรีเพื่อให้สัตยาบันรั<wbr></wbr>บรองต่อไป</div> <div style="background-color: white; color: #333333; font-family: 'Open Sans', sans-serif; font-size: 16px; line-height: 22.8571px; margin: 10px;"> ก่อนหน้านี้ เมื่อปี 2550 ประเทศไทยให้สัตยาบันรับรองอนุ<wbr></wbr>สัญญาต่อต้านการทรมานและการปฏิ<wbr></wbr>บัติหรือการลงโทษอื่นๆ ที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือที่ย่ำยีศักดิ์ศรี (the Convention against Torture and Other Cruel, Inhuman or Degrading Treatment or Punishment)</div> <div style="background-color: white; color: #333333; font-family: 'Open Sans', sans-serif; font-size: 16px; line-height: 22.8571px; margin: 10px;"> <br /></div> <div style="background-color: white; color: #333333; font-family: 'Open Sans', sans-serif; font-size: 16px; line-height: 22.8571px; margin: 10px;"> <strong>ที่มา: </strong><a data-mce-href="https://www.hrw.org/news/2016/05/24/thailand-press-junta-end-torture-disappearances" data-saferedirecturl="https://www.google.com/url?hl=en&q=https://www.hrw.org/news/2016/05/24/thailand-press-junta-end-torture-disappearances&source=gmail&ust=1464440856234000&usg=AFQjCNGqCXr5fNfPMGWGtd85r-Jba-jj5g" href="https://www.hrw.org/news/2016/05/24/thailand-press-junta-end-torture-disappearances" style="background: transparent; color: #428bca; text-decoration: none;" target="_blank">hrw.org</a>, Facebook: <a data-mce-href="https://www.facebook.com/UNHumanRightsAsia/photos/a.657330534369993.1073741828.654755261294187/740532982716414/?type=3&theater" data-saferedirecturl="https://www.google.com/url?hl=en&q=https://www.facebook.com/UNHumanRightsAsia/photos/a.657330534369993.1073741828.654755261294187/740532982716414/?type%3D3%26theater&source=gmail&ust=1464440856234000&usg=AFQjCNHS74OE1aL_nlMWnEhnKBZzrYRp-Q" href="https://www.facebook.com/UNHumanRightsAsia/photos/a.657330534369993.1073741828.654755261294187/740532982716414/?type=3&theater" style="background: transparent; color: #428bca; text-decoration: none;" target="_blank">UNHumanRigh<wbr></wbr>tsAsia</a></div> </div> <div> <br /></div>

ฮิวแมนไรท์วอทช์จี้ขอรูปธรรมหลังครม.ผ่าน กม.ป้องกันทรมาน-บังคับให้สูญหาย

ฮิวแมนไรท์วอทช์จี้ขอรูปธรรมหลั งครม.ผ่าน กม.ป้องกันทรมาน-บังคับให้สู ญหาย Posted: 26 May 2016 02:31 AM PDT  (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เวบไซ...

อ่านเพิ่มเติม »

กรณีสมยศ: บรรณาธิการต้องความผิด ติดคุก10 ปี เพราะศาลเชื่อว่าเขาคิดเหมือนพยานโจทก์

<div style="color: #333333; font-family: 'Open Sans', sans-serif; font-size: 16px; line-height: 22.8571px; margin: 10px; text-align: center;"> <strong><img border="0" height="368" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhUS4YiFc-syr4uRhFfYqDtAWRWspiNM0uYFl5DS0gGSgYG_YmDUa7kKmqGRMxIalGyfX_uKreWBvuRiL2rvMHN6KlJrga9KRNPFxFyxgjn50fEHX_YcI1ZR5r_xSisJfsF36wlk3LjSPM/s640/2016-05-27_211157.jpg" width="640" /></strong></div> <div style="color: #333333; font-family: 'Open Sans', sans-serif; font-size: 16px; line-height: 22.8571px; margin: 10px;"> <strong>กรณีสมยศ: บรรณาธิการต้องความผิด ติดคุก10 ปี เพราะศาลเชื่อว่าเขาคิดเหมื<wbr></wbr>อนพยานโจทก์</strong></div> <div style="color: #333333; font-family: 'Open Sans', sans-serif; font-size: 16px; line-height: 22.8571px; margin: 10px;"> Posted: 26 May 2016 05:27 AM PDT  (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เวบไซท์ประชาไท)</div> <div style="color: #333333; font-family: 'Open Sans', sans-serif; font-size: 16px; line-height: 22.8571px;"> <div style="margin: 10px;"> เมื่อเดือนมกราคม 2013 ศาลอาญาได้พิพากษาจำคุกบรรณาธิ<wbr></wbr>การนิตยสารเป็นเวลา 10 ปี เนื่องจากกระทำผิดกฎหมายหมิ่<wbr></wbr>นประมาทกษัตริย์ ด้วยการตีพิมพ์เผยแพร่บทความ 2 ชิ้น ศาลพิสูจน์ความผิดของบรรณาธิ<wbr></wbr>การคนนั้นด้วยการให้พยานมาอ่<wbr></wbr>านบทความที่ถูกกล่าวหาและตี<wbr></wbr>ความให้ศาลฟัง เมื่อได้ฟังการตี<wbr></wbr>ความของพยานเหล่านั้นแล้ว ศาลสรุปว่า บรรณาธิการคนนั้นเมื่ออ่<wbr></wbr>านบทความ 2 ชิ้นนั้นแล้ว ก็จะต้องตีความแบบเดียวกั<wbr></wbr>บพยานส่วนหนึ่ง จึงแสดงให้เห็นว่าบรรณาธิการมี<wbr></wbr>เจตนาหมิ่นประมาทกษัตริย์ด้<wbr></wbr>วยการตีพิมพ์เผยแพร่บทความทั้ง 2 ชิ้น ศาลจึงลงโทษบรรณาธิการผู้นั้นด้<wbr></wbr>วยการจำคุกเป็นเวลา 10 ปี</div> <div style="margin: 10px;"> สมยศ พฤกษาเกษมสุข นอกจากเป็นบรรณาธิการนิ<wbr></wbr>ตยสารวอยซ์ออฟทักษิณซึ่งตีพิมพ์<wbr></wbr>บทความที่ถูกกล่าวหาแล้ว ยังเป็นนักเคลื่อนไหวด้านแรงงาน ทำงานต่อสู้เพื่อผู้ใช้<wbr></wbr>แรงงานมาตลอดหลายสิบปี ในท่ามกลางวิกฤตทางการเมืองที่<wbr></wbr>สถาบันกษัตริย์เป็นส่วนสำคัญหนึ<wbr></wbr>่งในเหตุการณ์ สมยศได้รณรงค์ให้ยกเลิ<wbr></wbr>กกฎหมายหมิ่นประมาทกษัตริย์<wbr></wbr>เพราะเห็นว่าเป็นกฎหมายที่ละเมิ<wbr></wbr>ดเสรี<wbr></wbr>ภาพในการแสดงออกและแสดงความคิ<wbr></wbr>ดเห็น</div> <div style="margin: 10px;"> ในอดีตประเทศไทยเคยมีกฎหมายเกี่<wbr></wbr>ยวกับสิ่งพิมพ์ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1941 ซึ่งก็คือ พระราชบัญญัติการพิมพ์ พุทธศักราช 2484 ซึงมีบทบัญญัติให้บรรณาธิการต้<wbr></wbr>องรับผิดในข้อความหมิ่นประมาทที<wbr></wbr>่เกิดขึ้นในสิ่งพิมพ์ที่<wbr></wbr>ตนเผยแพร่ อย่างไรก็ตาม กฎหมายนี้ได้ถูกยกเลิกไปแล้<wbr></wbr>วในปี 2007 โดยพระราชบัญญัติจดแจ้งการพิมพ์ พุทธศักราช 2550 ซึ่งกฎหมายใหม่นี้ไม่ระบุให้<wbr></wbr>บรรณาธิการต้องรับผิดต่อข้<wbr></wbr>อความหมิ่นประมาทที่เกิดขึ้<wbr></wbr>นในสิ่งพิมพ์ที่ตนพิมพ์เผยแพร่<wbr></wbr>อีกต่อไป เป็นที่เข้าใจโดยทั่<wbr></wbr>วไปในวงการของผู้พิมพ์หนังสื<wbr></wbr>อและนักหนังสือพิมพ์นับแต่นั้<wbr></wbr>นว่า หากมีความผิดฐานหมิ่นประมาทเกิ<wbr></wbr>ดขึ้นในสิ่งพิมพ์หรือหนังสือพิ<wbr></wbr>มพ์ผู้ที่ต้องรับผิดก็คือผู้<wbr></wbr>ประพันธ์เท่านั้น บรรณาธิการไม่ต้องรับผิดอีกต่<wbr></wbr>อไป หลังจากมีกฎหมายใหม่นี้ ก็เกิดคดีความฟ้องร้องและมีคำพิ<wbr></wbr>พากษาเป็นบรรทัดฐานแล้วว่า บรรณาธิการไม่ต้องรับผิดต่อข้<wbr></wbr>อความหมิ่นประมาทที่เกิดขึ้<wbr></wbr>นในสิ่งพิมพ์ เช่น กรณีหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวั<wbr></wbr>นลงตีพิมพ์เผยแพร่เนื้<wbr></wbr>อหาการดำเนินรายการทางสถานีวิ<wbr></wbr>ทยุ ในทำนองว่า ขณะที่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ดำรงตำแหน่งเป็นผู้ว่<wbr></wbr>าการธนาคารแห่งประเทศไทย เคยใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ ต่อมามีการฟ้องบรรณาธิการของหนั<wbr></wbr>งสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน คดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื<wbr></wbr>่อวันที่ 23 มกราคม 2007 ว่าจำเลยกระทำความผิดจริง และตัดสินลงโทษปรับ ต่อมาศาลอุทธรณ์ได้ตัดสินยกฟ้<wbr></wbr>องโดยให้เหตุผลว่า “ขณะที่คดีอยู่ระหว่างการพิ<wbr></wbr>จารณาได้มีการบังคับใช้ พ.ร.บ.จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ.2550 ซึ่งตามมาตรา 3 ได้ให้ยกเลิก พ.ร.บ.การพิมพ์ 2484 อีกทั้ง พ.ร.บ.จดแจ้งการพิมพ์ฯ ไม่ได้บัญญัติให้บรรณาธิการต้<wbr></wbr>องเป็นผู้รับผิดชอบในข้อความที่<wbr></wbr>ลงพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ที่ตนเป็<wbr></wbr>นบรรณาธิการ การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็<wbr></wbr>นความผิดอีกต่อไป”</div> <div style="margin: 10px;"> ในการต่อสู้คดี สมยศ พฤกษาเกษมสุขก็ได้ยก พ.ร.บ.จดแจ้งการพิมพ์ 2550 ขึ้นมาเป็นข้อต่อสู้ว่า พ.ร.บ.ดังกล่าวได้มีบทยกเลิก พ.ร.บ.การพิมพ์ 2484 จำเลยย่อมพ้นจากการเป็นผู้<wbr></wbr>กระทำผิด แต่ศาลกลับปฏิเสธที่จะวินิจฉัย โดยกล่าวในคำพิพากษาว่า “ที่จำเลยต่อสู้ว่า พระราชบัญญัติจดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ.2550 ได้มีบทบัญญัติยกเลิกพระราชบั<wbr></wbr>ญญัติการพิมพ์ พ.ศ.2484 จำเลยย่อมพ้นจากการเป็นผู้<wbr></wbr>กระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 2 วรรคสอง นั้น เป็นเรื่องกฎหมายบัญญัติว่า ถ้าตามบทบัญญัติของกฎหมายที่บั<wbr></wbr>ญญัติในภายหลัง การกระทำเช่นนั้นไม่เป็นความผิ<wbr></wbr>ดต่อไป ให้ผู้ที่ได้กระทำการนั้นพ้<wbr></wbr>นจากการเป็นผู้กระทำความผิด ย่อมหมายความว่าจำเลยพ้<wbr></wbr>นจากการเป็นผู้กระทำความผิ<wbr></wbr>ดตามพระราชบัญญัติการพิมพ์ พ.ศ.2484 เท่านั้น ส่วนการกระทำของจำเลยจะเป็<wbr></wbr>นความผิ<wbr></wbr>ดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ตามฟ้อง ไม่ได้ถูกยกเลิ<wbr></wbr>กโดยผลของกฎหมายดังกล่าวด้วย ข้อต่อสู้ดังกล่าวของจำเลยจึงฟั<wbr></wbr>งไม่ขึ้น ที่จำเลยต่อสู้ว่าจำเลยไม่ใช่ผู<wbr></wbr>้เขียนบทความที่โจทก์นำมาฟ้<wbr></wbr>องเป็นคดีนี้นั้น เห็นว่าโจทก์ฟ้องจำเลยว่<wbr></wbr>าจำเลยหมิ่นประมาท ดูหมิ่น และแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่<wbr></wbr>อพระมหากษัตริย์ด้วยการจัดพิมพ์ จัดจำหน่ายและเผยแพร่นิ<wbr></wbr>ตยสารวอยซ์ออฟทักษิณ ข้อต่อสู้ของจำเลยจึงไม่ใช่<wbr></wbr>การกระทำที่ถูกฟ้อง และไม่ใช่ประเด็นแห่งคดีที่<wbr></wbr>ศาลจะรับวินิจฉัย จึงไม่รับวินิจฉัย”</div> <div style="margin: 10px;"> สรุปคำกล่าวของศาลก็คือ เพราะโจทก์ฟ้องว่าจำเลยหมิ่<wbr></wbr>นประมาทกษัตริย์ด้วยการจัดพิมพ์ จัดจำหน่ายและเผยแพร่นิตยสาร ที่จำเลยอ้างว่า พ.ร.บ.จดแจ้งการพิมพ์ 2550 ได้ยกเลิก พ.ร.บ.การพิมพ์ 2484 ไปแล้ว จึงไม่ใช่การกระทำที่ถูกฟ้อง</div> <div style="margin: 10px;"> ทั้งที่ ถ้าหาก พ.ร.บ.การพิมพ์ 2484 ยังไม่ถูกยกเลิก และมีผลบังคับใช้อยู่ ความผิดที่เกิดขึ้นในกรณีนี้ก็<wbr></wbr>คือ การเป็นบรรณาธิการ จัดพิมพ์ และเผยแพร่นิตยสารที่มีข้<wbr></wbr>อความหมิ่นประมาท แต่ศาลพิพากษาว่ามันไม่ใช่<wbr></wbr>การกระทำที่ถูกฟ้อง</div> <div style="margin: 10px;"> ในการสืบพยานและไต่สวนโดยตลอด ไม่มีพยานหลักฐานอื่นใด ๆ นอกจากพยานหลักฐานที่พิสูจน์ว่<wbr></wbr>าสมยศคือบรรณาธิการของนิตยสารดั<wbr></wbr>งกล่าว และในการพิสูจน์เจตนากระทำผิ<wbr></wbr>ดของสมยศก็ไม่มีพยานหลักฐานอื่<wbr></wbr>นใด นอกจากความเห็นของพยานจำนวนหนึ่<wbr></wbr>งที่ให้การต่อศาลหลังจากที่อ่<wbr></wbr>านบทความแล้ว</div> <div style="margin: 10px;"> ในการสืบพยานเพื่อชี้<wbr></wbr>เจตนากระทำผิดศาลใช้วิธีให้<wbr></wbr>พยานอ่านบทความและแสดงความเห็<wbr></wbr>นว่าบทความ 2 ชิ้นดังกล่าวหมิ่นประมาทหรือไม่ โดยพยานเหล่านั้นมีความเห็<wbr></wbr>นแตกต่างกันออกไปคือ กลุ่มแรก มีความเห็นว่าหมิ่นประมาททั้ง 2 ชิ้น  กลุ่มที่สอง มีความเห็นว่า ชิ้นหนึ่งหมิ่นประมาท อีกชิ้นหนึ่งไม่ทราบว่าหมิ่<wbr></wbr>นประมาทหรือไม่ กลุ่มที่สาม มีความเห็นว่าไม่หมิ่นประมาททั้<wbr></wbr>ง 2 ชิ้น และกลุ่มที่ 4 อ่านไม่รู้เรื่อง ไม่ทราบว่าบทความต้องการหมายถึ<wbr></wbr>งเรื่องอะไร</div> <div style="margin: 10px;"> <strong>คดีนี้จึงต้องบันทึกไว้ในประวั<wbr></wbr>ติศาสตร์ว่า ศาลได้พิพากษาให้บรรณาธิ<wbr></wbr>การคนหนึ่งมีความผิดเพราะเชื่<wbr></wbr>อว่า บรรณาธิการคนนี้อ่านบทความแล้<wbr></wbr>วจะต้องมีความเห็นแบบเดียวกั<wbr></wbr>บพยานกลุ่มที่หนึ่งเท่านั้น โดยไม่มีหลักฐานใด ๆ เลย และไม่มีกฎหมายระบุให้บรรณาธิ<wbr></wbr>การต้องรับผิดต่อความผิดที่เกิ<wbr></wbr>ดขึ้นในสิ่งพิมพ์ที่ตนตีพิมพ์</strong></div> </div>

กรณีสมยศ: บรรณาธิการต้องความผิด ติดคุก10 ปี เพราะศาลเชื่อว่าเขาคิดเหมือนพยานโจทก์

กรณีสมยศ: บรรณาธิการต้องความผิด ติดคุก10 ปี เพราะศาลเชื่อว่าเขาคิดเหมื อนพยานโจทก์ Posted: 26 May 2016 05:27 AM PDT  (อ้างอิงจากอีเมล์ข...

อ่านเพิ่มเติม »

ความหมายใหม่ของชีวิตในโฆษณา (ทศวรรษ2530-2540)

<div style="text-align: center;"> <img border="0" height="368" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjRdB2RJYGAOF8_9v-3c2ROQRcZG4K_5TKr5TA95EkhEg0LIguFDII_NgJnRzMMd5NQpr0fsFT0MiYwwXkjAqnWfBmMYRYC43oXW03M_4JDw_uDKj8m0VM7wdVJIB8Zmlbd_-uRsEs92_Q/s640/2016-05-27_210808.jpg" width="640" /></div> <div style="color: #333333; font-family: 'Open Sans', sans-serif; font-size: 16px; line-height: 22.8571px; margin: 10px;"> <strong>ความหมายใหม่ของชีวิตในโฆษณา (ทศวรรษ2530-2540)</strong></div> <div style="color: #333333; font-family: 'Open Sans', sans-serif; font-size: 16px; line-height: 22.8571px; margin: 10px;"> Posted: 26 May 2016 06:57 AM PDT  (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เวบไซท์ประชาไท)    </div> <div style="color: #333333; font-family: 'Open Sans', sans-serif; font-size: 16px; line-height: 22.8571px;"> <div style="margin: 10px;"> <br />ในโลกที่กระบวนการหมุ<wbr></wbr>นวนของการผลิตสินค้า การขาย และการสะสมทุนเพื่อทำการผลิต ได้ดำเนินต่อเนื่องไปเรื่อยๆ ได้ทำให้วงล้อของการหมุนวนนี้ กินลึกเข้าไปสู่ภายในจิ<wbr></wbr>ตใจของคนมากขึ้น  การโฆษณาจึงมิใช่เพียงแค่<wbr></wbr>การนำเสนอคุณภาพ"สินค้า" เพื่อการใช้งานเท่านั้น   หากแต่การขาย "สินค้า" กลับจำเป็นที่จะต้อง "ฝัง" ความหมายอื่นๆ ให้มีเสน่ห์ หรือมีนัยยะ อันนำไปสู้การตัดสินใจบริ<wbr></wbr>โภคของผู้คนอีกด้วย เพื่อที่จะให้วงล้อนั้<wbr></wbr>นสามารถหมุนได้เร็วมากขึ้น <br /><br />ความเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจ ในกระบวนการหมุ<wbr></wbr>นวนของระบบเศรษฐกิจกับ " สินค้า " ในสังคมในสังคมไทยตั้งแต่ช่<wbr></wbr>วงทศวรรษ 2530 เป็นต้นมา จะเห็นได้ว่ามีความเปลี่<wbr></wbr>ยนแปลงของ "โฆษณา" ลึกซึ้งมากขึ้น จากเดิมที่ได้มีการนำเสนอ และใช้ภาพแทนของตัวละคร เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ หรือคุณสมบัติของสินค้า และบริการ เพื่อเป็นการโน้มน้าว อันนำไปสู่การตัดสินใจเลือกซื้อ หรือบริโภคเท่านั้น ต่อมาโฆษณาจำนวนมากค่อยๆ เริ่มหยิบใส่เรื่องราว การใช้ชีวิต หรือเป้าหมายของชีวิตที่เปลี่<wbr></wbr>ยนแปลงไป ทั้งยังมีความหลากหลายเพิ่<wbr></wbr>มมากยิ่งขึ้น  โดยเป็นการนำเสนอในรูปแบบ Life style ของเหล่าชนชั้นกลางใหม่ที่เติ<wbr></wbr>บโตเป็นปึกแผ่นในช่วงหลังปี 2520 เป็นต้นมา<br /><br />การโฆษณาที่เปลี่ยนแปลงมาได้<wbr></wbr>ทำหน้าที่ที่สำคัญใน "การใส่ความหมายใหม่ของชีวิต"  ซึ่งปรากฏอยู่ในสามลักษณะใหญ่ๆ  ลักษณะแรก ได้แก่ ความหมายใหม่ของชีวิตเกี่ยวกั<wbr></wbr>บการเพิ่มศักยภาพ "ความรวดเร็วในการทำงานเพื่อจั<wbr></wbr>ดการความวุ่นวายในชีวิต’   ซึ่งสะท้อนภาพแทนความรู้สึกถึ<wbr></wbr>งความเป็นจริงในชีวิต หรือสะท้อนสิ่งที่ชนชั้<wbr></wbr>นกลางจำเป็นต้องเผชิญอย่างหลี<wbr></wbr>กเลี่ยงไม่ได้ในแทบทุกวัน นั่นก็คือ การดำเนินชีวิตอยู่<wbr></wbr>ในสภาวะความเร่งรีบในการดำเนิ<wbr></wbr>นชีวิตเกือบทุกส่วน ทำให้พวกเขามองเห็นว่า ‘ความรวดเร็ว’ กลายเป็นอีกสิ่งภายในตัวสินค้า หรือบริการที่พึ่งจะมีไปโดยปริ<wbr></wbr>ยาย<br /><br />แม้ว่าผลิตภัณฑ์นั้น จะมิได้มีคุณสมบัติที่เชื่<wbr></wbr>อมโยงกับความรวดเร็วก็ตาม แต่กลวิธีในการนำเสนอพยายามที่<wbr></wbr>จะตอกย้ำว่าสามารถใช้งาน และบริโภคได้ โดยใช้ระยะเวลาสั้นๆ หรือภายในระหว่างที่พวกเขา กำลังกระทำสิ่งอื่นอยู่พร้อมกั<wbr></wbr>นไปด้วย เช่น ขณะขับรถไปทำงาน นั่งรถไฟฟ้า หรือ เดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ด้วยยานพาหนะ เพื่อเป็นการหย่อนเวลา และใช้เวลาให้คุ้มค่าที่สุด เป็นต้น เพื่อมิให้กิจกรรมที่ทำอยู่ หรือสิ่งที่ต้องทำในตารางถั<wbr></wbr>ดไปได้รับผลกระทบ เพราะพวกเขามีเวลาที่จำกัดอย่<wbr></wbr>างมากในการทำสิ่งต่างๆ ในแต่ละวัน<br /><br />ลักษณะที่สอง ‘ชีวิต ความเสี่ยง และการจัดการความเสี่ยง’ โฆษณา พยายามที่จะเน้นให้เห็นถึ<wbr></wbr>งความจำเป็นต้องเผชิญกับความผั<wbr></wbr>นผวนในชีวิต อย่างที่พวกเขาไม่เคยคาดคิดมาก่<wbr></wbr>อน และกระตุ้นให้ผู้คนในสังคมเริ่<wbr></wbr>มตระหนักถึงความไม่แน่นอนในชีวิ<wbr></wbr>ต ซึ่งจะนำภาพ และสารที่เสนอตามมา ได้แก่ความจำเป็นที่จะต้องหาที่<wbr></wbr>พึ่ง ด้านแรกคือ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในชีวิ<wbr></wbr>ตการทำงาน ความรู้สึก และการใช้ชีวิตประจำวัน ด้านที่สองคือ เพื่อหาทางออกให้กับชีวิตที่<wbr></wbr>จำเป็นต้องเผชิญกับความเสี่ยง จากทั้งการทำงาน และทำกิจกรรมอื่นๆ และจะนำมาซึ่งส่วนสรุปท้ายสุด ได้แก่ การวิธีการป้องกันความเสี่ยงที่<wbr></wbr>จะเกิดขึ้น หรือหลีกเลี่ยงที่จะทำให้<wbr></wbr>พวกเขาไม่ต้องเผชิญกับความเสี่<wbr></wbr>ยงเหล่านั้นโดยตรง รวมไปถึงการวางแผน เพื่อทำให้ความเสี่ยงที่จะต้<wbr></wbr>องเผชิญนั้นลดความรุนแรงลง<br /><br />ดังจะเห็นได้ว่าการที่ชนชั้<wbr></wbr>นกลางจะคำนึงถึงชีวิตของตนเอง หรือครอบครัวมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสุขภาพ โรคภัยไข้เจ็บ และอุบัติเหตุ ซึ่งวิธีการนำเสนอในโฆษณาที่<wbr></wbr>ปรากฎพบว่า จำนวนมากพยายามที่จะใส่<wbr></wbr>ภาพความเสี่ยงในรูปแบบของเรื่<wbr></wbr>องราวให้เสมือนจริง เพื่อสร้างความโน้มน้าวใจ อันนำไปสู่ความรู้สึกพึ่งระวัง เช่น เน้นย้ำกรรมวิธีการผลิต ความเป็นธรรมชาติ มากกว่าที่จะพูดถึงคุณสมบัติ<wbr></wbr>ของสินค้าเพียงอย่างเดียว<br /><br />ลักษณะที่สามคือ ‘ความสุข และเป้าหมายของชีวิต’ ผู้คนจำนวนมากเริ่มที่จะตระหนั<wbr></wbr>กถึงชีวิตของตนเองในหลากหลายแง่<wbr></wbr>มุม จากเดิมที่มองอนาคตอันไกลเป็<wbr></wbr>นหลัก กลับหันมามองปัจจุบัน และสิ่งที่ทำอยู่ ณ ขณะนั้น บางกลุ่มก็เริ่มโหยหาความสงบสุข บางคนเริ่มต้องการในสิ่งที่<wbr></wbr>เขาไม่เคยต้องการ และบางคนเรียกร้องเพื่อที่จะได้<wbr></wbr>รับการถูกยอมรับในสังคม หรือการมีหน้าตาทางสังคม เป็นต้น<br /><br />อาจจะแบ่งการสร้างภาพ " ความสุขและเป้าหมายในชีวิต " ออกได้เป็นสองแบบ แบบแรก เป็นการให้ภาพของความปรารถนา ความพึงพอใจ ซึ่งผ่านการนำเสนอภาพของ ‘สิ่งที่สามารถตอบสนองความต้<wbr></wbr>องการในชีวิต หรือวิถีชีวิตของชนชั้นกลางใหม่<wbr></wbr>’  เช่น การนำเสนอสิ่งที่ครอบครองแล้วสิ<wbr></wbr>่งนี้จะมีส่วนช่วยในการสร้<wbr></wbr>างความมั่นใจ และ/หรือบริโภคแล้วก็จะมี<wbr></wbr>ความหมายของความเป็นหนุ่มสาวยุ<wbr></wbr>คสมัยใหม่ เป็นต้น<br /><br />ส่วนที่สอง คือ ‘การใส่ภาพความสุข เป้าหมายของชีวิต หรือจุดมุ่งหมายที่ผู้คนในสั<wbr></wbr>งคมต้องการ’ ซึ่งจะประกอบกันในสองภาพ  ภาพแรกจะเป็<wbr></wbr>นการนำเสนอภาพของความอบอุ่<wbr></wbr>นภายในบ้าน หรือครอบครัวที่อยู่กันพร้อมหน้<wbr></wbr>า เช่น  การย้ำว่าแม่มีเวลาอยู่กับลูก มีเวลาช่วยกันทำอาหาร หรือความสุขของการกินข้าวที่บ้<wbr></wbr>าน เป็นต้น ซึ่งการเน้นย้ำผ่านโฆษณาเหล่านี<wbr></wbr>้ช่วยชี้ ‘ภาพความปรารถนาของผู้คนในสั<wbr></wbr>งคมที่จำเป็นจะต้องใช้ชีวิตเร่<wbr></wbr>งรีบ’ มีความวุ่นวาย ทำงาน และมีกิจกรรมที่ไม่สามารถมี<wbr></wbr>โอกาสในการใช้เวลาอยู่กั<wbr></wbr>บครอบครัว หรือคนที่ตนรัก<br /><br />อีกภาพหนึ่งก็เป็นภาพความคาดหวั<wbr></wbr>ง และความปรารถนาที่จะให้มีอยู่<wbr></wbr>ในอนาคตเช่นกัน แต่เป็นการแฝงนั<wbr></wbr>ยยะทางความหมายของเป้าหมายชีวิ<wbr></wbr>ตที่พวกเขาต้องการให้เกิดขึ้<wbr></wbr>นจริง เช่น การมีบ้านของในขณะที่อยู่ในวั<wbr></wbr>ยทำงาน หลีกหนีความวุ่นวาย และก้าวไปสู่ความอบอุ่น และความสงบ เพื่อใช้ชีวิตทำงานให้มีความสุ<wbr></wbr>ขสมบูรณ์มากขึ้น หรือความต้องการที่จะร่ำรวยอย่<wbr></wbr>างรวดเร็ว เพื่อหลีกหนีใช้ชีวิตอันวุ่<wbr></wbr>นวายที่อยู่กับการทำงาน และกิจกรรมเดิมๆ<br /><br />การใส่ความหมายใหม่ของชีวิต' ที่ถูกนำเสนอผ่านโฆษณาตั้งแต่ช่<wbr></wbr>วงปลายปี 2530 เรื่อยมาจนหลังปี 2540 ได้ปรากฏขึ้น และมีส่วนสัมพันธ์อยู่กั<wbr></wbr>บความเปลี่ยนแปลงในสังคมเศรษฐกิ<wbr></wbr>จหลายด้านด้วยกัน<br /><br />ด้านแรก ได้แก่ การขยายตัวของชนชั้นกลาง เนื่องจากชนชั้นกลางเป็นกลุ่<wbr></wbr>มคนที่ใช้ความสามารถ และทักษะส่วนตัวในการประกอบอาชี<wbr></wbr>พ ซึ่งได้ทำให้พวกเขาสร้<wbr></wbr>างระบบครอบครัวเดี่ยวขึ้นมา โดยเป็นระบบหลักในสังคม  ดังนั้น ความรู้สึกถึงความเสี่ยง และการแบกรับความเสี่ยงที่จะเกิ<wbr></wbr>ด หรืออาจจะเกิดขึ้น จึงกลายเป็นความรับผิ<wbr></wbr>ดชอบของเขาเพียงลำพัง หรืออาจจะนับรวมคู่ชีวิตไว้อี<wbr></wbr>กหนึ่งคน   พวกเขาไม่สามารถพึ่งพิงญาติพี่<wbr></wbr>น้องได้อย่างในอดีต  หากดูจากการโฆษณา ก็อาจจะรู้สึก และสัมผัสได้ว่าความรู้สึ<wbr></wbr>กของพวกเขาในแต่ละวันเจือปนไปด้<wbr></wbr>วยความหวาดกลัว ความรู้สึกไม่มั่นคง ขณะเดียวกัน ความรู้สึกปรารถนาไปสู่จุดสู<wbr></wbr>งกว่า หรือปรารถนาที่จะไปสู่ความสำเร็<wbr></wbr>จ และเป้าหมายของชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งชนชั้นกลางนั้นก็ได้<wbr></wbr>พยายามที่จะก่อรู<wbr></wbr>ปแบบแผนของความสุข และความหมายให้กับชีวิ<wbr></wbr>ตของพวกเขาในลักษณะที่เป็น "เสรี" จากพันธะอื่นๆ ด้วย<br /><br />ด้านที่สอง คือความเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์<wbr></wbr>ทางสังคมของ สังคมเศรษฐกิจ และสังคมการเมืองไทย ในช่วงทศวรรษ 2530 เป็นต้นมา อยู่ในสภาวะของการเผชิญกั<wbr></wbr>บความไม่มั่นคง และความปั่นป่วน โดยจะเห็นได้จากความเปลี่<wbr></wbr>ยนแปลงทางการเมืองอันเกิ<wbr></wbr>ดจากการรัฐประหารในปี พ.ศ. 2534 และการต่อต้านรัฐบาลพลเอกสุจิ<wbr></wbr>นดา คราประยูร ในปี พ.ศ. 2535 และที่สำคัญ ได้แก่ การเกิดวิกฤติทางเศรษฐกิจต้<wbr></wbr>มยำกุ้งในปี พ.ศ. 2540<br /><br />แม้ว่ายังไม่มีคนศึกษาในเรื่<wbr></wbr>องผลกระทบทางด้านจิตใจของผู้<wbr></wbr>คนจากการต้องเผชิญหน้า กับความไม่มั่นคง และความปั่นป่วนที่ทยอยเกิดขึ้น แต่น่าจะส่งผลให้แก่ความตระหนั<wbr></wbr>กถึงการสร้างความมั่นคงให้แก่ชี<wbr></wbr>วิตและการดำเนินชีวิตไม่มากก็น้<wbr></wbr>อย การหันเหความสนใจไปสู่<wbr></wbr>ความเอาใจใส่สุขภาพส่วนตัวก็เป็<wbr></wbr>นไปเพื่อ ที่พวกเขาเหล่านั้นจะมีความพร้<wbr></wbr>อมที่จะรับมือ หรือเผชิญหน้ากับสิ่งที่<wbr></wbr>คาดหมายไม่ได้ อย่างเช่น ในประเด็นเรื่องสุขภาพ และการสร้างหลักประกันให้แก่ชี<wbr></wbr>วิตด้วยการประกันชีวิต<br /><br /><strong>ท้ายที่สุดแล้วความหมายใหม่<wbr></wbr>ของชีวิตที่ปรากฏในโฆษณาจึงไม่<wbr></wbr>น่าใช่เรื่องของการคิดขึ้<wbr></wbr>นมาเองของนักโฆษณา หากแต่คงคิดขึ้นจากประสบการณ์ร่<wbr></wbr>วมกันของคนในส้งคม ว่าคนส่วนใหญ่คิด และรู้สึกอย่างไร รวมถึงทิศทางอารมณ์ หรือความต้องการของสังคมเป็<wbr></wbr>นไปเช่นไร นักโฆษณาย่อมพินิจ และกลั่นกรอง เพื่อหยิบเอาความรู้สึกร่วมกั<wbr></wbr>นของผู้คนในสังคมเหล่านั้นมาเป็<wbr></wbr>นประเด็น ในการสร้างแรงจูงใจผู้คนผ่<wbr></wbr>านการโฆษณา </strong></div> <div style="margin: 10px;"> <br /></div> <div style="margin: 10px;"> <strong>เกี่ยวกับผู้เขียน: </strong>ปภาพรรณ พลีกร กำลังศึกษาในระดับปริญญาตรี ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่</div> </div>

ความหมายใหม่ของชีวิตในโฆษณา (ทศวรรษ2530-2540)

ความหมายใหม่ของชีวิตในโฆษณา (ทศวรรษ2530-2540) Posted: 26 May 2016 06:57 AM PDT  (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เวบไซท์ประชาไท)     ในโลกที่กร...

อ่านเพิ่มเติม »

สรุปการบรรยายของสลาวอย ชิเชค: เก็บตกงานเสวนารวมพลคนเลี้ยวซ้ายในสหรัฐอเมริกา

<div style="font-family: arial, sans-serif; font-size: 13px; line-height: 18.2px; margin-bottom: 3px; margin-top: 1em;"> <b>สรุปการบรรยายของสลาวอย ชิเชค: เก็บตกงานเสวนารวมพลคนเลี้ยวซ้<wbr></wbr>ายในสหรัฐอเมริกา</b></div> <div style="color: #555555; font-family: Georgia, Helvetica, Arial, sans-serif; font-size: 13px; line-height: 18.2px; margin-bottom: 3px; margin-top: 9px;"> Posted: 26 May 2016 08:21 AM PDT</div> <div style="font-family: Georgia, Helvetica, Arial, sans-serif; font-size: 13px; line-height: 18.2px; margin: 0px;"> <div style="font-family: arial, sans-serif; text-align: center;"> <img alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/proxy/AVvXsEi-GWTO4e9cRELPDfzbsICHq3v3xHiwuGNqzPip9zugkH7OIBVREbi24hDeRYJNOhgPityWNFsaOAe7zfzvWDZmFRNFJYxcyjpsjGv1N52_h_ORdcv8ZOdjXuMdC5LDU90tqooyDB7G6uipwAlArI-CQKgR-I_v03RcNyc2wZv2gjEK=s0-d-e1-ft" style="border: 0px; min-height: 278px; width: 500px;" /><br /><span style="color: navy;">สลายวอย ชิเชคกล่าวบรรยายปิดงาน Left Forum ณ วิทยาลัย John Jay เมื่อค่ำวันที่ 22 พฤษภาคม 2559<br />ที่มาภาพ: เว็บไซต์ Russian Today: <a data-saferedirecturl="https://www.google.com/url?hl=en&q=https://www.rt.com/usa/344148-zizek-left-forum-refugees/&source=gmail&ust=1464440856232000&usg=AFQjCNH3wnKrOWOW4TBTGVwOw3R2MMG6Lg" href="https://www.rt.com/usa/344148-zizek-left-forum-refugees/" style="color: #1155cc; text-decoration: none;" target="_blank">https://www.rt.com/usa/344148-<wbr></wbr>zizek-left-forum-refugees/</a></span></div> <div style="font-family: arial, sans-serif;"> “แกมันไร้สาระสิ้นดี! (You are full of shit!)” เสียงตะโกนดังขึ้นจากฟากฝั่<wbr></wbr>งของคนดู ทันทีที่สลาวอย ชิเชค นักปรัชญามาร์กซิสต์ชาวสโลวีเนี<wbr></wbr>ยนเดินขึ้นเวทีและกำลังจะกล่<wbr></wbr>าวคำทักทายมิตรสหายฝ่ายซ้ายนั<wbr></wbr>บร้อยตรงหน้าเขา ชิเชคอ้ำอึ้งสักพัก มองไปยังทิศต้นกำเนิดเสียง พร้อมเตือนด้วยน้ำเสียงทีเล่นที<wbr></wbr>จริงว่า ถ้าคนดูอยากจะมาแนวนี้ สำเหนียกไว้หน่อยว่<wbr></wbr>าเขามาจากประเทศที่เป็นเลิ<wbr></wbr>ศในการพ่นคำสบถใส่กัน เสียงหัวเราะดังขึ้น ชิเชคเริ่มอ่านสิ่งที่เขาเตรี<wbr></wbr>ยมมาพูดในวันนี้</div> <div style="font-family: arial, sans-serif;"> สลาวอย ชิเชคได้รับเชิญให้เป็นผู้กล่<wbr></wbr>าวปิดงานเสวนาใหญ่ที่มีชื่อว่า Left Forum ซึ่งได้จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 20 – 22 พฤษภาคม 2559 ณ วิทยาลัย John Jay มลรัฐนิวยอร์ค ประเทศสหรัฐอเมริกา  Left Forum คืองานประจำปีที่เปิดโอกาสให้นั<wbr></wbr>กวิชาการและนักเคลื่อนไหวที่<wbr></wbr>สนใจในความคิดทางการเมืองปีกซ้<wbr></wbr>ายจัดกลุ่มเสวนาย่อย เพื่อให้ความรู้ แลกเปลี่ยนความเห็น และกำหนดทิศทางการต่อสู้กับทุ<wbr></wbr>นนิยม รัฐ และอำนาจเผด็จการนานารูปแบบ ในปีนี้ชิเชคได้รับเกียรติเป็<wbr></wbr>นผู้กล่าวปิดงานภายใต้หัวข้อ Rage, Rebellion, Organizing New Power: A Hegelian Triad อย่างไรก็ดี ชิเชคดูจะไม่ได้เป็นที่ต้อนรั<wbr></wbr>บจากผู้ชมกลุ่มหนึ่ง โดยก่อนงานเริ่ม มีการแจกใบปลิวต่อต้านเขา (รูปที่หนึ่ง) ชิเชคถูกโจมตีว่าเป็นฟาสซิสต์<wbr></wbr>เหยียดชาติพันธุ์ผู้รังเกียจผู้<wbr></wbr>หญิงและผู้ลี้ภัย ดูเหมือนว่า ฝ่ายซ้ายอเมริกันส่วนหนึ่งจะไม่<wbr></wbr>ขอทนกับคำพูดที่ไม่ political correct ของชิเชคอีกต่อไป “ทำไมเขาถึงยังได้รับเชิ<wbr></wbr>ญมางานของฝ่ายซ้าย?”</div> <div style="font-family: arial, sans-serif;"> บทความชิ้นนี้สรุปประเด็นที่ชิ<wbr></wbr>เชคนำเสนอท่ามกลางเสียงโห่ร้<wbr></wbr>องเป็นระยะๆในวันที่ 22 พฤษภาคม 2559 สำหรับคนที่ติดตามผลงานของชิ<wbr></wbr>เชคมาโดยตลอดอาจมองว่าชิเชคไม่<wbr></wbr>ได้พูดอะไรใหม่ในงานนี้ อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนเห็นว่า การพูดครั้งนี้ถือเป็นการสรุ<wbr></wbr>ปรวบยอดความคิดที่ชิเชคเขียนหรื<wbr></wbr>อพูดมาเป็นเวลาหลายปี และน่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่<wbr></wbr>เพิ่งมีความสนใจต่อมุ<wbr></wbr>มมองทางการเมืองของเขา ในขณะเดียวกัน ผู้เขียนก็หวังให้ผู้อ่านร่วมกั<wbr></wbr>นค้นหาคำตอบว่าอะไรคือต้นเหตุ<wbr></wbr>ของความตึงเครียดและความเป็นปฏิ<wbr></wbr>ปักษ์กันในหมู่คนที่เรียกตั<wbr></wbr>วเองว่าเป็นฝ่ายซ้ายหรือมาร์กซิ<wbr></wbr>สต์ ทั้งๆที่ต่างก็มีเป้<wbr></wbr>าหมายในการเปลี่ยนแปลงสั<wbr></wbr>งคมและปลดแอกมนุษย์สู่เสรีภาพ</div> <div style="font-family: arial, sans-serif; text-align: center;"> <img alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/proxy/AVvXsEgYAdLw9ny5lu07tC7nLhKGKmIJN8JfAaXhZRrdDJJUhzyPFoHmjU3ptBl7Gl1Bs5K7quUdKGEX0BTYsNg-cNR3PVhjV2FQgyq4h-BkxZhRO1lT4QJrQDryR7q7Tbbp6GDKVn_lx4rCjZU_6SxeEp1t_n1CzFigPSBlxLVlfYATsoiY=s0-d-e1-ft" style="border: 0px; min-height: 500px; width: 375px;" /><br /><span style="color: navy;">ใบปลิวต่อต้านชิเชคถูกแจกก่อนชิ<wbr></wbr>เชคขึ้นบรรยาย</span><br /> </div> <h4> <strong>1. โทสะ การลุกฮือ และการจัดตั้ง: ขบวนการเคลื่อนไหวต้องมี<wbr></wbr>แผนการสร้างสังคมใหม่หลังการโค่<wbr></wbr>นล้มระบอบเก่า</strong><a href="https://mail.google.com/mail/u/0/?ui=2&ik=7d0ad06366&view=lg&msg=154ef17c51cd5f56#m_-3629314718292528780__ftn1" name="m_-3629314718292528780__ftnref1" style="color: #1155cc; font-family: arial, sans-serif; text-decoration: none;" title=""><strong>[</strong>1]</a></h4> <div style="font-family: arial, sans-serif;"> ชิเชคเริ่มการบรรยายด้<wbr></wbr>วยการพาดพิงถึงคำสำคัญหลั<wbr></wbr>กๆตามหัวข้อของงาน สำหรับเขาแล้ว บ่อยครั้งที่การต่อสู้ทางการเมื<wbr></wbr>องมักมีจุดเริ่มต้<wbr></wbr>นมาจากการระเบิดขึ้นของแรงโทสะ (Rage) ในหมู่คนที่โดนกดขี่ ถึงกระนั้น ความคับแค้นกลับถู<wbr></wbr>กแสดงออกมาในรูปของการจลาจลที่<wbr></wbr>มุ่งทำลายล้างทรัพย์สิ<wbr></wbr>นสาธารณะโดยปราศจากเป้<wbr></wbr>าหมายทางการเมืองใดใด ชิเชคมองว่าการระบายความโกรธแค้<wbr></wbr>นที่ไร้ระเบียบเช่นนี้ด้านหนึ่<wbr></wbr>งอาจเป็นจุดเริ่มต้นของบางสิ่<wbr></wbr>งบางอย่างที่ยิ่งใหญ่ แต่อีกด้านหนึ่งมันก็สะท้<wbr></wbr>อนความล้มเหลวของพลังต่อต้<wbr></wbr>านและความสำเร็จของระบอบที่<wbr></wbr>สามารถกดทับและจำกัดอำนาจท้<wbr></wbr>าทายให้เป็นแค่เพียงอารมณ์คั<wbr></wbr>บแค้นที่ปะทุออกมาอย่างไร้วิสั<wbr></wbr>ยทัศน์ การลุกฮือ (Rebellion) คือรูปแบบการต่อต้านในลำดับต่<wbr></wbr>อมา การลุกฮือเกิดขึ้นจากการเคลื่<wbr></wbr>อนไหวกระทำการทางเมืองร่วมกัน โดยผู้เข้าร่วมต่างรับรู้โดยทั่<wbr></wbr>วกันแล้วว่า ศัตรูของพวกเขาคืออะไร และมีเป้าหมายในการทำลายศัตรู<wbr></wbr>ทางการเมืองนั้นๆ การลุกฮืออาจเป็นจุดมุ่งหมายสู<wbr></wbr>งสุดที่นักเคลื่อนไหวทั่วไปต้<wbr></wbr>องการบรรลุ แต่ชิเชคมองว่ายังไม่เพียงพอ</div> <div style="font-family: arial, sans-serif;"> ทุกวันนี้ เรามีพลังการลุกฮืออยู่เต็<wbr></wbr>มไปหมด แต่สิ่งที่ขาดก็คือ ระเบียบและแผนการสร้างสังคมใหม่<wbr></wbr>หลังการโค่นล้มระบอบเก่า ชิเชคยกตัวอย่างภาพยนตร์ฮอลลีวู<wbr></wbr>้ดว่าด้วยการปฏิวัติเรื่อง V for Vendetta<a href="https://mail.google.com/mail/u/0/?ui=2&ik=7d0ad06366&view=lg&msg=154ef17c51cd5f56#m_-3629314718292528780__ftn2" name="m_-3629314718292528780__ftnref2" style="color: #1155cc; text-decoration: none;" title="">[2]</a> เพื่อให้ผู้ฟังเห็นภาพมากขึ้น เขาเล่าว่า แน่นอน เราต่างรู้สึกฮึกเหิมและประทั<wbr></wbr>บใจเมื่อได้เห็นฝูงชนชาวอั<wbr></wbr>งกฤษก้าวพ้นความกลัว สวมใส่หน้ากากกาย ฟอว์ก และเดินออกมาตามท้องถนน เพื่อมุ่งไปยังรัฐสภา พวกเขากำลังจะยึดอำนาจรัฐ แต่แล้วหนังปฏิวัติเรื่องนี้ก็<wbr></wbr>จบลง เราต่างถูกทิ้งไว้กับคำถามที่ว่<wbr></wbr>า “เกิดอะไรขึ้นในเช้าวันถัดมา?” เมื่อเราควบคุมกลไกของรัฐได้แล้<wbr></wbr>ว เราจะเปลี่ยนแปลงมันหรือไม่ กลุ่มผู้ปกครองใหม่จะรับมือกั<wbr></wbr>บแรงกดดันของมวลชนที่สนับสนุ<wbr></wbr>นตนอย่างไร การที่ขบวนเคลื่อนไหวแปรเปลี่<wbr></wbr>ยนเป็นพรรคการเมืองจะนำไปสู่<wbr></wbr>การประนีประนอมและการต่<wbr></wbr>อรองมากน้อยเพียงใด นักปฏิวัติจำเป็นต้องขบคิ<wbr></wbr>ดคำถามเหล่านี้ พูดง่ายๆก็คือ V for Vendetta จำเป็นต้องมีภาคสอง จึงจะได้ชื่อว่าเป็นหนังว่าด้<wbr></wbr>วยการปฏิวัติที่แท้จริง<br /> </div> <h4> <strong>2. วิกฤตทุนนิยมกับทางแก้แบบผิ<wbr></wbr>ดๆ</strong></h4> <div style="font-family: arial, sans-serif;"> ชิเชควิพากษ์ระบอบทุนนิยมในปั<wbr></wbr>จจุบันว่าก่อให้เกิดวิ<wbr></wbr>กฤตหลายๆด้าน อันได้แก่ วิกฤตการสั่งสมความรู้และวั<wbr></wbr>ฒนธรรม ยกตัวอย่างเช่น การที่เราต้องจ่าย “ค่าเช่า (Rent)” ต่อบรรษัทข้ามชาติอย่<wbr></wbr>างไมโครซอฟเพื่อสร้างต้นทุนให้<wbr></wbr>แก่ตนเอง วิกฤตด้านสิ่งแวดล้อม วิกฤตด้านพันธุกรรมชีวภาพ และวิกฤตเกี่ยวกับมนุษยชาติอั<wbr></wbr>นเป็นผลมาจากการขูดรีดและกีดกั<wbr></wbr>นรูปแบบใหม่ๆ อย่างไรก็ตาม ปัญหาไม่ได้อยู่ตรงที่ตัววิ<wbr></wbr>กฤตเหล่านี้เพียงเท่านั้น หากแต่เป็นทางแก้ต่างๆที่เรามี<wbr></wbr>อยู่ก็เป็นส่วนหนึ่งของปัญหาด้<wbr></wbr>วย กล่าวคือ วิกฤตเหล่านี้ถูกมองว่าจะได้รั<wbr></wbr>บการแก้ไขผ่<wbr></wbr>านกระบวนการทางกฎหมายลิขสิทธิ์ แนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน การถกเถียงปัญหาผ่านกรอบจริ<wbr></wbr>ยธรรม และการช่วยเหลือทางมนุษยธรรม เป็นต้น ทางแก้เหล่านี้ลดทอนปั<wbr></wbr>ญหาจนทำให้เรามองไม่เห็นความเป็<wbr></wbr>นปฏิปักษ์ทางชนชั้นที่แฝงฝั<wbr></wbr>งในวิกฤตดังกล่าว สำหรับชิเชคแล้ว เขาไม่อยากจะอยู่ในโลกที่ มหาเศรษฐีอย่างบิล เกตคือนักมนุษยธรรมที่ใจบุญที่<wbr></wbr>สุด หรือ เจ้าพ่อวงการสื่ออย่างรูเพิร์ท เมอด็อคคือ นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่น่านั<wbr></wbr>บถือ</div> <div style="font-family: arial, sans-serif;"> <br /></div> <h4> <strong>3. ปัญหาผู้ลี้ภัยไม่สามารถแก้<wbr></wbr>ได้ด้วยกรอบการมองแบบพหุนิ<wbr></wbr>ยมทางวัฒนธรรม</strong></h4> <div style="font-family: arial, sans-serif;"> “พวกผู้ลี้ภัยเป็นผู้ก่อการร้าย อาชญากร และนักข่มขืน” เสียงโห่ดังขึ้นเมื่อชิเชคกล่<wbr></wbr>าวประโยคดังกล่าว ชิเชคตั้งใจยั่วยุผู้ชมของเขาด้<wbr></wbr>วยคำพูดของฝ่ายขวาในยุโรปที่คั<wbr></wbr>ดค้านนโยบายเปิดรับผู้ลี้ภัย ชิเชคออกตัวว่าเขาไม่ได้เห็นด้<wbr></wbr>วยกับข้อความเหมารวมเหยียดชาติ<wbr></wbr>พันธุ์ข้างต้น แต่ในขณะเดียวกันเขาก็ไม่เห็นด้<wbr></wbr>วยที่ฝ่ายซ้ายบางส่วนเลือกที่<wbr></wbr>จะไม่ยอมรับความจริงที่ว่ามีผู้<wbr></wbr>ลี้ภัยบางส่<wbr></wbr>วนประสบความยากจนและกลายเป็<wbr></wbr>นอาชญากรจริงๆ “ทำไมเราต้องทำกับพวกเขาเหมื<wbr></wbr>อนเด็กด้วย?” เขาตั้งคำถาม ชิเชคอธิบายว่ามุมมองที่เน้<wbr></wbr>นปกป้องผู้ลี้ภัยและไม่ยอมรับปั<wbr></wbr>ญหาทางสังคมที่พวกเขาก่อขึ้นต่<wbr></wbr>างหากที่อันตรายและเหยียดชาติพั<wbr></wbr>นธุ์ เขายืนกรานว่า ที่ผ่านมา ฝ่ายซ้ายทราบถึงปัญหาดังกล่<wbr></wbr>าวเพียงแต่กลัวว่าถ้าพู<wbr></wbr>ดออกมาแล้วจะไปเข้าทางพวกฝ่<wbr></wbr>ายขวา ถึงเวลาแล้วที่พวกฝ่ายซ้ายจะต้<wbr></wbr>องเลิกซ่อนปัญหาสังคมในหมู่ผู้<wbr></wbr>ลี้ภัยไว้ใต้พรม และเริ่มถกเถียงกันในที่สาธารณะ</div> <div style="font-family: arial, sans-serif;"> ในส่วนของวาทกรรมและอุดมการณ์<wbr></wbr>เหยียดชาติพันธุ์ซึ่งฝ่<wbr></wbr>ายขวาในยุโรปปลุกระดมเพื่อต่อต้<wbr></wbr>านผู้ลี้ภัยนั้น ชิเชคชวนให้เราคิดว่า แทนที่เราจะคอยแก้ต่างอยู่<wbr></wbr>เสมอว่า ผู้ลี้ภัยไม่ใช่ผู้ก่อการร้าย ประเด็นที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือ ทัศนคติเช่นนี้สะท้อนตั<wbr></wbr>วตนและการดำรงอยู่ของเรา (ชาวยุโรป/ตะวันตก) อย่างไร เขาได้ยกกรณีระบอบนาซีเยอรมั<wbr></wbr>นเป็นตัวอย่าง ดังที่ทราบกันว่า ระบอบนาซีได้ผลิตซ้ำวาทกรรมเกลี<wbr></wbr>ยดชังคนยิว โดยมีคำอธิบายต่างๆที่ฉายภาพให้<wbr></wbr>คนยิวเป็นภัยต่อสังคมเยอรมนี หน้าที่ของเราไม่ใช่การมาจัดดี<wbr></wbr>เบตถกกันเรื่องคนยิวเป็นภัยสั<wbr></wbr>งคมจริงหรือไม่ แต่เป็นการย้อนกลับมาตั้<wbr></wbr>งคำถามกับสังคมของเราเองว่<wbr></wbr>าทำไมเราจึงหมกมุ่นกับการสร้<wbr></wbr>างอัตลักษณ์ความเป็นอื่นเช่นนี้</div> <div style="font-family: arial, sans-serif;"> สุดท้ายแล้ว ชิเชคไม่เชื่อว่า ปัญหาผู้ลี้ภัยจะสามารถแก้ได้ผ่<wbr></wbr>านกรอบเรื่องพหุนิยมทางวัฒนธรรม เขาไม่เห็นด้วยที่ฝ่ายซ้ายส่<wbr></wbr>วนใหญ่พยายามทำความเข้าอกเข้<wbr></wbr>าใจและกระชับความสัมพันธ์กับกลุ<wbr></wbr>่มผู้ลี้ภัยผ่านมุมมองแบบวั<wbr></wbr>ฒนธรรม เขาบอกอย่างตรงไปตรงมาว่า สิ่งเดียวที่เราและพวกเขามีร่<wbr></wbr>วมกันคือ การต่อสู้ทางชนชั้น ประเด็นอื่นๆที่เหลือ ไม่ว่าจะเป็นอัตลักษณ์ วัฒนธรรม ประเพณีที่หลากหลายมิได้เป็นสิ่<wbr></wbr>งที่สวยงามน่าเรียนรู้และเกี่<wbr></wbr>ยวข้องกับภารกิจการต่อสู้<wbr></wbr>ทางการเมืองของเราแม้แต่น้อย<br /> </div> <h4> 4. กับดักหลุมพรางจุดยืนต้านค่<wbr></wbr>านิยมตะวันตก</h4> <div style="font-family: arial, sans-serif;"> สืบเนื่องจากหัวข้อข้างต้น ชิเชคมองว่าขณะนี้ฝ่ายซ้<wbr></wbr>ายในโลกตะวันตกกำลังเผชิญกั<wbr></wbr>บสภาวะรังเกียจตัวเอง กล่าวคือ พวกเขามองว่าปัญหาใดใดในโลกล้<wbr></wbr>วนเกิดขึ้นจากการล่าอาณานิ<wbr></wbr>คมและการกดขี่ของคนขาว พวกเขารู้สึกละอายใจและลังเลที่<wbr></wbr>จะยกเอาค่านิยมหรือหลักการที่มี<wbr></wbr>รากเหง้าตะวันตกมาวิพากษ์วิ<wbr></wbr>จารณ์ประเทศอื่นๆที่เหลือ ผลที่ตามมาก็คือ “กระแสต้านจุดยืนแบบยุโรปเป็นศู<wbr></wbr>นย์กลาง (anti-Eurocentric)” กลายเป็นที่นิยมไม่ใช่แค่ในหมู่<wbr></wbr>ฝ่ายซ้ายสำนึกผิดเท่านั้น แต่ยังถูกหยิบฉวยไปใช้ให้<wbr></wbr>ความชอบธรรมต่อระบอบที่ไม่เป็<wbr></wbr>นประชาธิปไตยหรือขบวนการคลั่<wbr></wbr>งศาสนาสุดโต่ง ยกตัวอย่างเช่น ประเทศที่เอาแต่อ้าง “ค่านิยมเอเชีย” แทนหลักการประชาธิปไตย น่าสนใจว่าการปกครองเช่นนี้เอื้<wbr></wbr>อต่อการเจริญเติบโตของทุนนิ<wbr></wbr>ยมได้ดีกว่าประชาธิปไตยตะวั<wbr></wbr>นตกเสียอีก อีกด้านหนึ่ง ชิเชคชวนให้เราคิดถึงกลุ่มก่<wbr></wbr>อการร้ายโบโกฮารามในไนจีเรีย กลุ่มคลั่งศาสนาอิสลามกลุ่มนี้<wbr></wbr>จับอาวุธต่อสู้เพื่อสถาปนาสั<wbr></wbr>งคมใหม่ที่ปิดกั้นสิทธิเสรี<wbr></wbr>ภาพของผู้หญิง ที่น่าสนใจก็คือ พวกเขามองการต่อสู้ของตัวเองว่<wbr></wbr>าเป็นการต่อต้านการล่าอาณานิ<wbr></wbr>คมตะวันตก ชิเชคถามว่าอะไรคือจุดยืนของฝ่<wbr></wbr>ายซ้ายสำนึกผิดที่เอาแต่ต่อต้<wbr></wbr>านค่านิยมตะวันตกกับกรณีเช่นนี้</div> <div style="font-family: arial, sans-serif;"> ชิเชคประกาศอย่างชัดเจนว่<wbr></wbr>าเขาไม่ “อิน” กับความเซ้นซิทีฟทางวั<wbr></wbr>ฒนธรรมในหมู่ฝ่ายซ้ายแม้แต่น้อย เขาไม่คิดว่าPolitical Correctness (PC) ที่มุ่งระแวดระวังต่อการใช้ศั<wbr></wbr>พท์แสงอันปลอดอคติทางชาติพันธุ์ เหยียดเพศและผิวจะเป็<wbr></wbr>นทางออกของปัญหา   ยกตัวอย่างเช่น การใช้คำว่า “Native American” แทนการเรียกคนอเมริกันพื้นเมื<wbr></wbr>องว่า “อินเดียน”  ทันทีที่เขาเอ่ยคำว่า “อินเดียน” ก็มีเสียงโห่ดังขึ้นในห้องประชุ<wbr></wbr>ม ชิเชคโต้แย้งกลับว่า “ทัศนคติแบบนี้แหละที่ผมรู้สึ<wbr></wbr>กว่ามีปัญหา” พร้อมให้คำอธิบายที่เขาเคยพู<wbr></wbr>ดมาหลายครั้งแล้วว่า เพื่อนอเมริกันอินเดี<wbr></wbr>ยนหลายๆคนของเขาเกลียดชื่อเรียก Native American พวกเขาไม่ได้คำนึงถึงความ pc หรือไม่ pc ตามกรอบของคนขาวผู้ปรารถนาดี พวกเขาอยากจะใช้ชื่อ “อินเดียน” ต่อไป เพราะอย่างน้อยมันก็เป็<wbr></wbr>นการตอกย้ำความโง่ของคนขาวอยู่<wbr></wbr>เสมอ (ที่ดันเข้าใจผิดว่ากลุ่มคนที่<wbr></wbr>อาศัยในทวีปอเมริกาคือคนอินเดี<wbr></wbr>ย) </div> <div style="font-family: arial, sans-serif;"> กล่าวโดยสรุป ดูเหมือนว่ามีหลายๆสิ่งที่ชิ<wbr></wbr>เชคพูดไม่เข้าหูนักเคลื่อนไหวฝ่<wbr></wbr>ายซ้ายอเมริกัน ในขณะที่ฝ่ายหลังยั<wbr></wbr>งมองขบวนการOccupy Wall street ในปี 2554 ด้วยสายตาที่ชื่นชม ชิเชคกลับถามหาการจัดตั้งขบวนที<wbr></wbr>่เป็นระบบระเบียบและวิสัยทัศน์<wbr></wbr>ใหม่ๆ ในขณะที่ฝ่ายซ้ายอเมริกันกำลั<wbr></wbr>งเคลื่อนไหวต่อต้านกระแสนิ<wbr></wbr>ยมนายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้ที่จะเป็นตัวแทนลงเลือกตั้<wbr></wbr>งประธานาธิบดีของพรรครีพับลิกัน ชิเชคกลับมองว่าทรัมป์เป็นแค่นั<wbr></wbr>กฉวยโอกาส และคนที่น่ากลัวกว่าทรัมป์คือ เท็ด ครูซ (ผู้ชิงตำแหน่งตัวแทนพรรคอีกคน) ในขณะที่ประเด็นเรื่<wbr></wbr>องการเคารพความแตกต่างทางวั<wbr></wbr>ฒนธรรมเป็นหัวใจสำคัญของนักกิ<wbr></wbr>จกรรมหลายๆคน ชิเชคกลับมองว่าสิ่งที่เรียกว่า “วัฒนธรรม” คืออุดมการณ์ที่แฝงฝังในชีวิ<wbr></wbr>ตประจำวัน และเป็นสิ่งที่<wbr></wbr>เราอยากจะนำเสนอเกี่ยวกับตั<wbr></wbr>วเราเท่านั้น บ่อยครั้งมันเป็นข้ออ้างในการช่<wbr></wbr>วยให้เราหลบหลีกหรือบิดเบื<wbr></wbr>อนความเป็นจริง  ด้านหนึ่ง เราอาจมองได้ว่า ชิเชคคือภาพสะท้อนของนักปรั<wbr></wbr>ชญาบนหอคอยงาช้างที่เอาแต่<wbr></wbr>ปรามาสนักเคลื่อนไหวว่ายังไม่มี<wbr></wbr>ความถอนรากถอนโคนมากพอ อีกด้านหนึ่ง บทวิพากษ์ของเขาก็อาจจะเป็นเหมื<wbr></wbr>อนยาขมที่ช่วยทำให้ฝ่ายซ้ายเสรี<wbr></wbr>นิยมก้าวข้ามข้อจำกัดของตัวเอง สุดท้ายแล้วพลวัติความคิ<wbr></wbr>ดทางการเมืองของฝ่ายซ้ายในปัจจุ<wbr></wbr>บันก็หนีไม่พ้นประเด็นเรื่<wbr></wbr>องแนวทางการต่อสู้เคลื่อนไหว การมองศัตรู การตั้งคำถามต่อทางแก้ไขปัญหาต่<wbr></wbr>างๆที่มีอยู่ในปัจจุบัน และความสำคัญของอัตลักษณ์วั<wbr></wbr>ฒนธรรมในความขัดแย้งทางชนชั้น  </div> <div style="font-family: arial, sans-serif;"> <br /></div> <h4> <strong>เชิงอรรถ</strong></h4> <div style="font-family: arial, sans-serif;"> <br /></div> <div style="font-family: arial, sans-serif;"> <br /></div> <div style="font-family: arial, sans-serif;"> <div> <a href="https://mail.google.com/mail/u/0/?ui=2&ik=7d0ad06366&view=lg&msg=154ef17c51cd5f56#m_-3629314718292528780__ftnref1" name="m_-3629314718292528780__ftn1" style="color: #1155cc; text-decoration: none;" title="">[1]</a> สำหรับผู้ที่สนใจและต้องการศึ<wbr></wbr>กษาในรายละเอียดเกี่ยวกับหัวข้<wbr></wbr>อดังกล่าว โปรดดู Slavoj Zizek, <em>Violence</em><em>: Six Sideways Reflections </em>(New York: Picador, 2008) และ สรวิศ ชัยนาม, <em>Slavoj Zizek </em>: <em>ความรุนแรงและการเมืองเพื่<wbr></wbr>อการปลดปล่อย</em> (กรุงเทพ : สยามปริทัศน์, 2558).</div> <div> <a href="https://mail.google.com/mail/u/0/?ui=2&ik=7d0ad06366&view=lg&msg=154ef17c51cd5f56#m_-3629314718292528780__ftnref2" name="m_-3629314718292528780__ftn2" style="color: #1155cc; text-decoration: none;" title="">[2]</a> V for Vendetta (2005) กำกับโดย James Mc Teigue และนำแสดงโดย Natalie Portman และ Hugo Weaving เป็นภาพยนตร์ที่ฉายภาพประเทศอั<wbr></wbr>งกฤษภายใต้ระบอบเผด็จการ และเล่าเรื่องราวกำเนิดและพั<wbr></wbr>ฒนาการการต่อสู้ของมวลชนเพื่<wbr></wbr>อโค่นล้มผู้ปกครอง ดู สรวิศ ชัยนาม, “V for Vendetta การปฏิวัติและความรุนแรง,” ใน <em>จากการปฏิวัติถึงโลกาภิวัตน์</em><em>:</em><em> ความรู้เบื้องต้นการเมืองโลกเชิ<wbr></wbr>งวิพากษ์ผ่านสื่อภาพยนตร์ </em>(กรุงเทพ: ศยาม, 2555).</div> </div> <div style="font-family: arial, sans-serif;"> <br /></div> </div>

สรุปการบรรยายของสลาวอย ชิเชค: เก็บตกงานเสวนารวมพลคนเลี้ยวซ้ายในสหรัฐอเมริกา

สรุปการบรรยายของสลาวอย ชิเชค: เก็บตกงานเสวนารวมพลคนเลี้ยวซ้ ายในสหรัฐอเมริกา Posted: 26 May 2016 08:21 AM PDT สลายวอย ชิเชคกล่าวบรรยาย...

อ่านเพิ่มเติม »