Parit Chiwarak
เรื่องเล่าจากเขาชนไก่
หลายคนอาจไม่รู้มาก่อนว่าผมเรียนหลักสูตรรักษาดินแดน (รด.) กับเขาด้วย
ที่ค่ายฝึกเขาชนไก่ ผมคือ นศท.พริษฐ์ ชิวารักษ์ หัวหน้าหมวด 4 กองร้อย 2 กองพันฝึกที่ 22 ผลัดที่ 4 หน้าที่ของผมคือควบคุมเพื่อนให้ทำตามคำสั่ง (ที่ถูกสั่งมาอีกทอดและอีกทอดหนึ่ง) พูดง่าย ๆ ก็คือเป็นหุ่นยนต์ที่ถูกหุ่นยนต์สั่งให้ไปควบคุมหุ่นยนต์อีกทีหนึ่ง และความเป็นหัวหน้าหมวดที่เขาขนไก่ทำให้ผมเห็นอะไรบางอย่างที่คนอื่นอาจไม่เคยเห็น
นอกจากจะถูก "ขอความร่วมมือ" ให้บริจาคเงิน 120 บาทเข้ากองพันปกครอง โดยไม่ได้รับแจ้งมาก่อนและไม่ชัดเจนว่าเงิน 120 บาทจากนักเรียนที่ยังไม่ได้หาเงินเองอีกทั้งผลัดรวมกันได้เกือบแสนบาทจะถูกนำไปจัดการอย่างไร
นอกจากจะต้องนั่งฟังประวัติศาสตร์ชาตินิยม ฟังเรื่องเกียรติภูมิของทหาร (?) ในการปราบปรามนักศึกษาหรือที่ครูฝึกเรียกว่า "คอมมิวนิสต์ผู้หลงผิด" จนกลอกตาแล้วกลอกตาอีกไม่รู้กี่รอบ
และนอกจากจะต้องใช้ชีวิตกับวิถีการคิดแบบทหารยุคเก่าเป็นเวลาเกือบ 3 วัน
ผมยังเห็นคำสั่งพิเศษที่ครูฝึกบางคนให้กับเพื่อนหัวหน้าหมวดของผมคนหนึ่ง เขาสั่งเพื่อนผมว่า
"่เอ็งไปหาใครที่เป็นกะเทยมาซักคนนึงซิ ครูจะแกล้งมันเล่นสักหน่อย"
ผมเข้าใจว่าสิทธิมนุษยชนในระบบทหารยังมีปัญหาหลายอย่าง และผมก็เข้าใจว่าผมไม่ควรจะแปลกใจมากนัก แต่ผมเพิ่งสัมผัสได้ด้วยตัวเองว่าพวกเขาจะเห็นว่าเพื่อนมนุษย์ที่มีอายุน้อยกว่าและเพียงแต่มีรสนิยมชมชอบไม่เหมือนกับตนเป็นของเล่นให้แกล้งเท่านั้นเองหรือ ?
โชคดีว่าสุดท้ายก็ไม่มีใครในหมวดหมู่กรมกองที่ถูกกลั่นแกล้งด้วยเหตุผลที่ไม่ควรจะมีในประเทศไทยยุคศตวรรษที่ 21 อีกแล้ว
ความน่าสนใจอีกประการหนึ่งของเขาชนไก่ที่สืบเนื่องจากที่ศูนย์ฝึก ฯ คือความคิดที่พยายามจะล้างสมอง นศท. อย่างพวกเราให้ไปล้างสมองคนรอบข้างต่อไป
พวกเขาเอานายทหารอายุน้อยที่ดูทรงภูมิ ดูมีความรู้ขึ้นมากล่าวเกี่ยวกับการร่างรัฐธรรมนุญของรัฐบาลอำนาจนิยมยุคปัจจุบัน แต่ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาพูดถึงพันธะหน้าที่ของทหารในการเข้ามา (ยุ่ง) ในระบบการเมืองเพื่อสร้าง "ระบบประชาธิปไตย" โดยทหาร พวกเขาพูดถึงคุณงามความดีของสถาบันทหารและ คสช. ที่มีต่อประเทศของเรา (?)
ผมไม่มั่นใจว่าคนคิดนโยบายนี้หวังผลจริง ๆ หรือเป็นนโยบายเอาหน้าตามระบบราชการไทย
แต่ถ้าคนคิดนโยบายหวังผลจริง ๆ พวกเขาคงต้องผิดหวังมากที่นโยบายนี้ล้มเหลวแหลกเละโดยสิ้นเชิง พวกเขาคิดจะใช้การยัดเยียดสร้างทัศนคติคล้อยตาม อาจมีบ้างที่ตั้งใจฟัง แต่ส่วนมากนั้น "หลับ"
พวกเราหลับกันเสียส่วนมาก แม้แต่เพื่อนที่นิยมชมชอบทหารมากที่สุดที่ผมรู็จักก็นั่งหลับไปในขณะที่ผมนั่งฟังพลางหัวเราะในใจ พวกเราหากไม่หลับ ก็ไม่ฟัง คนที่ฟังเชื่อว่าก็คงจะมีความรู้สึกอย่างเดียวกับผมไม่น้อยคือหัวเราะเยาะในความน่าอดสูของระบบการคิดทีตกค้างมาตั้งแต่เมื่อ 40-50 ปีก่อนที่ตกค้างในกระบวนการคิดของผู้หลักผู้ใหญ่
ในด้านกายภาพ ผมทนได้กับแสงแดดร้อนระอุ ฝุ่นดินแดงที่ตลบ สิวที่ขึ้นอีกจากที่เดิมก็เยอะอยู่แล้ว ข้าวหลวงที่อร่อยบ้างไม่อร่อยบ้าง นั่นคือการฝึกทหาร แต่ถึงจะเป็นทหารก็ตาม ทัศนคติหลายอย่างในการเรียนการสอนวิชาทหารยังต้องปรับปรุง เมื่อทหารบอกว่าตนเองก็มีสิทธิเหมือนพลเมืองคนอื่น ทหารก็จะต้องเห็นค่าสิทธิของผู้อื่นด้วยเช่นกัน
ป.ล. อย่างอื่นก็สนุกดี สนุกมาก แต่ถ้าเลือกได้ก็ไม่ขอกลับไปอีก
#เขาชนไก่59
#เขาชนไก่59
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น