นักท่องเที่ยวทั่วโลกเพิ่มขึ้น 4.4 เปอร์เซ็นต์ แม้ปีที่ผ่านมามีเหตุโจมตีร้ายแรงหลายครั้ง
องค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ เผยตัวเลขนักท่องเที่ยวทั่วโลกเพิ่มขึ้น 4.4 เปอร์เซ็นต์ในปีที่ผ่านมา โดยมีนักท่องเที่ยวที่เดินทางเที่ยวระหว่างประเทศ 1.8 พันล้านคน แม้ว่าจะมีเหตุโจมตีระดับร้ายแรงหลายครั้งก็ตาม
ประเทศฝรั่งเศสยังคงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยม ตามมาด้วยสหรัฐอเมริกา สเปน และจีน
“การท่องเที่ยวระหว่างประเทศเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องและเข้มแข็ง” นายตาลิบ ริฟาย เลขาธิการองค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ กล่าวพร้อมระบุว่า การก่อเหตุโจมตีที่เกิดขึ้นหลายครั้งเมื่อปีที่ผ่านมานั้น ไม่ได้ส่งผลต่อการเติบโตของการท่องเที่ยวในระยะกลางหรือระยะยาว
“เราไม่สามารถจะบอกได้อีกต่อไปว่าการก่อเหตุโจมตีเหล่านี้เป็นปัญหาของอียิปต์ ฝรั่งเศส ไทย ตุรกี หรืออินโดนีเซีย เราต้องเดินทางต่อไป และเราต้องไม่ปล่อยให้ประเด็นสวัสดิภาพและความปลอดภัยมาจำกัดหรือเปลี่ยนทัศนคติของเราในการทำให้โลกนี้เปิดกว้างมากยิ่งขึ้น”
ทวีปยุโรปยังคงเป็นทวีปที่มีนักท่องเที่ยวมากที่สุดในโลก ตามมาด้วยเอเชียและแปซิฟิก และทวีปอเมริกา โดยมีอัตรานักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 5 เปอร์เซ็นต์
อย่างไรก็ตามผลสำรวจพบว่าจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปยังแอฟริกาตอนเหนือลดลง 8 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่กลุ่มประเทศซับซาฮารา (ประเทศที่ตั้งอยู่ตอนใต้ของทะเลทรายซาฮารา) มีนักท่องเที่ยวลดลง 1 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากความกังวลต่อการระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลา
เลขาธิการองค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติชี้ว่าอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา ราคาน้ำมัน ภัยพิบัติจากทั้งโดยธรรมชาติและฝีมือมนุษย์ นั้นล้วนส่งอิทธิพลต่อการท่องเที่ยวด้วย และค่าเงินยูโรที่อ่อนค่าลงก็จูงใจนักท่องเที่ยวให้เดินทางไปยุโรปและอเมริกามากขึ้น
ประเทศจีนเป็นประเทศที่มีการจับจ่ายในการท่องเที่ยวมากที่สุดในปีที่ผ่านมาซึ่งเป็นผลพวงจากการเติบโตทางการท่องเที่ยวที่โตขึ้นเป็นสองเท่าทุกๆ ปีนับแต่ปี 2547 เป็นต้นมา และกลุ่มที่ได้อานิสงส์จากนักท่องเที่ยวจากจีนก็คือกลุ่มประเทศเอเชีย อย่างญี่ปุ่นและไทย รวมทั้งประเทศสหรัฐอเมริกาและหลายประเทศในยุโรปด้วย
ในทางกลับกัน นักท่องเที่ยวจากรัสเซียและบราซิลจับจ่ายให้กับการท่องเที่ยวน้อยลงอย่างมากในปีที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนถึงภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว และการลดค่าเงิน ในสองประเทศนี้ ขณะเดียวกัน การที่แหล่งท่องเที่ยวบางแห่งถูกโจมตี ก็ส่งผลให้นักท่องเที่ยวลดลงเนื่องจากความกังวลต่อความปลอดภัยและสวัสดิภาพ เช่น กรณีของตูนีเซีย ซึ่งผลจากการโจมตีพิพิธภัณฑ์บาร์โด ในเมืองตูนิสตามมาด้วยการโจมตีรีสอร์ทในเมืองซูสส์ ทำให้มีนักท่องเที่ยวเสียชีวิตไป 59 ราย นั้นก็ส่งผลให้ยอดนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปตูนีเซียในปีที่ผ่านมาลดลงเหลือ 5.2 ล้านคน จากที่เคยมีนักท่องเที่ยว 7.2 ล้านคนในปี 2557
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น