คุกกวนตานาโมมีนักโทษต่ำกว่า 100 คนเป็นครั้งแรก
จำนวนนักโทษที่ถูกคุมขังในเรือนจำของสหรัฐฯ ที่อ่าวกวนตานาโม ในคิวบา ลดลงเหลือไม่ถึง 100 คนเป็นครั้งแรกนับแต่เปิดทำการเมื่อปี พ.ศ. 2545 หลังมีการย้ายตัวนักโทษชาวเยเมน 10 คนไปยังโอมาน
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ระบุว่า การย้ายตัวนักโทษครั้งนี้สะท้อนถึงความคืบหน้าในการเดินไปสู่เป้าหมายของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ที่ต้องการปิดเรือนจำแห่งนี้ลงอย่างถาวร ด้านกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ แสดงความขอบคุณประเทศโอมานที่รับนักโทษกลุ่มนี้ไป โดยนักโทษที่ถูกย้ายไปล้วนเป็นผู้ที่ถูกจองจำมานานกว่า 10 ปีโดยไม่มีการตั้งข้อหา หรือพิจารณาคดี
โอมานซึ่งเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดของสหรัฐฯ จะรับนักโทษกลุ่มนี้ไปชั่วคราวจนกว่าจะมีที่คุมขังถาวรมาทดแทน โดยเจ้าหน้าที่โอมาน บอกว่า นักโทษเดินทางไปถึงโอมานเมื่อวานนี้ (14 ม.ค.) และน่าจะถูกคุมขังอยู่ที่นั่นจนกว่าสงครามในเยเมนจะสงบลง
การย้ายตัวนักโทษเรือนจำที่อ่าวกวนตานาโมครั้งนี้ถือเป็นครั้งใหญ่ที่สุด และเป็นไปตามคำมั่นที่ประธานาธิบดีโอบามาเคยประกาศไว้ในช่วงเข้ารับตำแหน่งสมัยแรกเมื่อปี พ.ศ 2552 ว่าจะเร่งปิดเรือนจำแห่งนี้ลงอย่างถาวร นอกจากนี้ เมื่อช่วงต้นเดือนนี้สหรัฐฯ ยังได้ย้ายตัวนักโทษชาวเยเมนอีก 2 คนไปยังประเทศกานา ทำให้คาดว่าปัจจุบันมีนักโทษเหลืออยู่ราว 93 คน ถือเป็นระดับต่ำสุดนับแต่ปี พ.ศ. 2545 ที่ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช สั่งเปิดเรือนจำแห่งนี้เพื่อรองรับชาวต่างชาติที่ต้องสงสัยว่าเป็นผู้ก่อการร้ายหลังเกิดเหตุวินาศกรรม 9/11 ทำให้นับแต่นั้นเป็นต้นมามีนักโทษถูกคุมขังไว้ที่เรือนจำแห่งนี้ทั้งสิ้น 780 คน
ที่ผ่านมา เรือนจำที่อ่าวกวนตานาโม มักถูกวิพากษ์วิจารณ์จากองค์กรด้านสิทธิมนุษยชน โดยกลุ่ม Reprieve ระบุว่า นักโทษคนหนึ่งที่ถูกย้ายไปเมื่อวานนี้ คือ นายซามีร์ นาจี โมกเบล ซึ่งถูกคุมขังมานานถึง 14 ปีโดยไม่ถูกตั้งข้อหาใดๆ และยังถูกซ้อมทรมานอย่างรุนแรงด้วย #GuantanamoPrison
(ภาพ: กลุ่มองค์กรสิทธิมนุษยชนประท้วงที่หน้าทำเนียบไวท์เฮาส์เมื่อ 11 ม.ค.2559 เรียกร้องให้ปิดเรือนจำกวนตานาโม)
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น