0

ความขัดแย้งทางการเมืองไทยมันถึงระดับ Ideology แล้ว มันไม่มีทางจบลงไปง่ายๆ อย่างที่คิดกันหรอกครับ
เมื่อวานนี้อ่านหนังสือเล่มหนึ่ง คือ "Unfolding the Future
of the Long War- Motivations, Prospects, and Implications for the U.S. Army ที่กองทัพสหรัฐจ้างบริษัท RAND Corporation ศึกษาเกี่ยวกับภาวะสงครามที่กองทัพสหรัฐต้องเผชิญในทศวรรษหน้า ซึ่่งภัยคุกคามหลักคือ "การก่อการร้าย" ของกลุ่มหัวรุนแรงมุสลิมต่างๆ ซึ่งในการศึกษานั้น สาเหตุหลักๆ คือการขัดแย้งกันในระดับของ Ideology ที่ยากจะเอาชนะกันได้ด้วยการใช้กำลัง หรือเปิดยุทธการทางทหารต่างๆ เพราะ เมื่อเป็นความขัดแย้งในระดับอุดมการณ์ทางการเมือง การเอาชนะนั้นต้องเอาชนะในระดับ "อุดมการณ์" ทางการเมืองก่อน ไม่อย่างนั้นไม่มีทางที่จะเอาชนะได้ เพราะอุดมการณ์ยุคนี้แพร่ไปอย่างรวดเร็วด้วยระบบออนไลน์ต่างๆ ไม่มีขีดจำกัด การปิดกั้นสื่อด้วยกำลังนั้น ไม่อาจทำได้ มีแต่ต้องใช้อุดมการณ์ที่เหนือกว่าเท่านั้นเข้าต่อสู้ แต่ "อุดมการณ์ของเรานั้นเหนือกว่าฝ่ายตรงข้ามหรือไม่" อันนั้นแหละคือ ปัญหา เพราะหากเราเป็นฝ่ายล้าหล้ง ผู้ที่จะถูกประวัติศาสตร์กำจัดคือเรา ไม่ใช่ฝ่ายตรงข้าม
ความขัดแย้งทางการเมืองไทย ปัญหาคือ ฝ่ายล้าหลังตอนนี้ไม่ใช่อนุรักษ์นิยม แต่กลับเป็น "อุดมการณ์จารีตนิยม" หรือศัพท์สมัยใหม่คือ Fundamentalism นั่นเอง พวกนี้แทนที่จะพัฒนาแต่กลับต้องการให้สังคมย้อนหลังกลับไปสู่อดีต เช่น แนวคิดเทวราชาแบบขอมเป็นต้น ดังนั้นมันเลยขัดแย้งกับฝ่ายก้าวหน้า ที่มีอุดมการณ์ทั้งพวก Liberalism กับพวก Socialism
ฝ่ายล้าหลังนั้นยังคิดว่า ความขัดแย้งตอนนี้เกิดจากทักษิณ เรื่องตัวบุคคลเป็นหลัก แต่ฝ่ายเสื้อแดงกลับคิดว่า "ทักษิณนั้นคือตัวกระตุ้น" ให้เกิดการเปลี่ยนแปลง แต่จริงๆ คือ เสรีภาพ ความเป็นธรรม และความเท่าเทียมกันต่างหากที่คนจำนวนมากต้องการ แต่กลุ่มก้าวหน้านี้ก็ยังต้องพึ่งทักษิณในแง่ของมวลชนมหภาคที่ยังนิยมทักษิณอยู่มากมาย และไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด มีความพยายามก้าวข้ามตัวบุคคลในขบวนการเหมือนกัน แต่แบบนั้นมันแค่อุดมคติ เพราะมวลชนมีส่วนผสมด้านอุดมการณ์กับตัวบุคคลด้วย
ดังนั้น เมื่อความขัดแย้งก้าวถึงระดับ Ideology และสังคมเปลี่ยน Mode of Production เป็น Industrial แล้ว โครงสร้างสังคมเปลี่ยนไป ดังนั้น ความขัดแย้งในประเทศไทยไม่มีทางจบง่ายๆ จนกว่าฝ่ายล้าหลังจะพ่ายแพ้ไป เพื่อสังคมจะได้ก้าวไปข้างหน้าในที่สุด ผมคาดการณ์ว่าอาจใช้เวลาอีก 5-10 ปี (ซึ่งผู้นำทางบารมีของฝ่าย จารีตนิยม หลายๆ คนคงจากไปแทบหมดแล้ว)


แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

 
Top