ผลวิจัยชี้ พ่อแม่อังกฤษคุมลูกไม่ให้ติดหน้าจอมือถือได้ยาก
ผลวิจัยขององค์กรการกุศล แอคชั่น ฟอร์ ชิลเดรน ของอังกฤษชี้ว่า พ่อแม่เกือบหนึ่งในสี่ หรือคิดเป็นร้อยละ 23.1 ของกลุ่มที่ทำการสำรวจ เผชิญกับปัญหาใหญ่ในการควบคุมลูกไม่ให้ติดหน้าจอโทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ หรือโทรทัศน์ได้ลำบาก โดยตัวเลขดังกล่าวชี้ว่า การติดหน้าจออิเล็กทรอนิกส์เป็นปัญหาที่แก้ยากกว่าปัญหาในการทำกิจวัตรประจำวันอื่น ๆของเด็ก เช่น การต้องบังคับเคี่ยวเข็ญให้เด็กทำการบ้าน มีเพียงร้อยละ 10 หรือปัญหาลูกดื้อไม่ยอมเข้านอน มีเพียงร้อยละ 17.5 ส่วนปัญหาลูกไม่ค่อยยอมอาบน้ำมีเพียงแค่ร้อยละ 5
คารอล อิดดัน ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการของ แอคชั่น ฟอร์ ชิลเดรน บอกว่า แม้เทคโนโลยีจะกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของทั้งผู้ปกครองและเด็กก็ตาม แต่ทุกครอบครัวก็จำเป็นจะต้องรักษาสมดุลระหว่างเทคโนโลยีกับกิจกรรมที่มีประโยชน์อื่น ๆ ตลอดจนเวลาที่ให้กับครอบครัวด้วย เธอบอกว่า ผลการวิจัยเกี่ยวกับสัมพันธภาพในครอบครัวหลายชิ้นที่ผ่านมา ชี้ว่าความสัมพันธ์ที่เหนียวแน่นภายในครอบครัว จะช่วยให้เด็กรับมือกับปัญหาการถูกกลั่นแกล้งที่เกิดขึ้นนอกบ้านหรือในสังคมได้มากกว่า อีกทั้งยังทำให้เด็กรู้สึกเปิดเผยกับพ่อแม่มากขึ้น หากพวกเขาเกิดความกลัวหรือความกังวลต่าง ๆ ขึ้นมา
ผลวิจัยของมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ซึ่งตีพิมพ์เมื่อเดือนก.ย. ปีที่แล้วชี้ว่า เด็กมัธยมต้นที่ใช้เวลาเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งชั่วโมงต่อวันในการดูทีวี อินเทอร์เน็ต หรือเล่นเกมคอมพิวเตอร์ จะได้รับผลกระทบทำให้ผลการเรียนต่ำลง ทั้งนี้ ผลที่ได้จากการวิเคราะห์คะแนนสอบมัธยมต้นหรือ GCSE ของเด็กวัย 16 ปี จำนวน 800 คนพบว่า การใช้เวลาหน้าจอเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งชั่วโมงต่อวัน ทำให้เกรดของพวกเขาตกลงราวสองระดับ
ทั้งนี้ แอคชั่น ฟอร์ ชิลเดรน เผยแพร่ข้อแนะนำสำหรับครอบครัวที่เจอปัญหาเด็กติดหน้าจอเอาไว้ ซึ่งข้อแนะนำเหล่านี้ มีอาทิ การวางแผนใช้เวลาครอบครัวร่วมกันโดยปราศจากเครื่องเล่นเทคโนโลยี การหาเกมโปรดสำหรับเด็กมาเล่นด้วยกัน และการกำหนดช่วงปลอดเทคโนโลยีสำหรับทั้งเด็กและผู้ปกครอง เป็นต้น
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น