ความน่าหดหู่ของระเบิดฆ่าตัวตายในเยเมน
ในเหตุระเบิดฆ่าตัวตาย 2 ครั้ง ที่มัสยิดแห่งหนึ่งในเยเมนเมื่อเดือนก.ย. ปีที่ผ่านมา ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 25 รายและบาดเจ็บอีกจำนวนมากนั้น แจ็ค การ์แลนด์ ช่างภาพของบีบีซีไปถึงที่เกิดเหตุหลังการระเบิดไม่นาน และได้บรรยายสิ่งที่เขาพบให้ฟัง
หมายเหตุ - คำบรรยายของผู้สื่อข่าวอาจทำให้ผู้อ่านรู้สึกหดหู่และสะเทือนใจ
ตอนที่เกิดการระเบิดครั้งแรก ผู้คนที่ยืนอยู่แถวนั้นคิดว่าเป็นการโจมตีทางอากาศอีกครั้งเท่านั้น แต่ปรากฎว่าเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นฝีมือของศัตรูที่ซ่อนตัวใกล้กว่านั้น คืออยู่ใกล้ตัวนี่เอง มือระเบิดฆ่าตัวตายจากกลุ่มที่เรียกตัวเองว่ารัฐอิสลาม ได้จุดชนวนระเบิดภายในมัสยิดตอนใกล้จะสิ้นสุดการละหมาดเวลาเย็น ส่งผลให้ผู้ร่วมทำละหมาดเสียชีวิตเกือบทั้งหมด หลังจากนั้นไม่นาน ก็เกิดเหตุระเบิดรถยนต์ที่นอกมัสยิด ซึ่งเป็นกลวิธีเพื่อโจมตีผู้มาให้การช่วยเหลือ
“ผมเห็นศพอยู่รอบตัวเต็มไปหมด บางคนเป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัย” พยานคนหนึ่งบอกพวกเรา โดยตัวเขาเองก็ได้รับบาดเจ็บ ผ้าพันแผลรอบศีรษะมีรอยเลือดสีแดงที่ด้านหลัง
ถัดจากจุดที่ยืนออกไป เป็นหลุมที่เกิดจากการระเบิดรถยนต์บนถนนลาดยาง ชายกลุ่มหนึ่งกำลังมุงดูอยู่ ส่วนใหญ่แต่งกายแบบชาวเยเมน คือสวมเสื้อสูททับเสื้อคลุมยาวดิชดาชา เกือบทุกคนเหน็บกริชจัมบิยาไว้ที่เอว
บางคนดึงแขนผมให้เดินตามถนนกลับไปยังจุดที่เด็ก ๆ กลุ่มหนึ่งกำลังรวมกลุ่มกันใกล้กำแพง บางคนเก็บชิ้นส่วนศพใส่ถุงพลาสติกใบเล็ก ๆ แล้วกลับลืมทิ้งไว้ เพราะรีบไปฝังศพเหยื่อที่เสียชีวิต เด็กคนหนึ่งเอื้อมมือมาข้างหน้าและเปิดถุงกว้าง ทำท่าให้ผมเข้าไปใกล้ ๆ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ชวนให้คลื่นเหียนมากกว่าของที่อยู่ในถุงก็คือสภาพที่พวกเด็กๆ มารุมล้อมเบียดกันดูถุง ราวกับสิ่งที่พวกตนพบคือแมวตายสักตัวเท่านั้น
เราได้รับอนุญาตให้เขาไปในมัสยิด และเดินไปยังห้องที่เกิดระเบิดครั้งแรก ซึ่งเป็นห้องสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ มีเสา 9 ต้นค้ำยันหลังคาโดม บนพรมสีแดงมีเศษเสื้อผ้าขาดวิ่นกองอยู่ตรงโน้นตรงนี้ ผมมัวแต่ซึมซับภาพที่เห็นจนต้องใช้เวลาครู่หนึ่งจึงรับรู้ถึงกลิ่นในห้องนั้น เป็นกลิ่นเส้นผมไหม้กับกลิ่นเลือดแห้งกรัง ซึ่งเกาะติดลำคอจนผมต้องไอออกมา
เราเห็นได้ชัดเจนทันทีว่าผู้จุดชนวนระเบิดยืนอยู่ตรงไหนตอนเกิดเหตุ เขาต้องยืนอยู่แถวหน้าสุด ใกล้กับกำแพงด้านที่หันไปทางนครเมกกะ เพราะตรงนี้เพดานเป็นคราบดำด้วยเขม่าแผ่กระจายออกเป็นกลีบ ๆ เหมือนดอกป๊อปปี้ยักษ์สีดำ ส่วนบนพื้นก็มีร่องตื้น ๆ แผ่ออกเป็นรูปพัด อันเป็นผลจากการระเบิด
ในห้องยังมีเด็กคนหนึ่งซึ่งผมไม่ทันสังเกตมาก่อน อายุไม่เกิน 12 ผมเผ้ายุ่งเหยิง เดินช้า ๆ อย่างระมัดระวังผ่านเศษซากหักพังบนพื้น แล้วก้มลงเก็บอะไรบางอย่างขึ้นมาส่งให้ผม มันเป็นเหรียญเงินเรียลที่บิดงอจนแทบหักครึ่งจากแรงระเบิด ผมยื่นมือออกไปเพื่อจะดูให้ชัดเจนขึ้น แต่ต้องผงะเมื่อเห็นว่ามันยังคงมีเลือดที่จับตัวแข็งเคลือบอยู่ และปล่อยมันร่วงลงพื้นพรม
ผมพยายามส่งสัญญาณให้เด็กคนนั้นทิ้งเหรียญนั่นไว้ตรงนั้น ผมไม่อยากให้มันกลายเป็นเหมือนของที่ระลึก แต่เด็กชายกลับก้มลงเก็บมันขึ้นมาใส่กระเป๋า
ผมพยายามส่งสัญญาณให้เด็กคนนั้นทิ้งเหรียญนั่นไว้ตรงนั้น ผมไม่อยากให้มันกลายเป็นเหมือนของที่ระลึก แต่เด็กชายกลับก้มลงเก็บมันขึ้นมาใส่กระเป๋า
เวลาเราหมดลงและเราก็อยากออกจากที่นั่น พอเดินออกมาก็มีคนชี้ให้เราดูอะไรอย่างหนึ่งที่กองอยู่บนพื้นข้างประตู นั่นคือกระดูกสันหลังของมนุษย์สามร่างที่ยังเกาะติดอยู่ด้วยกัน ภาพนั้นไม่ได้ทำให้ผมหวาดผวาหรือเศร้า กลับรู้สึกโล่งอกที่ได้สูดอากาศสดชื่นเข้าเต็มปอดและหนีพ้นกลิ่นไหม้แหลมฉุนในห้องอันแสนเศร้านั้น
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น