เมื่อวันที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมา ธนาคารโลกได้เปิดเผยรายงานเศรษฐกิจเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก โดยระบุว่าอัตราการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ของไทยในปีนี้จะขยายตัวได้เพียง 2.5% การส่งออกคาดว่าจะขยายตัวได้ 0.8% ทั้งนี้ ประเทศไทยมีการเติบโตของจีดีพีต่ำที่สุดในอาเซียน และจะถดถอยต่อเนื่องไปอีก 2 ปีข้างหน้า แม้รัฐบาลจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลายด้าน แต่ไทยมีปัญหาด้านโครงสร้างที่จะต้องใช้เวลานานกว่าจะปฏิรูปและแก้ปัญหาได้สำเร็จ
ธนาคารโลกประเมินว่าปี2559จีดีพีของไทยจะขยายตัว 2% และในปี 2560 จะขยายตัว 2.4% เป็นผลจากเศรษฐกิจจีนยังซบเซาและเศรษฐกิจประเทศเกิดใหม่ชะลอตัว อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจของภูมิภาคนี้จะเติบโตปานกลางที่ 6.5% ลดลงจาก 6.8% ในปีก่อน แต่ยังถือเป็นการเติบโตที่แข็งแกร่งขณะที่การส่งออกในปี 2559 จะเติบโต 1.8% และปี 2560 เติบโต 1.3% โดยการส่งออกจะยังคงอ่อนแอ มูลค่าการส่งออกในรูปสกุลเหรียญสหรัฐจะขยายตัวต่ำกว่า 1%
"ไทยจะหลุดจากเศรษฐกิจถดถอยได้ จะต้องดำเนินนโยบาย 3 เรื่อง คือ ต้องบูรณาการเศรษฐกิจให้สอดคล้องกับเศรษฐกิจโลก ซึ่งจะเป็นแง่ดีให้กับการค้าและ การส่งออก" ธนาคารโลกระบุ
นอกจากนี้ ยังต้องให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีและนวัตกรรม พัฒนาระบบการศึกษา เพื่อให้แรงงานมีความรู้เพิ่มขึ้น และลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งเปิดโอกาสให้เศรษฐกิจไทยในอนาคตยังเติบโต