0

ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวของจีนเข้าสู่ช่วงวิกฤติจริงหรือ?
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนจะเดินทางเยือน สหราชอาณาจักรอย่างเป็นทางการในวันนี้ แอนดรูว์ วอล์กเกอร์ ผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจของบีบีซี บอกว่าทั้งสองประเทศต่างต้องการขยายการค้าระหว่างกัน โดยเฉพาะ สหราชอาณาจักรที่ต้องการส่งเสริมให้จีนเข้ามาลงทุนในประเทศตน
แผนการเยือนสหราชอาณาจักรของผู้นำจีนมีขึ้นในจังหวะเดียวกับที่จีนเปิดเผยตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้ว่าชะลอตัวมาอยู่ที่ 6.9% ผู้สื่อข่าวบีบีซี ระบุว่า เศรษฐกิจจีนกำลังชะลอตัวอย่างไม่ต้องสงสัย แต่หากเป็นการชะลอตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปก็เป็นเรื่องที่ยอมรับได้
ช่วง 3 ทศวรรษที่ผ่านมา ตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจจีนโดยเฉลี่ยแต่ละปีอยู่ที่ 10% ทว่านับแต่ปี 2553 เป็นต้นมา เศรษฐกิจจีนเริ่มชะลอตัว โดยตัวเลขเมื่อปีก่อนอยู่ที่ 7.4% หลายฝ่ายคาดว่าเศรษฐกิจในปีนี้จะชะลอตัวลงอีก และปีหน้าก็มีแนวโน้มเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ตัวเลขที่ทางการจีนเปิดเผยออกมามักถูกวิจารณ์ถึงความน่าเชื่อถือ วิลเล็ม บิวเตอร์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของซิตี้กรุ๊ป บอกว่า ตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่แท้จริงของจีนในปีนี้อาจน้อยกว่า 4%
อย่างไรก็ตาม นายจอร์จ ออสบอร์น รัฐมนตรีคลังอังกฤษกลับต้องการกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับจีนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เนื่องจากเล็งเห็นว่า ธุรกิจในสหราชอาณาจักรมีอนาคตสดใสในตลาดจีน โดยเมื่อไม่นานมานี้ นายออสบอร์น ให้สัมภาษณ์กับบีบีซีว่า เขาต้องการให้จีนซึ่งปัจจุบันเป็นตลาดส่งออกรายใหญ่อันดับ 6 ของสหราชอาณาจักร ก้าวขึ้นเป็นตลาดส่งออกอันดับ 2 ให้ได้ภายใน 10 ปีข้างหน้า
ผู้สื่อข่าวบีบีซี บอกว่า แม้เศรษฐกิจจีนจะกำลังชะลอตัว แต่ก็ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คาดว่า เศรษฐกิจจีนจะขยายตัวกว่า 6% ไปจนถึงปี 2562 นอกจากนี้ การที่จีนเป็นประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ก็หมายความว่า เศรษฐกิจจีนที่ขยายตัวกว่า 6% จะช่วยให้เศรษฐกิจโลกขยายตัวกว่า 1% ด้วย และอาจกล่าวได้ว่าแนวโน้มเศรษฐกิจจีนดังกล่าวถือเป็นโอกาสทางธุรกิจที่สำคัญไม่น้อย
ขณะเดียวกัน จีนพยายามเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจของตนที่ขับเคลื่อนด้วยภาคการส่งออกและการลงทุนในระดับสูงไปเป็นเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนโดยผู้บริโภคภายในประเทศ ซึ่งนั่นอาจเป็นการเปิดโอกาสใหม่ทางเศรษฐกิจ โดยจากการศึกษาของสหราชอาณาจักรพบว่า อุตสาหกรรมยา, ยานยนต์, ผู้ให้บริการด้านการเงินและธุรกิจ มีอนาคตสดใสในตลาดจีน เนื่องจากลูกค้าชาวจีนมีกำลังทรัพย์เพิ่มมากขึ้นนั่นเอง‪#‎ChinaEconomy‬

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

 
Top