ประธาน นปช. เผยเกมเอกสารปลอมนัดเสื้อแดง เพื่อทำลายให้ระส่ำ ล่อมาเป็นเหยื่อ อ้างเป็นเหตุออกคำสั่งปกครองยึดทรัพย์ "ยิ่งลักษณ์" ระบุขบวนการเสี้ยมเริ่มวิตกทุกข์แทบอกแตก จึงเรียงหน้าปั่นกระแสโหมป่วนให้แตกแยก ย้ำอีกครั้ง 1 พ.ย.ไม่มีนัดแต่งแดง ส่วนจะนัดจริงวันไหน โปรดรอ
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวในรายการมองไกล ผ่านยูทูป เมื่อ 24 ตุลาคม นี้ โดยย้ำถึงเกมฝ่ายตรงข้ามออกเอกสารปลอมนัดคนเสื้อแดงให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ ว่า ขณะนี้ขบวนการเสี้ยมได้ปั่นกระแส สร้างความหวั่นวิตกกันไปใหญ่โต โดยมุ่งกล่าวหาให้คนเสื้อแดงสร้างความแตกแยก เพื่อจะเป็นสาเหตุอ้างในการออกคำสั่งทางปกครองเรียกร้องค่าเสียจำนวน 5 แสนล้านบาท จากอดีตนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์
ประธาน นปช. กล่าวว่า ขบวนการเสี้ยมเริ่มขึ้นโดยหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ นำเอกสารปลอมมาสร้างข่าวเพื่อหวังทำลายคนเสื้อแดง จากนั้นทั้ง พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี และพ.อ. วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ออกมาปั่นกระแสอย่างวิตกกังวล พร้อมทั้งขู่ถึงการใส่เสื้อแดงมาชุมนุมเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย ต้องขออนุญาตก่อน ขณะเดียวกัน นางรัชฎาภรณ์ แก้วสนิท อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ได้กล่าวหาว่า เป็นการดิ้นครั้งสุดท้าย ซึ่งการเคลื่อนไหวทั้งหมดนี้ล้วนเป็นขบวนการปั่นกระแสที่เกิดจากพวกเดียวกัน โดยหวังให้เกิดความหวาดวิตกในบ้านเมือง และให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เล่นงานคนเสื้อแดง ดังนั้น ขอคนเสื้อแดงอย่าได้ไปติดเกมที่วางล่อไว้
"ผมอยากบอกพี่น้องว่า เห็นอย่างชัดเจนว่า อดีต ส.ส.ปชป.อายุมากคนหนึ่ง การออกมาเสี้ยม ให้ คสช.เกิดอาการจะขยำคนเสื้อแดง และอดีตนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ให้ได้ เมื่อเราไม่เดินตามเกม ก็เป็นทุกข์เอง และกำลังจะอกแตกอยูู่แล้ว อย่าไปแย่งเขาเลย คนพวกนี้ต้องการนำไปสู่การออกคำสั่งทางปกครอง เพราะประเด็นต่างๆ จนมุมในข้อกล่าวหาการทุจริต จึงนำเรื่องนี้มาสร้างให้เกิดความระส่ำกับคนเสื้อแดง เราต้องไม่ทรยศกัน วันที่ 1 พ.ย.ไม่มีนัดหมาย ที่ออกมาเป็นของปลอม เป็นเครื่องมือทำลาย เพื่อต้องการสร้างความชอบธรรมอันนำไปสู่การออกคำสั่งทางปกครอง ส่วนของจริงจะเป็นวันไหน รอคำสั่งจากผม พี่น้องจะรู้ว่า เราควรจะทำอะไร"
นายจตุพร อธิบายเกมของขบวนการเสี้ยมว่า หากพิจารณาข้อกล่าวหาในคดีจำนำข้าวนั้น คณะกรรมการปร้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ยืนยันชัดเจน ว่า อดีตนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ไม่มีการทุจริต การเล่นงานที่ผ่านมา ทั้งการถอดถอนโดยสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และยื่นคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คือ การปล่อยปละละเลย ดังนั้นเมื่อจนแต้มไม่หลักฐานคดีทุจริต จึงหาทางเล่นงาน โดยให้รัฐบาลออกคำสั่งทางปกครองเรียกค่าเสีย
ขณะที่รัฐบาลรอออกคำสั่งทางปกครอง ขบวนการเสี้ยมจึงต้องสร้างเหตุปัจจัยแวดล้อมให้น่ากลัวขึ้นเพื่อจะได้เป็นข้ออ้างในการใช้คำสั่งทางปกครอง ดังนั้น จึงทำเอกสารปลอมมายั่วยุให้คนเสื้อแดงออกมาแสดงพลัง เนื่องจากตลอดเวลาปีเศษตั้งแต่มีการยึดอำนาจมานั้น คนเสื้อแดงอยู่กันอย่างนิ่งสงบ จนทำให้ขบวนการเสี้ยมตกใจกับวินัยของคนเสื้อแดงอย่างน่าอัศจรรย์ใจ
ประธาน นปช. กล่าวว่า ขบวนการเสี้ยมเคยทำลายคนเสื้อแดงได้ผลมาแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อหลอกให้ไปชุมนุมปิดล้อม สำนักงาน ป.ป.ช. แล้วอ้างเป็นเหตุถูกคุกคาม จนนำไปสู่การสร้างความชอบธรรมในการทำคดีจำนำข้าว ถึงขั้นระบุว่า ยากที่สุดจนเอาชีวิตแทบไม่รอด และครั้งนี้ยังเล่นเกมนัดใส่เสื้อแดงอีก โดยจะอ้างถึงการหวั่นวิตก ต้องการสร้างความแตกแยก จึงเสี้ยมให้เกิดประเด็นขึ้นมาเพื่อไว้อ้างความชอบธรรมในการออกคำสั่งทางปกครอง
ส่วนการออกคำสั่งทางปกครองนั้น นายจตุพร กล่าวว่า นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้ยืนยันชัดเจนว่า ที่ต้องดำเนินการ เพราะ ป.ป.ช. ส่งเรื่องมาให้รัฐบาลเรียกร้องความเสียหาย และเป็นดคีแรกที่ ป.ป.ช.ส่งมาให้รัฐบาล ส่วนคดีของรัฐบาลอื่นที่ไม่เรียกค่าเสียหาย เพราะป.ป.ช.ไม่ส่งมา แต่ส่งมาเฉพาะคดีอดีตนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ คดีเดียวของประเทศไทย
นอกจากนี้ ประธาน นปช. ยังสงสัยถึงคำสั่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. และนายกรัฐมนตรี ให้ปราบปรามมาเฟีย ว่า ตั้งแต่ยึดอำนาจมาปีเศษแล้ว ขณะนี้ประเทศไทยยังมีมาเฟียเหลืออยู่อีกหรือ และที่สำคัญคือ ทั้งประเทศมีทหารอยู่เต็มไปหมด แล้วผู้มีอิทธิพลยังกล้าท้าทายคำสั่งมาตรา 44 ด้วยหรือ โดยตนเห็นว่า ในยุคนี้ไม่มาเฟียหรือผู้มีอิทธิพลคนใดจะกล้ายิ่งใหญ่กว่าทหาร เพราะไม่ใครมีอิทธิพลเท่าทหารอีกแล้ว
นายจตุพร ยังเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีใช้กลไกการทำงานไปตรวจสอบโครงการงบประมาณตำบลละ 5 ล้านบาท ที่เกิดการคอรัปชั่นมากมาย โดยงบประมาณส่วนนี้ถูกซอยแยกออกเป็นงานประมูลเล็กเพื่อหลบเลี่ยงระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี รวมทั้งบางพื้นที่ยังเรียกร้องค่าหัวคิดตั้งแต่ 20-35 % สิ่งเหล่านี้ชาวบ้านรับรู้อย่างใกล้ชิด เห็นกันตำตา ป.ป.ช. ไม่สนใจไปตรวจสอบด้วยหรือ และยังไม่มีการกล่าวถึงการโกงให้เป็นกระแสอีกด้วย ซึ่งประเทศนี้ทำกันเหมือนมีโครงการจำนำข้าวทุจริตอยู่โครงการเดียว ส่วนโครงการอื่นละเลย
"โครงการนี้ ถ้าไม่กำราบกันดีๆแล้ว ก็ไม่แตกต่างจากแท่งไอติมในอดีตที่มีการเปรียบเปรยการใช้งบประมาณแผ่นดิน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดและเกี่ยวข้องโดยตรงกับประชาชน ซึ่งอาจไม่เคยเห็นโครงการหมื่นล้าน แสนล้าน เมกะโปรเจคต์ทั้งหลาย เพราะไกลตัวเขา แต่นี้อยู่ในตำบล หน้าบ้านเขา ในหมู่บ้าน เป็นที่โจษจัน วิพากษ์วิจารณ์กันว่า มันเป็นอย่างไร ผมไม่อยากบอกว่า ก่อนเข้ามาขี้ม้าขาวเข้ามาทุกราย แต่ต้อนกลับออกไปหาม้าขาวไม่เจอสักราย เพราะเรื่องเหล่านี้" นายจตุพร กล่าว