ประธาน นปช. ส่งสัญญาณถึง "วิษณุ" กูรูกฎหมายรัฐบาล เตรียมฟังการเปิดโปงคดีเลี่ยงภาษีบุหรี่ เผย "ฟิลลิป มอร์รีส" ต้องจ่ายค่าปรับมโหฬารถึง 1.6 แสนล้านบาท แต่มีการเจรจาต่อรองกัน รวมทั้งตั้งคนพันหนีภาษีรถนำเข้าไปเป็นบอร์ดดีเอสไอ.อีก ย้ำงานนี้บอกไม่รู้เรื่อง ไม่สงสัยไม่ได้แล้ว ชี้พันกับกุข่าวใส่แดงเพื่อกลบข่าวใหญ่ พร้อมขอให้ดูหนังท้ายเรื่องใกล้จบ
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวในรายการมองไกล ผ่านยูทูป เมื่อ 25 ตุลาคมนี้ โดยย้ำให้คนเสื้อแดงมีสติและสงบนิ่งดูหนังตอนท้ายเรื่อง ใกล้จบ จึงไม่ควรไปเดินตามเกมของขบวนการเสี้ยมที่วางแผนหลอกให้ใส่เสื้อแดงวันที่ 1 พฤศจิกายน ซึ่งหวังสร้างข่าวทุจริตจำนำข้าวมากลบข่าวพิจารณาคดีปราบการชุมนุมปี 2553 และการเลี่ยงภาษีนำบุหรี่นอกราชอาณาจักรเข้าประเทศ
"เราอยู่เฉยๆ มาเป็นปีนั้น เพื่อต้องการบอกว่า เมื่อคนเสื้อแดงไม่ได้เคลื่อนไหวเลย แต่ปัญหายังอยู่และหนักกว่าเดิม ดังนั้น ปัญหาประเทศจึงไม่ได้เกิดจากคนเสื้อแดง แต่พวกร้อนวิชาเมื่อถูกล่อจึงอยากออก แล้วจะเป็นคุณหรือโทษกับอดีตนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร ดังนั้น เมื่อพวกเขาจวนตัวก็นึกถึงของตายอีก การรักคนต้องรักอย่างมีสติ ตอนนี้หนังอยู่ท้ายเรื่องใกล้จบแล้ว ควรนิ่งสงบดูให้จบ หากเราเข้าไป พวกเขาทะเลาะกันก็จะดีกัน แล้วเราเป็นหมาหัวเน่าอีก ดังนั้น เราต้องตั้งหลักให้คนไทยรักความยุติธรรมรับรู้เหตุผล สิ่งที่เขายั่วยังมีอีกหลายเรื่อง ถ้าคุมอารมณ์ไม่ได้ แล้วบอกมาช่วยอดีตนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ แต่จะเป็นการไปช่วย คสช. หรือไปเป็นขวัญกำลังใจให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี (ฝ่ายกฎหมาย) กับนายวิชา มหาคุณ กรรมการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)"
ประธาน นปช. กล่าวว่า ขบวนการเสี้ยม เป็นชุดเดียวกับการทำงานไอโอในปี 2553 โดยคนพวกนี้เชี่ยวชาญการกุข่าว เป็นนักสร้างข่าวเท็จขึ้นมาเสี้ยมเป็นอาชีพ เมื่อคนเสื้อแดงอยู่นิ่งสงบมากว่าปี แล้วมาปล่อยข่าวนัดให้ใส่เสื้อแดงแดง เพราะรู้นิสัยว่า ถ้าถูกแหย่ จะออกมาปฏิเสธ แล้วปั่นกระแสต่อว่า ไม่รักอดีตนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ แต่ถ้ายอมรับจะถูกกล่าวว่า สร้างความแตกแยก ตนจึงรู้เท่าทันคนพวกนี้ต้องการยั่วเพื่อกลบข่าว ดังนั้น ถ้าจะใส่เสื้อแดง เราจะนัดเอง ไม่ต้องมายุ่ง
นายจตุพร เชื่อว่า การเล่นงานจำนำข้าวกับอดีตนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์นั้น ป.ป.ช. คงนำไปกลบข่าวการพิจารณาการสลายการชุมนุมปี 2553 ซึ่งตนคาดว่า จะออกมาแบบคนตายเป็นคนผิด ไม่รอด และพวกคนตายก็ไม่รอด ส่วนคนสั่งรอด รวมทั้งนำมากลบข่าวที่ บริษัท ฟิลลิป มอร์ริส ที่เลี่ยงภาษีนำบุหรี่นอกราชอาณาจักรเข้าประเทศ ซึ่งต้องถูกปรับไม่ต่ำกว่า 1.6 แสนล้านบาท แต่พยายามต่อรองให้ตัวเลขไม่เกินจำนวนที่หลีกภาษี นอกจากนี้ยังมีการแต่งตั้งคนเลี่ยงภาษีนำเข้ารถนอกคนสำคัญ เป็นคณะกรรมการกรมสอบสวนคดีพิเศษ (บอร์ดดีเอสไอ) ขอให้นายวิษณุทำการบ้านเลย ซึ่งจะมาบอกว่า ไม่ใช่เรื่องที่ต้องไปสงสัยอีก
ส่วนการรับโครงการจำนำข้าวมาเล่นงานทางปกครอง นายวิษณุ ไม่สงสัยและไม่มีหน้าที่สอบถามนั้น นายจตุพร กล่าวว่า ข้อหาของ ป.ป.ช. เกี่ยวกับการปล่อยปละละเลย ไม่ใช่การทุจริต และยังไม่แปลกใจถึงการเปิดประเด็นนัด 1 พ.ย.ให้ใส่เสื้อแดง โดยไม่มีที่มาที่ไป ดังนั้น การปั่นกระแสทุจริตล้วนกระทำนอกสำนวนการกล่าวหาทั้งสิ้น รวมทั้งนายวิชา ได้ระบุถึงการขนเงิน 7 แสนล้านบาท ออกไปต่างประเทศ เมื่อถามให้แสดงหลักฐาน กลับเงียบ และที่ร้ายไปอีก คือ การทำลายระบบยุติธรรม โดยนายวิชาเรียกร้องให้ทั้ง ป.ป.ช. อัยการสูงสูด และศาล ได้ประชุมตกลงกันให้เป็นแนวทางเดียวกันตามที่ ป.ป.ช. กล่าวหาหรือชี้มูล สิ่งเหล่านี้ นายวิษณุยังไม่สงสัยอีกหรือ
นายจตุพร ถามนายวิษณุว่า ถ้า ป.ป.ช. ส่งเรื่องมาแล้ว รัฐบาลไม่มีสิทธิ์สงสัยถึงโครงการอื่น รวมทั้งโครงการรับจำนำข้าวที่อดีตนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ไม่ถูกกล่าวหาทุจริต แล้วจะมาออกคำสั่งทางปกครองเรียกค่าเสียหาย โดยก่อนหน้านี้ ยังยืนยันจะฟ้องศาลแพ่ง แต่กลับมาเลือกใช้วิธีออกคำสั่งทางปกครองแทน เป็นเพราะเหตุใด ไม่สงสัยบ้างหรือ
นายวิษณุสงสัยหรือไม่ว่า ป.ป.ช. ไม่ได้ตั้งข้อหาทุจริต แต่เป็นข้อหาปล่อยปละเลย นอกจากนี้ การยื่นถอดถอนโดยสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ยังลงมติในข้อหาปล่อยปละละเลย แต่กระแสที่มีการปั่นกันขณะนี้ กลับมุ่งประเด็นทุจริตนอกสำนวน รวมทั้งนายวิชา ได้ระบุถึงการขนเงิน 7 แสนล้านบาท ออกไปต่างประเทศ เมื่อถามให้แสดงหลักฐาน กลับเงียบ และที่ร้ายไปอีก คือ การทำลายระบบยุติธรรม โดยนายวิชาเรียกร้องให้ทั้ง ป.ป.ช. อัยการสูงสูด และ ศาล ได้ประชุมตกลงกันให้เป็นแนวทางเดียวกันตามที่ ป.ป.ช.กล่าวหาหรือชี้มูล สิ่งเหล่านี้ นายวิษณุจึงย่อมรู้แก่ใจดี
สิ่งสำคัญ คือ งบประมาณโครงการจำนำข้าวที่รัฐบาลจ่ายไป แล้วได้คืนมา และข้าวที่เหลืออยู่ ซึ่งเงินจ่ายไปนั้นไม่มีเข้าบัญชีอดีตนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์เลย แต่จ่ายตรงเข้าบัญชีชาวนา หาก ป.ป.ช. มีหลักฐานทุจริตจริง อัยการสูงสุดคงไม่โต้กลับว่า หลักฐานไม่สมบูรณ์
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โครงการของรัฐบาลที่ผ่านมา ยังไม่มีโครงการใดถูกฟ้องเรียกค่าเสียหายเลย กลับมาเล่นงานโครงการรับจำนำข้าว แต่การแจกที่ดิน ส.ป.ก 4-01 ทุจริตการสร้างโรงพักทดแทน การประกันราคาข้าว การจัดซื้ออาวุธ ซื้อ จีที 200 รถหุ้มเกราะยูเครน ล้วนเป็นโครงการที่ผ่านมติคณะรัฐมนตรีและเกิดความเสียหายทั้งสิ้น ซึ่งเงียบกันหมด ไม่มีการใช้คำสั่งทางปกครองเรียกค่าเสียหายเลย
นายจตุพร กล่าวว่า การนำโครงการรับจำนำข้าวมาเล่นงานอดีตนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์นั้น ไปไม่ได้และใกล้เมื่อถึงทางตันแล้ว จึงต้องวกกลับมายั่วให้คนเสื้อแดงออกมา ดังนั้น ขณะนี้ใครจะช่วยให้คณะผู้มีอำนาจหลุดพ้นจากเรื่องราวต่างๆ ไม่มีใครช่วยได้ นอกจากเสื้อแดงเท่านั้น โดยการนำคนเสื้อแดงไปเป็นเครื่องมือ เมื่อออกมาชุมนุมก็จะโยนปัญหาทุกอย่างมาให้รับทั้งหมด เหมือนกับออกไปรับกระสุนปี 2553 ฉะนั้นถ้าจะเดินหน้าไปข้างหน้าอีก คนเสื้อแดงต้องไม่มีอารมณ์ความสะใจ เพราะความสะใจ แล้วแพ้ไม่มีความหมาย
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น