ว่าจะไม่เขียนเรื่องนี้อีก แต่รำคาญพวกมโน แค่โอบามาจับมือก็ตีปี๊บกันใหญ่ ไม่ยอมอ่านสุนทรพจน์โอบามา (อ่านหนังสือไม่เกิน 8 บรรทัด) ซึ่งถูกละ ที่โอบามาพูดบนเวที เขาไม่ได้คิดจะพาดพิงประยุดหรอก โห ประเทศไทยมีความสำคัญแค่ไหนเชียว ก็เหมือนที่จับมือ มีความหมายแค่ไหนเชียว แค่ได้รางวัล ITU ได้เป็นประธาน G77 เพราะจีนอุ้ม ก็ไชโยโห่ร้อง โลกตะวันตกยอมรับแล้ว ลุงตู่ชนะแล้ว
ชนะใคร ชนะทักษิณ! "แม้วปิดฉากแล้ว" แม่-บ้า คิดว่าประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของโลกไม่พอ ยังเอาทักษิณเป็นศูนย์กลางของโลกด้วย
บ้าไปเหอะ จนกว่าจะเกิดเหตุอะไร แล้วสหรัฐ EU UN เขาด่าอีก ก็จะพลิกไปเป็นตุ้มไม่เข้าใจพ่อ จับมือกันแล้วทำงี้ได้ไง
อันที่จริง ตอนรัฐประหารใหม่ๆ พวกแดงส่วนหนึ่งก็คิดนะครับ หวังว่าอเมริกาจะแทรกแซง เหมือนกันละ ประเทศไทยสำคัญแค่ไหนเชียว บอยคอตต์ แซงก์ชั่น ไม่ร้อก ฝรั่งก็มีผลประโยชน์การค้าการลงทุน เพียงแต่ฝรั่งมันก็มีหัวคิด เศรษฐกิจอย่างนี้ การเมืองอย่างนี้ เรื่องไรจะเสี่ยงลงทุนระยะยาว ถ้าฉาบฉวยก็เอา ไอ้ที่ทำอยู่ถ้ากำไรก็ทำไป แต่ไม่ลงทุนเพิ่มโดยไม่จำเป็น นี่เป็นเรื่องธรรมดา
ทั้งหมดมันอยู่ที่ภายในชี้ขาด ออกหัวออกก้อย คอยดูเหอะน่า 6 เดือนนี้ต้องเห็นอะไรซักอย่าง เพราะทางการเมืองจะต้องร่างรัฐธรรมนูญให้ได้ (ซึ่งวันนี้ยังไม่เห็นอะไรเลย แต่อีก 2-3 วันจะจุดชนวนตั้งแต่ประกาศชื่อ) ทางเศรษฐกิจ 3 เดือนสุดท้ายของปีคือเทศกาลใช้จ่าย แต่ 3 เดือนแรกของปีหน้า คือ 3 เดือนที่จะชี้ชะตาสมคิด
00000
"ประวัติศาสตร์ในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมาพิสูจน์แล้วว่า เผด็จการวันนี้เป็นตัวจุดประกายให้คนออกมาต่อสู้ในวันหน้า คุณอาจจะกักขังฝ่ายตรงข้ามคุณได้ แต่จำคุกความคิดพวกเขาไม่ได้ คุณอาจจะลองควบคุมข่าวสารข้อมูลดูก็ได้ แต่คุณเปลี่ยนเรื่องโกหกให้เป็นสัจธรรมไม่ได้หรอก"
อ้าวสุนทรพจน์โอบามาว่าใคร? คนไทยที่ต่อต้าน "ลุงตู่" ชี้นิ้วว่านี่ไง คนไทยที่เชียร์ก็บอกว่าไม่ใช่ เพราะโอบามายังลงมาจับไม้จับมือ
โหคนไทยนี่นะ ทะเลาะกันจนสำคัญว่าตัวเองเป็นศูนย์กลางของโลก ประเทศไทยสำคัญถึงขั้นโอบามาต้องพูดกระทบต่อหน้าผู้นำ 193 ประเทศเลยหรือ โอบามาพูดหลักทั่วไป ถ้าตั้งใจก็คงพาดพิงซีเรีย เพราะกำลังถกกับรัสเซียอย่างซีเรียส
ทำนองเดียวกัน เวทีโลกไม่ว่าที่ไหน ผู้นำประเทศต้องจับมือถ่ายภาพ ถ้ามัวเลือกว่านี่มาจากรัฐประหาร นี่ได้อำนาจไม่ชอบธรรม นี่ขี้โกง ฯลฯ คงต้องเอามือล้วงกระเป๋า เผาพิธีการทูตทิ้ง
นายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนประเทศไทยไปประชุมสมัชชาใหญ่วาระครบ 70 ปี แม้มีอีกหมวกเป็นผู้นำรัฐประหาร แต่นานาชาติก็ต้องให้เกียรติประเทศไทย ไม่มีหรอกที่จะ "จัดหนัก" ต่อหน้าธารกำนัล เว้นเสียแต่เป็นอาชญากรฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ (ซึ่งเขาก็ไม่ให้ไปประชุม) ฉะนั้นจึงมีผู้นำที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ไปกันเยอะแยะ
หน้า UN จึงมีผู้ประท้วงมากมาย ไม่ได้มีแค่คนไทย เพียงแต่คนไทยทำให้ฝรั่งทึ่ง เพราะมีทั้งฝ่ายต้านฝ่ายเชียร์ข้ามโลก (น่าจะข้ามไปถึงดาวอังคาร)
ใครที่ตีปี๊บตีความว่าฝรั่งเข้าข้าง ก็ระวังหน้าแหก เพราะไม่ได้มีสัญญาณพิเศษ รางวัล ITU ก็เป็นผลงานของประเทศใน 2 ทศวรรษ การได้เป็นประธาน G77 ก็ต้องบอกว่าชื่อเต็ม คือ Group of 77 and China โดยท่านนายกฯ ได้เจรจาทวิภาคีกับหลายประเทศ เช่น แอนติกาและบาร์บูดา สาธารณรัฐเช็ก และฟิจิ
ส่วนที่สหรัฐเพิ่งส่งทูตคนใหม่ก็ไม่มีอะไรพิสดาร เพราะก่อนนี้มีคนทักว่าตั้งทูตช้า กระทรวงต่างประเทศก็ชี้แจงว่าเป็นปัญหาการเมืองภายในของสหรัฐเอง
ด้านกลับกันการต่อต้านก็ไม่มีผล สหรัฐ อียู ยังเป็น "มิตรประเทศ" แต่ก็คงท่าทีเหมือนปีเศษๆ ที่ผ่านมาคือ "เรียกร้องให้กลับสู่เลือกตั้ง" แต่ก็ไม่แทรกแซง เว้นแต่แสดงท่าทีห่วงใยเป็นพักๆ เช่น อียูแถลงให้เคารพเสรีภาพในการพูดการชุมนุม บัน คีมุนพบนายกฯ ก็แสดงความกังวลต่อพื้นที่ประชาธิปไตยที่แคบลง ฯลฯ แต่ยังไงๆ ก็ยังทำมาค้าขาย ท่องเที่ยว ส่งทูตไปมา เพียงแต่การเจรจาบางระดับเช่น TPP FTA ต้องพักไว้
ซึ่งประเทศไทยยุค "เลิกยืมจมูกคนอื่นหายใจ" ก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรไม่ใช่หรือ
เรื่องประหลาดคือคนไทยกลุ่มที่เคยเกลียดฝรั่งนัก กลับอยากเห็นฝรั่งเชียร์ พยายามกันจังที่จะให้ฝรั่งซึ่งเชื่อประชาธิปไตยหันมาสนับสนุนรัฐประหาร ต่อให้คนไทย ชูป้าย "รักลุงตู่" เป็นล้านๆ ถามว่าเปลี่ยนใจเขาได้หรือ
รัฐบาล ตะวันตกคงท่าที 2 ด้านมาตั้งแต่รัฐประหาร ด้านหนึ่งคือผลประโยชน์การค้าการลงทุน ที่ยังไงก็ต้องรักษา แต่ตราบใดที่เห็นว่าการเมืองยังไม่กลับสู่ประชาธิปไตยปกติ เขาก็ลงทุนค้าขายอย่างระมัดระวัง อีกด้านหนึ่งคือความเป็น "ประเทศเสรี" ที่สื่อและประชาชนยึดมั่นเสรีภาพในการแสดงออกและสิทธิมนุษยชน ฉะนั้นต่อให้โดนัลด์ ทรัมพ์ ชนะเลือกตั้ง ก็ยังไม่กล้าสวนกระแสมาเชียร์มาตรา 44
มีแต่คนไทยเท่านั้น มั้ง ที่คิดว่าฝรั่งไม่เห็นด้วยกับรัฐประหารเพราะทักษิณล็อบบี้ ทักษิณซื้อได้ตั้งแต่บีบีซี วอชิงตันโพสต์ นิวยอร์กไทม์ ไปถึงอุยกูร์ พอ "ลุงตู่" ได้ จับมือกับโอบามาก็ตีปีกว่า "แม้วปิดฉากแล้ว"
เชื่อว่าตัวเองเป็นศูนย์กลางของโลกไม่พอ ยังเชื่อว่า "แม้ว" เป็นศูนย์กลางของโลกด้วย
คนไทยไม่น้อยยังเชื่อนะว่า อเมริกาไม่อยากให้ไทยอยู่ใต้อิทธิพลจีน ข้างหนึ่งก็ฝันว่าอเมริกาจะแทรกแซง อีกข้างก็ฝันว่าอเมริกาจะงอนง้อ โห เขาวุ่นวายกันอยู่แถวตะวันออกกลาง ยุโรปตะวันออกโน้น ประเทศไทยไม่สำคัญปานนั้นหรอก
ทั้งหมดเป็นปัญหาภายในของ เรา จะหาทางลงกันอย่างไร จะจบสวยหรือเอาหัวลงต่างเท้า อยู่ที่เรา เขาทำอะไรไม่ได้มาก นอกจากห่วงใยในฐานะมิตรประเทศ ที่เชื่อว่าวิถีประชาธิปไตยเท่านั้นนำไปสู่สันติ ฉะนั้นใครฟังโอบามาแล้วบอกว่า "ท่องคาถา" ก็เอาที่สบายใจ ถ้าไม่เชื่อว่าเป็น "สัจธรรม" เดี๋ยวก็ได้เห็นเอง
อ้าวสุนทรพจน์โอบามาว่าใคร? คนไทยที่ต่อต้าน "ลุงตู่" ชี้นิ้วว่านี่ไง คนไทยที่เชียร์ก็บอกว่าไม่ใช่ เพราะโอบามายังลงมาจับไม้จับมือ
โหคนไทยนี่นะ ทะเลาะกันจนสำคัญว่าตัวเองเป็นศูนย์กลางของโลก ประเทศไทยสำคัญถึงขั้นโอบามาต้องพูดกระทบต่อหน้าผู้นำ 193 ประเทศเลยหรือ โอบามาพูดหลักทั่วไป ถ้าตั้งใจก็คงพาดพิงซีเรีย เพราะกำลังถกกับรัสเซียอย่างซีเรียส
ทำนองเดียวกัน เวทีโลกไม่ว่าที่ไหน ผู้นำประเทศต้องจับมือถ่ายภาพ ถ้ามัวเลือกว่านี่มาจากรัฐประหาร นี่ได้อำนาจไม่ชอบธรรม นี่ขี้โกง ฯลฯ คงต้องเอามือล้วงกระเป๋า เผาพิธีการทูตทิ้ง
นายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนประเทศไทยไปประชุมสมัชชาใหญ่วาระครบ 70 ปี แม้มีอีกหมวกเป็นผู้นำรัฐประหาร แต่นานาชาติก็ต้องให้เกียรติประเทศไทย ไม่มีหรอกที่จะ "จัดหนัก" ต่อหน้าธารกำนัล เว้นเสียแต่เป็นอาชญากรฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ (ซึ่งเขาก็ไม่ให้ไปประชุม) ฉะนั้นจึงมีผู้นำที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ไปกันเยอะแยะ
หน้า UN จึงมีผู้ประท้วงมากมาย ไม่ได้มีแค่คนไทย เพียงแต่คนไทยทำให้ฝรั่งทึ่ง เพราะมีทั้งฝ่ายต้านฝ่ายเชียร์ข้ามโลก (น่าจะข้ามไปถึงดาวอังคาร)
ใครที่ตีปี๊บตีความว่าฝรั่งเข้าข้าง ก็ระวังหน้าแหก เพราะไม่ได้มีสัญญาณพิเศษ รางวัล ITU ก็เป็นผลงานของประเทศใน 2 ทศวรรษ การได้เป็นประธาน G77 ก็ต้องบอกว่าชื่อเต็ม คือ Group of 77 and China โดยท่านนายกฯ ได้เจรจาทวิภาคีกับหลายประเทศ เช่น แอนติกาและบาร์บูดา สาธารณรัฐเช็ก และฟิจิ
ส่วนที่สหรัฐเพิ่งส่งทูตคนใหม่ก็ไม่มีอะไรพิสดาร เพราะก่อนนี้มีคนทักว่าตั้งทูตช้า กระทรวงต่างประเทศก็ชี้แจงว่าเป็นปัญหาการเมืองภายในของสหรัฐเอง
ด้านกลับกันการต่อต้านก็ไม่มีผล สหรัฐ อียู ยังเป็น "มิตรประเทศ" แต่ก็คงท่าทีเหมือนปีเศษๆ ที่ผ่านมาคือ "เรียกร้องให้กลับสู่เลือกตั้ง" แต่ก็ไม่แทรกแซง เว้นแต่แสดงท่าทีห่วงใยเป็นพักๆ เช่น อียูแถลงให้เคารพเสรีภาพในการพูดการชุมนุม บัน คีมุนพบนายกฯ ก็แสดงความกังวลต่อพื้นที่ประชาธิปไตยที่แคบลง ฯลฯ แต่ยังไงๆ ก็ยังทำมาค้าขาย ท่องเที่ยว ส่งทูตไปมา เพียงแต่การเจรจาบางระดับเช่น TPP FTA ต้องพักไว้
ซึ่งประเทศไทยยุค "เลิกยืมจมูกคนอื่นหายใจ" ก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรไม่ใช่หรือ
เรื่องประหลาดคือคนไทยกลุ่มที่เคยเกลียดฝรั่งนัก กลับอยากเห็นฝรั่งเชียร์ พยายามกันจังที่จะให้ฝรั่งซึ่งเชื่อประชาธิปไตยหันมาสนับสนุนรัฐประหาร ต่อให้คนไทย ชูป้าย "รักลุงตู่" เป็นล้านๆ ถามว่าเปลี่ยนใจเขาได้หรือ
รัฐบาล ตะวันตกคงท่าที 2 ด้านมาตั้งแต่รัฐประหาร ด้านหนึ่งคือผลประโยชน์การค้าการลงทุน ที่ยังไงก็ต้องรักษา แต่ตราบใดที่เห็นว่าการเมืองยังไม่กลับสู่ประชาธิปไตยปกติ เขาก็ลงทุนค้าขายอย่างระมัดระวัง อีกด้านหนึ่งคือความเป็น "ประเทศเสรี" ที่สื่อและประชาชนยึดมั่นเสรีภาพในการแสดงออกและสิทธิมนุษยชน ฉะนั้นต่อให้โดนัลด์ ทรัมพ์ ชนะเลือกตั้ง ก็ยังไม่กล้าสวนกระแสมาเชียร์มาตรา 44
มีแต่คนไทยเท่านั้น มั้ง ที่คิดว่าฝรั่งไม่เห็นด้วยกับรัฐประหารเพราะทักษิณล็อบบี้ ทักษิณซื้อได้ตั้งแต่บีบีซี วอชิงตันโพสต์ นิวยอร์กไทม์ ไปถึงอุยกูร์ พอ "ลุงตู่" ได้ จับมือกับโอบามาก็ตีปีกว่า "แม้วปิดฉากแล้ว"
เชื่อว่าตัวเองเป็นศูนย์กลางของโลกไม่พอ ยังเชื่อว่า "แม้ว" เป็นศูนย์กลางของโลกด้วย
คนไทยไม่น้อยยังเชื่อนะว่า อเมริกาไม่อยากให้ไทยอยู่ใต้อิทธิพลจีน ข้างหนึ่งก็ฝันว่าอเมริกาจะแทรกแซง อีกข้างก็ฝันว่าอเมริกาจะงอนง้อ โห เขาวุ่นวายกันอยู่แถวตะวันออกกลาง ยุโรปตะวันออกโน้น ประเทศไทยไม่สำคัญปานนั้นหรอก
ทั้งหมดเป็นปัญหาภายในของ เรา จะหาทางลงกันอย่างไร จะจบสวยหรือเอาหัวลงต่างเท้า อยู่ที่เรา เขาทำอะไรไม่ได้มาก นอกจากห่วงใยในฐานะมิตรประเทศ ที่เชื่อว่าวิถีประชาธิปไตยเท่านั้นนำไปสู่สันติ ฉะนั้นใครฟังโอบามาแล้วบอกว่า "ท่องคาถา" ก็เอาที่สบายใจ ถ้าไม่เชื่อว่าเป็น "สัจธรรม" เดี๋ยวก็ได้เห็นเอง
source : FB Atukkit Sawangsuk & http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1443712561