แกนนำพรรคเพื่อไทย ยื่นหนังสือ ผู้ว่าฯสตง. เรียกเงินคืนจาก "ภักดี โพธิศิริ" ที่ขาดคุณสมบัติ แต่อยู่ในตำแหน่ง ป.ป.ช.มาตั้งแต่ปี 2549
************************************
ที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ พร้อมนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย ยื่นหนังสือต่อผู้ว่าฯสตง. เพื่อให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ในการเรียกเงินคืนจากนายภักดี โพธิศิริ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง คือตั้งแต่วันที่ 22 กันยายน 2549 เป็นต้นมา
.
เนื่องจากนายภักดี ขาดคุณสมบัติและสถานะของนายภักดี ที่เข้ารับตำแหน่งเมื่อ วันที่ 22 กันยายน ปี 2549 นั้น ยังไม่ได้ลาออกจากการเป็นกรรมการบริษัทองค์กรเภสัชกรรม – เมอร์ริเออร์ชีวะวัตถุ จำกัด โดยหลักฐานการจดทะเบียนของบริษัทดังกล่าวได้แจ้งต่อสำนักงานจดทะเบียนหุ้นส่วนจำกัดบริษัทฉะเชิงเทรา ระบุว่า นายภักดีลาออกจากการเป็นกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2549 ซึ่งเกินกำหนดที่นายภักดีจะต้องลาออก คือ ภายใน 15 วัน แต่นายภักดีเข้ารับตำแหน่งกรรมการ ป.ป.ช.แล้วมากกว่า 2 เดือนล่วงเข้าเดือนที่ 3 จึงลาออกจากบริษัทองค์กรเภสัชกรรม – เมอร์ริเออร์ชีวะวัตถุ จำกัด ซึ่งเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด
.
การยื่นหนังสือครั้งนี้สืบเนื่องจากได้ยื่น สตง.ให้ตรวจสอบกรณีการจ่ายเงินเดือนและผลตอบแทนให้กับนายภักดี เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2557 และ สตง.ได้ตรวจสอบแล้วพบว่า นายภักดีไม่ได้เป็นกรรมการ ป.ป.ช. เพราะไม่ได้ลาออกจากการเป็นกรรมการบริษัทดังกล่าวภายใน 15 วัน ตามที่กฎหมายกำหนด และสตง.ก็ได้ส่งเรื่องให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2558 ให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่แล้ว แต่ยังไม่มีความคืบหน้า โดยนายภักดิ์ดี อยู่ในตำแหน่งรับเงินเดือนและค่าตอบแทนในฐานะ กรรมการ ป.ป.ช.มาแล้ว 9 ปีเศษ
.
นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ยืนยันว่าจะดำเนินการตามขั้นตอนอย่างเร่งด่วน เพื่อปกป้องผลประโยชน์และเงินตราของแผ่นดิน โดยจะตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมและรายละเอียดที่จะดำเนินการ ซึ่งคาดว่าจะไม่ใช้เวลามาก เพราะ สตง.ได้ตรวจสอบนายภักดีมาแล้วก่อนหน้านี้
.
เนื่องจากนายภักดี ขาดคุณสมบัติและสถานะของนายภักดี ที่เข้ารับตำแหน่งเมื่อ วันที่ 22 กันยายน ปี 2549 นั้น ยังไม่ได้ลาออกจากการเป็นกรรมการบริษัทองค์กรเภสัชกรรม – เมอร์ริเออร์ชีวะวัตถุ จำกัด โดยหลักฐานการจดทะเบียนของบริษัทดังกล่าวได้แจ้งต่อสำนักงานจดทะเบียนหุ้นส่วนจำกัดบริษัทฉะเชิงเทรา ระบุว่า นายภักดีลาออกจากการเป็นกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2549 ซึ่งเกินกำหนดที่นายภักดีจะต้องลาออก คือ ภายใน 15 วัน แต่นายภักดีเข้ารับตำแหน่งกรรมการ ป.ป.ช.แล้วมากกว่า 2 เดือนล่วงเข้าเดือนที่ 3 จึงลาออกจากบริษัทองค์กรเภสัชกรรม – เมอร์ริเออร์ชีวะวัตถุ จำกัด ซึ่งเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด
.
การยื่นหนังสือครั้งนี้สืบเนื่องจากได้ยื่น สตง.ให้ตรวจสอบกรณีการจ่ายเงินเดือนและผลตอบแทนให้กับนายภักดี เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2557 และ สตง.ได้ตรวจสอบแล้วพบว่า นายภักดีไม่ได้เป็นกรรมการ ป.ป.ช. เพราะไม่ได้ลาออกจากการเป็นกรรมการบริษัทดังกล่าวภายใน 15 วัน ตามที่กฎหมายกำหนด และสตง.ก็ได้ส่งเรื่องให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2558 ให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่แล้ว แต่ยังไม่มีความคืบหน้า โดยนายภักดิ์ดี อยู่ในตำแหน่งรับเงินเดือนและค่าตอบแทนในฐานะ กรรมการ ป.ป.ช.มาแล้ว 9 ปีเศษ
.
นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ยืนยันว่าจะดำเนินการตามขั้นตอนอย่างเร่งด่วน เพื่อปกป้องผลประโยชน์และเงินตราของแผ่นดิน โดยจะตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมและรายละเอียดที่จะดำเนินการ ซึ่งคาดว่าจะไม่ใช้เวลามาก เพราะ สตง.ได้ตรวจสอบนายภักดีมาแล้วก่อนหน้านี้
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น