จาตุรนต์ ฉายแสง อุทธรณ์ยกเลิกหนังสือเดินทาง ระบุกระบวนการของสตช.และกระทรวงต่างประเทศขัดต่อกฎหมาย
นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า เมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมาได้ยื่นหนังสือถึงกระทรวงต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขอให้ทบทวนการยกเลิกหนังสือเดินทางของตน เนื่องจากคำสั่งยกเลิกดังกล่าวเป็นคำสั่งที่ผิดกฎหมาย และทำให้ตนได้รับความเสียหายอย่างมาก
นายจาตุรนต์กล่าวในสเตตัสเฟซบุ๊กว่า เหตุผลที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติขอให้กระทรวงต่างประเทศยกเลิกหนังสือเดินทางของตนโดยระบุว่าเพราะเป็นบุคคลมีหมายจับนั้นเป็นเรื่องไม่จริง เพราะตนไม่มีหมายจับและทั้งไม่ได้เดินทางไปต่างประเทศ และหากเป็นเรื่องที่ถูกดำเนินคดีในศาลทหาร ก็สืบเนื่องจากตนถูกควบคุมตัวโดยสมัครใจไม่ได้มีการออกหมายจับใดๆทั้งสิ้น ขณะที่ถูกดำเนินคดีในศาลทหารก็ได้รับอนุญาตให้ประกันตัวโดยมีเงื่อนไขหากจะเดินทางไปต่างประเทศต้องได้รับอนุญาตจากศาล นายจาตุรนต์ระบุว่า เหตุผลที่อ้างจึงไม่น่าจะใช่เหตุผลที่แท้จริง เหตุผลจริงที่ยกเลิกน่าจะเป็นเรื่องอันเนื่องมาจากการที่ตนแสดงความเห็นเรื่องร่างกฎหมายรัฐธรรมนูญไม่เป็นประชาธิปไตยทำให้ผู้มีอำนาจบางคนไม่พอใจมากกว่า และเมื่อการยกเลิกหนังสือเดินทางไม่ได้มีเหตุผลดังกล่าว การกระทำของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงถือว่าเลือกปฏิบัติและขัดกับรัฐธรรมนูญและกฎหมายระหว่างประเทศ
นายจาตุรนต์เขียนอีกว่า ในแง่ของข้อกฎหมาย สตช.ไม่มีอำนาจในอันที่จะขอให้กระทรวงต่างประเทศยกเลิก แม้ว่าจะมีระเบียบให้เป็นผู้แจ้งต่อกระทรวงว่าใครมีหมายจับและควรออกหนังสือเดินทางหรือไม่ แต่เมื่อได้หนังสือเดินทางแล้วสตช.มีหน้าที่เพียงให้ข้อมูล ไม่มีอำนาจสั่งการหรือร้องขอ เรื่องนี้เป็นดุลพินิจของกระทรวง ในขณะเดียวกัน คดีของตนอยู่ในอำนาจของศาล อำนาจในการแจ้งระงับหนังสือเดินทางจึงเป็นอำนาจของศาลทหารเท่านั้น การขอให้กระทรวงยกเลิกหนังสือเดินทางจึงเป็นเรื่องสุ่มเสี่ยงว่าจะผิดกฎหมายและ “หมิ่นประมาทผมด้วยข้อความที่เป็นเท็จ”
นอกจากนั้นนายจาตุรนต์ยังระบุอีกว่า กระทรวงต่างประเทศเอง แม้จะได้รับหนังสือจากสตช.แต่ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าตนมีหมายจับจริงหรือไม่ เป็นบุคคลเดินทางไปต่างประเทศจริงหรือไม่อย่างไร ไม่ใช่ทำตามสตช.โดยทันที พร้อมกับระบุว่า ตนไม่เคยได้รับการสอบถามจากกระทรวงต่างประเทศและไม่มีโอกาสโต้แย้ง กระบวนการทำงานของกระทรวงจึงขัดต่อพ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง 2539 มาตรา 30 และยังกล่าวอีกว่า กระทรวงไม่อาจจะอ้างข้อยกเว้นว่าไม่จำเป็นต้องแจ้ง เพราะไม่มีเหตุฉุกเฉินใดๆที่จะใช้อ้างได้ นายจาตุรนต์ยังระบุอีกว่า การยกเลิกหนังสือเดินทางนี้ขัดต่อหลักเสรีภาพในการเดินทางที่รับรองโดยกฎหมายระหว่างประเทศเช่นปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน นอกจากนั้นยังเป็นการเลือกปฏิบัติเพราะในบรรดาผู้ถูกดำเนินคดีโดยศาลทหารนั้น คนจำนวนมากไม่ถูกยกเลิกหนังสือเดินทาง ตนเองก็ไม่เคยมีพฤติการณ์หลบหนี การที่ตนจะมีหนังสือเดินทางไว้ไม่ได้กระทบต่อความมั่นคง
นายจาตุรนต์กล่าวว่า การถูกยกเลิกหนังสือเดินทางทำให้ตนเสียเสรีภาพในการเดินทาง เสียหายต่อชื่อเสียง ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และเสียหายต่อหลักนิติรัฐนิติธรรมและสาธารณะโดยรวม จึงขอให้เพิกถอนคำสั่งยกเลิกหนังสือเดินทาง และในระหว่างที่พิจารณาขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุเลาการบังคับใช้จนกว่าจะมีการวินิจฉัยคำอุทธรณ์
ในภาพ นายจาตุรนต์ในวันที่ไปยื่นหนังสือขอทราบเหตุผลการยกเลิกหนังสือเดินทางเมื่อ 3 ก.ย.