0


พบการระบาดของกาฬโรคในยุคสำริด

ผลการศึกษาของคณะนักวิจัยในเดนมาร์กพบว่า เชื้อกาฬโรค แพร่ระบาดในมนุษย์มาตั้งแต่ยุคสำริด ซึ่งยาวนานกว่าที่คาดกันไว้ถึง 2,000 ปี

ผลการศึกษาครั้งนี้ตีพิมพ์ในวารสาร Cell โดยนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกน ทำการศึกษาดีเอ็นเอจากโครงกระดูกโบราณ 101 โครง แล้วพบว่า ตัวอย่างฟันของโครงกระดูก 7 โครงจากยุโรปตะวันตกและเอเชียกลาง มีร่องรอยการติดเชื้อแบคทีเรีย Yersinia pestis ซึ่งเป็นเชื้อที่ก่อให้เกิดกาฬโรค โดยหนึ่งในโครงกระดูกที่พบการติดเชื้อนั้นมีอายุเก่าแก่ถึง 5,783 ปี

นักวิจัยพบว่าเชื้อแบคทีเรีย Yersinia pestis ในยุคนั้นก่อให้เกิดกาฬโรคแบบโลหิตเป็นพิษ และกาฬโรคปอด แต่ยังไม่สามารถทำให้เกิดกาฬโรคต่อมน้ำเหลืองหรือแพร่ระบาดโดยมีหมัดหนูเป็นพาหะได้เหมือนในปัจจุบัน ความสามารถดังกล่าวเพิ่งจะพัฒนาขึ้นในช่วงราว 1,000 ปีก่อนคริสตกาล

จากการวิเคราะห์รหัสพันธุกรรมของเชื้อแบคทีเรียชนิดนี้พบว่า เชื้อได้กลายพันธุ์ทำให้เกิดยีนชื่อ ymt ซึ่งช่วยให้เชื้อสามารถมีชีวิตอยู่ในลำไส้ของหมัดได้ ถือเป็นหนึ่งในการกลายพันธุ์ครั้งสำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ของกาฬโรค ส่งผลให้เชื้อแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ เชื้อยังได้พัฒนายีนอีกตัวที่ชื่อ pla ซึ่งช่วยให้สามารถแพร่เข้าไปยังเนื้อเยื่อต่างๆจนทำให้เกิดกาฬโรคต่อมน้ำเหลืองขึ้

ศ. เอสเกอ วิลเลอร์สเลียฟ หัวหน้าทีมวิจัยบอกว่า กาฬโรคแพร่ระบาดมายาวนานกว่าที่เราคาดกันไว้ถึง 2,000 ปี และเชื่อว่า โรคชนิดนี้อาจมีอิทธิพลอย่างมากต่อประชากรมนุษย์ในยุคต้น ๆ เพราะการศึกษาหลายชิ้นก่อนหน้านี้บ่งชี้ว่า แทนที่ประชากรชาวยุโรปจะค่อย ๆ เพิ่มขึ้น แต่กลับลดลงถึง 60% ในบางช่วงของประวัติศาสตร์ ซึ่งคาดว่าน่าจะมีสาเหตุมาจากการระบาดของกาฬโรค

ประวัติศาสตร์มนุษย์ได้บันทึกการระบาดของกาฬโรคเอาไว้ 3 ครั้งใหญ่ โดยครั้งแรกเป็นการระบาดที่เรียกว่า The Justinian pandemic เริ่มขึ้นในปี ค.ศ. 541 ทำให้มีผู้เสียชีวิต 25 ล้านคน ส่วนครั้งที่ 2 เรียกว่า The Black Death (กาฬมรณะ) เกิดขึ้นในประเทศจีนเมื่อปี ค.ศ. 1334 และได้คร่าชีวิตประชากรในยุโรปไปครึ่งหนึ่ง ส่วนการระบาดครั้งที่ 3 เกิดขึ้นในจีน ช่วงคริสต์ทศวรรษ 1860 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 10 ล้านคน

อย่างไรก็ตาม มีข้อมูลหลายชิ้นบ่งชี้ว่า เคยมีกาฬโรคระบาดในกรุงเอเธนส์ เมื่อ 430 ปีก่อนคริสตกาล ปัจจุบันยังคงพบกาฬโรคในบางประเทศ โดยเมื่อ 2 ปีก่อน มีรายงานผู้ติดเชื้อกาฬโรค 783 ราย ซึ่งรวมถึงผู้เสียชีวิต 126 ราย แม้การติดเชื้อส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นในทวีปแอฟริกา แต่ยังคงพบผู้ติดเชื้อกาฬโรคในสหรัฐฯ ด้วย
#Plague

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

 
Top