เหตุตาลีบันยึดเมืองคุนดุซอาจกระตุ้นให้เกิดการเจรจาสันติภาพ
จัสติน โรว์แลตต์ ผู้สื่อข่าวบีบีซี บอกว่าเหตุสู้รบอย่างดุเดือดระหว่างกองทัพอัฟกานิสถานและกลุ่มตาลีบันที่เข้ายึดครองเมืองคุนดุซ ไม่ได้หมายความว่าการเจรจาสันติภาพระหว่างสองฝ่ายจะปิดฉากลงเสมอไป แต่น่าจะยิ่งทำให้มีแนวโน้มที่ทั้งสองฝ่ายจะหวนคืนสู่โต๊ะเจรจาสันติภาพอีกครั้ง
การที่ตาลีบันเข้ายึดครองเมืองคุนดุซ เป็นการแสดงให้เห็นว่าตนยังเป็นกลุ่มนักรบที่น่าเกรงขาม แต่ขณะเดียวกันตาลีบันก็ไม่ได้ออกมาปฏิเสธถึงแนวคิดเรื่องการเปิดเจรจาสันติภาพกับฝ่ายรัฐบาล ผู้สังเกตการณ์หลายคนเชื่อว่า แกนนำตาลีบันรู้ดีว่า พวกตนคงไม่สามารถช่วงชิงอำนาจการปกครองอัฟกานิสถานกลับมาได้เหมือนเดิม ดังนั้นจึงจำใจต้องยอมรับความเสียเปรียบทางการเมืองไปบางประการ นอกจากนี้ ตาลีบันยังอาจมองว่าการยึดเมืองคุนดุซ เป็นเครื่องมือที่จะช่วยเพิ่มอำนาจในการเจรจาต่อรองกับฝ่ายรัฐบาล
กรณีที่เกิดขึ้นเป็นการยืนยันว่าเกมการเมืองระหว่างรัฐบาลอัฟกานิสถานกับตาลีบันอาจไม่จบลงง่ายๆ ขณะเดียวกันก็เป็นการบีบให้สหรัฐฯ ต้องทบทวนนโยบายทางการทหารในอัฟกานิสถานอีกครั้ง ทั้งที่แต่เดิมตั้งเป้าว่าจะถอนกำลังทหารทั้งหมดออกจากอัฟกานิสถานภายในสิ้นปีหน้า
นายโมฮัมหมัด โอมาร์ เดาไซ อดีตรัฐมนตรีมหาดไทยอัฟกานิสถาน หวังว่า การที่ตาลีบันบุกยึดเมืองคุนดุซ จะกระตุ้นให้ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐฯ พิจารณาถึงทางเลือกต่าง ๆ ในการเพิ่มกำลังทหารราบในอัฟกานิสถาน ซึ่งนั่นจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กองทัพอัฟกานิสถาน และควบคุมไม่ให้ตาลีบันกลับมาแข็งแกร่งอีกในระยะยาว อีกทั้งจะยิ่งกดดันให้ตาลีบันยอมกลับเข้าร่วมโต๊ะเจรจาสันติภาพ และยังช่วยไม่ให้การทุ่มงบประมาณมหาศาลในการทำสงครามอัฟกานิสถานของสหรัฐฯ ต้องสูญเปล่า
ภาพประกอบ เจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคงอัฟกานิสถานในเมืองคุนดุซ