ในที่สุด ไทยก็ตกรถไฟอีกขบวน
ความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเอเซีย-แปซิฟิก (TPP) เริ่มจาก 4 ประเทศแรกในปี 2006 คือชิลี นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ และบรูไน แล้วเจรจาขยายรวมสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย คานาดา ญี่ปุ่น เม็กซิโก เปรู เวียดนาม และมาเลเซีย รวมขนาดศก.เป็น 40% ของโลก
เจรจาบรรลุข้อตกลงต้นสัปดาห์นี้ เป็นความตกลงศก.ที่สำคัญที่สุดในรอบ 20 ปี ไม่ใช่แค่การค้าที่ลดภาษีศุลกากร 18,000 รายการเหลือ 0% แต่รวมบริการ การลงทุน การเงิน ประกันภัย มาตรฐานการผลิตตั้งแต่วัตถุดิบไปจนถึงสินค้าสำเร็จ มาตรฐานการแข่งขันโดยไม่ยกเว้นรัฐวิสาหกิจ กำหนดมาตรฐานแรงงานและสิ่งแวดล้อมระดับสูง ทรัพย์สินทางปัญญา ฯลฯ
แต่ละประเทศได้ประโยชน์แลกกับต้นทุนที่ยอมจ่าย สหรัฐฯได้การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาเพิ่มเป็นบางส่วน (ไม่ได้ทั้งหมด เพราะคู่เจรจาถึงไงก็ไม่ยอม) ขณะที่ประเทศอื่น ๆ ก็ได้ตลาดส่งออกไปสหรัฐฯที่เปิดกว้างที่สุดเท่าที่เคยมีมา
ที่เจ็บปวดมากคือสมาชิกอาเซียนอย่าง สิงคโปร์ มาเลเซีย บรูไน เวียดนาม แยกไปขึ้นรถไฟขบวน TPP ซึ่งให้ปย.ทางศก.ยิ่งกว่า AEC ที่มีขนาดแค่ 3.5% ของโลก เวียดนามซึ่งล้าหลังไทยอย่างมากในทุกด้าน ทั้งกฎหมาย อุตสาหกรรม การค้าตปท. และรัฐวิสาหกิจ ยังกล้าแอ่นรับมาตรฐาน TPP
ตอนนี้ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ก็ได้ยื่นสมัครขอเข้าร่วม TPP ด้วยแล้ว ผลคือ อาเซียนและ AEC จะลดความสำคัญลงอย่างมาก
ตอนโอบามาเยือนไทยสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ก็ส่งเทียบเชิญไทยให้เข้าร่วมเจรจา TPP แต่รบ.ตอนนั้นบอกว่า "ขอศึกษาดูก่อน" เพราะบทเรียนสมัยทักษิณ-ไทยรักไทย ไปเจรจาเอฟทีเอไว้เยอะแยะ พอโดนพันธมิตร-เอ็นจีโอ ขับไล่ พวกนั้นก็ชูป้าย "เอฟทีเอ = ขายชาติ"!
ไม่เป็นไร เราก็ค้าขายอยู่กับลาว เขมร พม่า ไปก็แล้วกัน!

 
Top