"รมว.ยุติธรรม"ยอมรับข่าว 'ผู้ต้องหาคดี112ผูกคอตาย'
"รมว.ยุติธรรม"ยอมรับข่าว 'ผู้ต้องหาคดี112ผูกคอตาย'
พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม เผยได้รับรายงาน มีผู้ต้องหาในคดี 112 ผูกคอในเรือนจำ 1 ราย แต่ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล สั่งการให้ทำตามระเบียบกรมราชทัณฑ์แล้ว
วันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม 2558 เวลา 14:10 น. จากกรณีที่มีกระแสข่าวว่า พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา ผู้ต้องขังคดีความผิดมาตรา 112 ฆ่าตัวตายภายในเรือนจำชั่วคราว แขวงถนนนครไชยศรี ภายในมณฑลทหารบกที่ 11 ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 24 ต.ค. พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม เปิดเผยว่า ตนได้รับรายงานจาก นายวิทยา สุริยะวงค์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ว่ามีเหตุผู้ต้องขังผูกคอตายในเรือนจำ เมื่อเจ้าหน้าที่พบเห็น จึงเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่ผู้ต้องขังไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล จึงได้สั่งการให้ทำตามระเบียบกรมราชทัณฑ์ ด้วยการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง แล้วรายงานผลการสอบสวนอย่างเป็นทางการมายังสำนักงานรัฐมนตรีโดยด่วน
นายชาญเชาว์ ไชยานุกิจ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม รับผิดชอบกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า กรณีที่มีผู้ต้องขังเสียชีวิตขณะถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ต้องมีหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ พร้อมทำรายงานข้อเท็จจริง จากนั้นต้องให้แพทย์เป็นชันสูตรหาสาเหตุการชีวิตต่อไป
อีกด้านหนึ่ง ร.ต.อ.หญิง สุวนีย์ แสวงผล รองเลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินของเครือข่ายกระทำผิดมาตรา 112 ของนายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือ "หมอหยอง" แล้ว หลังจากนี้จะต้องพิจารณารายละเอียดว่ามีการแจ้งข้อหากระทำผิดใดบ้าง เข้ามูลฐานความผิดตามกฎหมายฟอกเงินที่อยู่ในอำนาจปปง.หรือไม่ เนื่องจากมาตรา 112 ยังไม่อยู่ในมูลฐานความผิดตามกฎหมายฟอกเงิน
ร.ต.อ.หญิง สุวนีย์ เผยอีกว่า ส่วนข้อหาอาวุธปืน และข้อหาปลอมแปลงเอกสาร ต้องพิจารณาในรายละเอียดพฤติการณ์ให้ครบถ้วนอีกครั้ง เช่น กรณีปลอมแปลงเอกสารว่าเป็นไปเพื่อการค้าหรือปกติธุระ มีการใช้บ่อยครั้งเพื่อได้ทรัพย์สิน อย่างไรก็ตามในวันที่ 29 ต.ค.นี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการธุรกรรม ซึ่งจะเสนอเรื่องดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมว่าปปง.มีอำนาจดำเนินการยึดและอายัดได้หรือไม่.“
อ่านต่อที่ : http://www.dailynews.co.th/crime/356396
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น