นักรณรงค์ต่อต้านการทำแท้งชาวสหรัฐถูกเนรเทศออกจากออสเตรเลีย เหตุเข้าเมืองผิดกฎหมายหลังไม่ได้รับอนุมัติวีซ่า
นายทรอย นิวแมน ถูกควบคุมตัวขณะเดินทางเข้าประเทศออสเตรเลียโดยไม่มีวีซ่าเมื่อวานนี้ (1 ต.ค.) หลังจากที่นายปีเตอร์ ดัตตัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงตรวจคนเข้าเมืองและการป้องกันพรมแดนยกเลิกวีซ่าของเขาเนื่องจากถูกร้องเรียนว่าเป็นฝ่ายต่อต้านอย่างสุดโต่งต่อทางเลือกในการทำแท้ง และอาจจะยุยงให้เกิดความรุนแรงได้
นายนิวแมนยื่นอุทธรณ์คำสั่งเนรเทศออกจากออสเตรเลียต่อศาลเมืองเมลเบิร์น และได้รับอนุญาตให้พำนักในออสเตรเลียได้ระหว่างการพิจารณาของศาล โดยทางการออสเตรเลียมีข้อโต้แย้งว่า การที่นายนิวแมนเข้ามาในประเทศนั้นอาจจะยั่วยุให้เกิดความรุนแรง โดยนายนิวแมนนั้นถูกกล่าวหาว่าเขาเคยฟ้องร้องแพทย์ที่ทำแท้งและเรียกผู้หญิงที่ทำแท้งว่าฆาตกร
นายนิวแมน หรือที่รู้จักในอีกชื่อหนึ่งว่า ทรอย นิวแมน-มาริออตติ ถูกยกเลิกวีซ่าโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงตรวจคนเข้าเมืองและการป้องกันพรมแดนเมื่อวันอังคารเนื่องถูกกล่าวหาว่า เขาเคยสนับสนุนการฆ่าแพทย์ที่ทำแท้ง โดยอ้างหลักฐานจากหนังสือเล่มหนึ่งที่ตีพิมพ์เมื่อปี 2543 แต่เขาก็ยังยืนยันเดินทางมายังประเทศออสเตรเลียแม้จะถูกยกเลิกวีซ่าไปแล้วโดยเดินทางมาถึงเมืองเมลเบิร์นเช้าวานนี้ และถูกควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่กองกำลังป้องกันเขตแดนออสเตรเลีย ขณะที่ภรรยาของเขาที่เดินทางมาด้วยได้รับอนุมัติวีซ่า และเป็นผู้เดินทางไปยื่นอุทธรณ์ต่อศาลเมลเบิร์น โดยเธอบอกกับผู้สื่อข่าวว่า เธอไม่รู้ว่าทางการออสเตรเลียคิดอะไร และคิดว่าสามีของเธอจะมาทำอะไรที่ประเทศนี้
ทั้งนี้นายนิวแมนเคยมีแผนที่จะมาพูดให้กับองค์กรในออสเตรเลียที่รณรงค์เรื่องสิทธิในการมีชีวิต เขาโพสต์เฟซบุ๊กว่าในการควบคุมตัวเขานั้นอยู่บนพื้นฐานของการโกหกอย่างมหาศาล รวมถึงความคิดที่ว่าเขาจะส่งเสริมให้เกิดความรุนแรงด้วยและยืนยันว่าตลอดชีวิต 25 ปีที่ผ่านมาของเขานั้นเต็มไปด้วยสันติภาพและการสวดภาวนา
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงตรวจคนเข้าเมืองและการป้องกันพรมแดนได้ยกเลิกวีซ่าของเขาเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา หลังจากที่ผู้แทนราษฎรจากพรรคแรงงาน นายเทอรรี บัตเลอร์ เขียนจดหมายถึงรัฐมนตรีดัตตันขอให้ปฏิเสธวีซ่าของนายนิวแมน โดยระบุว่านายนิวแมนเป็นผู้ต่อต้านชนิดสุดโต่งต่อฝ่ายสนับสนุนทางเลือกในการทำแท้ง หรือ ‘โปรชอยส์’
ขณะที่ในเว็บไซต์องค์กรของนายนิวแมนนั้นระบุว่านายนิวแมนไม่เคยส่งเสริมความรุนแรงและยังเป็นผู้เรียกร้องให้นักกิจกรรมฝ่ายสนับสนุนชีวิต ต่อต้านการทำแท้ง หรือ ‘โปรไลฟ์’ ให้ทำงานตามกลไกรัฐและกฎหมายเพื่อให้บรรลุการเปลี่ยนแปลง

 
Top