ปัญหาการทารุณเด็กจากความเชื่อเรื่องแม่มดเพิ่มขึ้นในอังกฤษ
ปัญหาการทารุณกรรมเด็กที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มดหรือถูกปีศาจร้ายเข้าสิงมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นในอังกฤษ โดยตำรวจนครบาลกรุงลอนดอน ระบุว่า ในปีนี้มีอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อดังกล่าว 60 คดี ขณะที่ปี 2557 มีรายงานอยู่ที่ 46 คดี เพิ่มขึ้น 2 เท่าจากเมื่อปี 2556 ซึ่งมีรายงานการทารุณกรรมทำนองนี้ 23 คดี
จากการตรวจสอบของบีบีซี พบว่า หน่วยงานตำรวจในสหราชอาณาจักรกว่าครึ่งไม่ได้บันทึกข้อมูลคดีทารุณกรรมเด็กประเภทนี้ ขณะที่หน่วยงานท้องถิ่นหลายแห่งไม่สามารถให้ตัวเลขเกี่ยวกับคดีเหล่านี้ได้
NSPCC องค์กรป้องกันการทารุณกรรมเด็ก ระบุว่า เป็นเรื่องสำคัญที่เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องจะต้องมีความรู้ความสามารถในการมองหาสัญญาณที่บ่งชี้ถึงการทำทารุณกรรมประเภทนี้ เนื่องจากเป็นการทำร้ายที่มีความรุนแรงมาก เช่นเมื่อปีที่แล้ว มีกรณีแม่ทำร้ายลูกโดยกัดเข้าที่ใบหน้าและทุบตี รวมทั้งพยายามจุดไฟเผาเพราะเชื่อว่าลูกเป็นแม่มดและถูกวิญญาณร้ายบงการ ส่วนเด็กชาย 9 ขวบอีกคนหนึ่ง ถูกไล่ออกจากบ้านเพราะเชื่อว่าเป็นลูกปีศาจ โดยเจ้าหน้าที่มาพบเด็กเดินเท้าเปล่าอยู่ข้างถนนในเวลาต่อมา
ในกรุงลอนดอน มีหน่วยงานตำรวจที่ชื่อ Project Violet ซึ่งรับผิดชอบปัญหาการทารุณกรรมเด็กที่มีสาเหตุมาจากเรื่องศาสนาและความเชื่อโดยเฉพาะ เทอร์รี ชาร์ปี ทีมงานของ Project Violet ระบุว่า คดีประเภทนี้มีจำนวนไม่มาก แต่ก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน อีกทั้งยังมีความรุนแรงมาก โดยเป็นการทำร้ายทางร่างกาย และบางรายรุนแรงถึงขั้นที่เหยื่อตัดสินใจฆ่าตัวตาย
เดบบี้ อาริโย ผู้ก่อตั้งองค์กร Africans Unite Against Child Abuse บอกว่า กรณีที่พบส่วนใหญ่เด็กถูกทำร้ายเพราะผู้ปกครองเชื่อว่า เด็กเป็นแม่มด หรือถูกปีศาจร้ายเข้าสิง ซึ่งเด็กที่เป็นเหยื่อส่วนมากมักเป็นลูกเลี้ยง และบางรายก็เป็นกรณีที่บาทหลวงกล่าวหาว่าเด็กถูกผีสิงเพราะต้องการหารายได้จากการทำพิธีไล่ผี การทารุณกรรมประเภทนี้พบในหลายกลุ่มวัฒนธรรม อาทิ ในหมู่ชาวแอฟริกัน และชาวเอเชียใต้
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น