"จตุพร" ย้ำคนสั่งคว่ำ รธน. หน้าหนายิ่งกว่านักการเมือง โกหกซ้ำซาก กล้าโยนผิดให้พรรคการเมือง ระบุ คนคว่ำ 135 เสียง เป็น ขรก. ใหญ่ ยศนายพล ไม่มีใครสั่งได้ นอกจากคนมีอำนาจพวกกันเอง
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ตอบโต้การลงมติคว่ำร่างรัฐธรรมนูญว่า พรรคการเมือง และนักการเมืองไม่เกี่ยวข้อง แต่คนสั่งการกลับโยนความผิดให้ ซึ่งเป็นพวกที่โกหกเก่ง แถมหน้าด้านกล่าวหาคนอื่นให้รับผิดแทนตัวเองได้อย่างไม่ละอาย
พร้อมกับกล่าวว่า สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ทั้ง 135 ที่ลงมติคว่ำร่าง รธน. มีทั้งปลัดกระทรวง นายพล แล้วใครจะสั่งให้คนเหล่านี้ให้คว่ำได้ นอกจากคนมีอำนาจสั่งการเท่านั้น ซึ่งนักการเมือง พรรคการเมือง หรือ นปช. ทำไม่ได้ ไม่มีใครเชื่อฟัง ดังนั้นอย่ามาโยนความผิดให้กัน
นายจตุพรระบุว่า มีบางกลุ่มระบุถึงการเลือกตั้งในอนาคตจะเกิดขึ้นในปี 2560 หรือมากกว่านั้น ตนเองไม่ลำบากใจเลย ถ้าต้องการอยู่ยาวก็อยู่ไป หากร่าง รธน. ไม่เป็นประชาธิปไตยแล้ว ไม่จำเป็นต้องมีเลือกตั้ง เพราะไม่ต้องการฝากอนาคตไปเอาดาบหน้าอีกแล้ว
"สัจธรรมของรัฐธรรมนูญบอกว่า คนเรียนสูงสุดก็โง่ได้เพราะไม่ใช้สติ และเป็นเรื่องที่ไม่สัจจะต่อกันเท่านั้น เรื่องนี้ไม่ได้ต่อสู้กับศัตรู แต่เป็นเรื่องของหมู่คณะตัวเองทั้งนั้น เมื่อคนนอกยังได้ยิน แล้วคนในไม่ได้ยินเหรอ บางคนอธิบายความผิดให้คนอื่น เพราะสิ่งที่เกี่ยวข้องไม่ใช่พรรคการเมืองใดมีอิทธิพลเหนือ 135 คน แต่เป็นคนในทั้งนั้น ทั้งที่รู้กันอยู่ จึงต้องด่าคนอีกฝั่ง"
ส่วนการแก้ปัญหาเศรษฐกิจนั้น นายจตุพร กล่าวว่า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ ไม่ได้เก่งกว่า ม.ร.ว.ปรีดียาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจที่ถูกปรับออกจากรัฐบาลเลย เพียงแต่คนยังตื่นเต้นกับนายสมคิดที่มาใหม่เท่านั้น ทั้งๆที่ได้อยู่ร่วมกับรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มาตั้งแต่ต้นแล้ว
นอกจากนี้ มีการกล่าวหานโยบายประชานิยมเป็นสิ่งผิด นายสมคิดก็ต้องผิดไปด้วยเพราะมีส่วนในนโยบายนี้มาตั้งแต่สมัยรัฐบาลพรรคไทยรักไทย อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่าการแก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่เกี่ยวข้องกับใช้ชื่อนโยบายประชานิยมหรือไม่ประชานิยม เพราะปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่ได้เกี่ยวกับชื่อ แต่เกิดจากวิธีการ รูปแบบการทำงาน และที่สำคัญคือ การปกครองที่เป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้
นายจตุพร ยกปัญหาข้าราชการไม่กล้าเบิกงบประมาณว่า เกิดจากกลัวการเรียกเก็บค่าเปอร์เซ็นต์งาน เพราะไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต การคอรัปชั่นของข้าราชการมีโทษถึงประหารชีวิต ดังนั้น ข้าราชการจึงขอเป็นปู่โสมเฝ้าทรัพย์ดีกว่า

 
Top