รอยเตอร์ส ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน อยาตอลลาห์ โคไมนี ประกาศเรียกร้องให้ชาติมุสลิมร่วมกันกดดันให้ซาอุดิอาระเบียรับผิดชอบต่อเหตุการณ์เหยียบกันตายระหว่างประกอบพิธีฮัจญ์
"แทนที่จะโทษนั่นโทษนี่ซาอุดิอาระเบียควรรับผิดชอบและขอโทษต่อชาวมุสลิมและญาติของผู้เสียชีวิต" โคไมนีกล่าว พร้อมกันนี้ เจ้าหน้าที่ของอิหร่านยังอ้างว่าจำนวนผู้เสียชีวิตที่แท้จริงเกินกว่าพันรายไปแล้ว
รายงานก่อนหน้านี้จากเอเอฟพีซาอุดิอาระเบียได้เพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่เพื่อดูแลสถานการณ์ระหว่างการประกอบฮัจญ์เป็นวันสุดท้ายเมื่อวานนี้(26กันยายน)หลังเกิดเหตุโศกนาฏกรรมจากการเบียดเสียดกันจนมีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก
นายคาลิดอัล-ฟาลีห์รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของซาอุดิอาระเบียได้ประกาศตัวเลขผู้เสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นจากเดิม 717 ราย เป็น 769 ราย ขณะที่ยอดผู้ได้รับบาดเจ็บเพิ่มจาก 863 คน เป็น 934 คน ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุการณ์หายนะครั้งที่ร้ายแรงที่สุดในการแสวงบุญของชาวมุสลิม
กระทรวงมหาดไทยของซาอุดิอาระเบียกล่าวว่าทางการได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า1แสนนายเข้าไปดูแลเหตุการณ์ระหว่างการประกอบพิธีฮัจญ์ซึ่งผู้แสวงบุญหลายคนโทษตำรวจว่าเป็นต้นเหตุของโศกนาฏกรรมจากการสั่งปิดถนนและการจัดการผู้คนจำนวนมหาศาลอย่างไม่มีประสิทธิภาพท่ามกลางสภาวะอากาศร้อนจัด
ด้านอัยการสูงสุดของอิหร่านนายอิบราฮิมเรอิซีได้ออกมาโจมตีซาอุดิอาระเบียว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่เพียงแสดงให้เห็นถึงการไร้ความสามารถแต่ถือเป็นการก่ออาชญากรรมต่อผู้คนด้วย
สื่ออิหร่านรายงานว่ารัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรมนายอาลีจานาติและคณะเตรียมเดินทางไปยังซาอุดิอาระเบียเพื่อติดตามสถานการณ์ของชาวอิหร่านอีก344คนที่สูญหาย
อย่างไรก็ดีผู้นำศาสนาของซาอุดิอาระเบีย ชีค อับดุล อาซิซ อัล-ชีค ได้กล่าวกับมกุฏราชกุมารแห่งซาอุดิอาระเบีย เจ้าชายโมฮัมหมัด บิน นาเยฟซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการการจัดงานพิธีฮัจญ์ ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวมิได้อยู่ในความรับผิดชอบของพระองค์ เนื่องจากเป็นเรื่องที่เหนือความควบคุมของมนุษย์
"เคราะห์กรรมและโชคชะตาเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้"ผู้นำศาสนาของซาอุดิอาระเบียกล่าว
ที่มา มติชนออนไลน์