วันที่ 24 ก.ย. 58 วทันยา วงษ์โอภาสี และบริษัท NEWS หรือชื่อเดิม SLC ยืนยันไม่เจรจากับ สุทธิชัย หยุ่น และกลุ่ม NATION จากกรณีบริษัท NEWS หรือชื่อเดิม SLC ได้แจ้งความต่อพนักสอบสวนให้ดำเนินคดีกับ นายสุทธิชัย หยุ่น กับพวกรวม 5 ราย ได้แก่ นางสาวดวงกมล โชตะนา นายจักรกฤษ เพิ่มพูน บริษัทกรุงเทพธุรกิจมีเดีย จำกัด และนายนิติราษฎร์ บุญโย ในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาและร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่จะทำให้เกิดความเสียหายต่อผู้อื่น และต่อมาอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญาธนบุรีได้มีคำสั่งฟ้องผู้ถูกกล่าวหาทุกคน ยกเว้น นายนิติราษฎร์ ในข้อหาร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่จะทำให้เกิดความเสียหายต่อผู้อื่นหรือประชาชน
และอีกคดีที่บริษัท NEWS ได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับ นายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ กับพวก อันได้แก่ บริษัทกรุงเทพธุรกิจมีเดีย จำกัด นายจักรกฤษ เพิ่มพูน น.ส.ดวงกมล โชตะนา และ นายนิติราษฎร์ บุญโย เช่นเดียวกับคดีแรก ในข้อหาร่วมกันหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ซึ่งในคดีดังกล่าวนี้พนักงานอัยการมีความเห็นว่าควรสั่งฟ้องผู้ถูกกล่าวหาทุกคน ตั้งแต่วันที่ 8 กรกฎาคม 2558 แต่ในท่ีสุดพนักงานอัยการได้ดำเนินการส่งฟ้องศาล นายอดิศักดิ์ กับพวกในวันนี้ (24 ก.ย. 2558)
นางวทันยา วงษ์โอภาสี กรรมการบริษัท NEWS หรือชื่อเดิม SLC และภรรยา นายฉาย บุนนาค ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “ต้องขอขอบคุณกระบวนการยุติธรรมชั้นต้นที่ได้กรุณานำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาของศาล เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงว่าการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนนั้นจะต้องกระทำด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม ไม่ใช่มีเรื่องขัดแย้งกันในเรื่องประโยชน์ส่วนตนแล้วใช้ฐานะความเป็นสื่อมวลชนที่มีสื่ออยู่ภายใต้การบริหาร มากล่าวหา และทำลายชื่อเสียงของบุคคลอื่นให้เสียหาย ดังนั้นการที่บริษัท NEWS นำเรื่องนี้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมก็เพื่อที่จะขอความกรุณาต่อศาลให้มีคำพิพากษาเพื่อที่จะเป็นบรรทัดฐานของการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนที่ดีต่อไป”
ส่วนเรื่องกีดกันและริดรอนสิทธิ์ไม่ให้ผู้ถือหุ้นเข้าประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 29 เมษายน 2558 นั้น นางวทันยากล่าวว่า “นโยบายของ กลต. คือการยกระดับตลาดทุนไทยไปสู่สากล แต่ปัจจุบันเป็นเวลากว่า 150 วัน ที่การกระทำที่น่าอับอายและทำลายภาพลักษณ์ตลาดทุนไทยให้ถดถอย ยังเป็นที่ลอยนวล เราคงต้องรอความยุติธรรมจากหน่วยงานอื่น คงทนรอ กลต. ไม่ไหว เพราะความผิดครั้งนี้ของกลุ่มกรรมการและผู้บริหาร NMG เป็นความผิดที่ชัดเจนและโจ่งแจ้ง มิได้มีความซับซ้อนแต่อย่างใด กลต. มีหน้าที่ควรให้ความเป็นธรรมที่เท่าเทียมกัน อย่ากลัวในการกระทำสิ่งที่ถูกต้อง อย่าได้ยำเกรงผู้บริหารบริษัทมหาชนในคราบสื่อสารมวลชน เพราะหากไม่ลงโทษเนชั่นก็อาจเป็นการชี้นำให้บริษัทจดทะเบียนอื่นเอาเป็นเยี่ยงอย่างได้”
ส่วนเรื่องเจรจากกับทางเนชั่นนั้น นางวทันยาได้กล่าวย้ำชัดเจนว่า “หลักการของเราคือจะไม่มีการเจรจา หรือยอมความ หรือถอนคดีแต่อย่างใด”
Source : FB