เนเธอร์แลนด์ ดินแดนแห่งนักกินชีสตัวสูงโย่ง
ชาวดัตช์ได้ชื่อว่าเป็นชนชาติที่นิยมบริโภคผลิตภัณฑ์นมและชีสอย่างแพร่หลายและในปริมาณมาก ทำให้ปัจจุบันพวกเขากลายเป็นหนึ่งในชนชาติที่มีส่วนสูงมากที่สุดในโลก ซึ่งเบน โคทส์ อธิบายเรื่องนี้ไว้ในหนังสือเล่มใหม่ที่เล่าเรื่องเกี่ยวกับเนเธอร์แลนด์ ว่า วัฒนธรรมการบริโภคชีสและผลิตภัณฑ์จากนมของชาวดัตช์ น่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยเพิ่มความสูงให้แก่พวกเขา
โคทส์ บอกว่า นมกลายเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมแพร่หลายในเนเธอร์แลนด์ในยุคที่น้ำดื่มสะอาดขาดแคลน ดังนั้นนมที่เหลือจากการบริโภคจึงถูกนำไปแปรรูปเป็นเนยหรือชีสเรื่อยมา จนถึงช่วงศตวรรษที่ 20 ที่ชาวดัตช์ นิยมบริโภคผลิตภัณฑ์จากนมอย่างแพร่หลาย จนกลายเป็นอาหารหลักที่คนส่วนใหญ่รับประทาน และยังเป็นอุตสาหกรรมส่งออกสำคัญที่สร้างรายได้ให้แก่ประเทศ
ปัจจุบันเนเธอร์แลนด์มีโคนมกว่า 1.6 ล้านตัว หรือคิดคร่าวๆเท่ากับจำนวนโคนมในเบลเยียม, เดนมาร์ก และสวีเดนรวมกัน โดยอุตสาหกรรมฟาร์มโคนมเกือบ 18,000 แห่งในเนเธอร์แลนด์ผลิตน้ำนมปีละกว่า 12 ล้านตัน และชีสอีกราว 800,000 ตันส่งไปจำหน่ายทั่วโลก คิดเป็นมูลค่าปีละเกือบ 300,000 ล้านบาท
ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า อุตสาหกรรมส่งออกผลิตภัณฑ์จากนมของเนเธอร์แลนด์อาจขยายตัวกว่านี้ หากชาวดัตช์ไม่เก็บผลิตภัณฑ์เหล่านี้ไว้บริโภคเองในประเทศมากเท่าในปัจจุบัน ซึ่งโดยเฉลี่ยชาวดัตช์บริโภคผลิตภัณฑ์จากนมมากกว่าคนอังกฤษ, อเมริกัน หรือเยอรมัน ถึง 25%
แม้คนจำนวนไม่น้อยจะคิดว่า การรับประทานผลิตภัณฑ์เหล่านี้มากๆจะทำให้อ้วน แต่ที่จริงแล้วกลับพบว่า ชาวดัตช์มีส่วนสูงเพิ่มขึ้น โดยในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 ชาวดัตช์มีส่วนสูงเฉลี่ยราว 163 ซม. เตี้ยกว่าคนอเมริกัน 7.5 ซม. แต่ในช่วง 150 กว่าปีที่หันมาบริโภคชีสอย่างแพร่หลาย ทำให้ปัจจุบันพวกเขาเปลี่ยนจากหนึ่งในชนชาติที่เตี้ยที่สุดในยุโรปมาเป็นหนึ่งในผู้ที่มีส่วนสูงมากที่สุดในโลก โดยผู้ชายดัตช์มีส่วนสูงเฉลี่ยกว่า 183 ซม. ส่วนผู้หญิงมีความสูงราว 170 ซม.
นักวิทยาศาสตร์ได้ถกเถียงถึงสาเหตุที่ทำให้ชาวดัตช์มีส่วนสูงเพิ่มขึ้น และพบว่า หนึ่งในปัจจัยสำคัญน่าจะมาจากการรับประทานผลิตภัณฑ์จากนม โดยพบว่า ชาวต่างชาติที่อพยพเข้าไปอยู่ในเนเธอร์แลนด์มักมีส่วนสูงมากกว่าคนในประเทศบ้านเกิดของตน