ศาลสูงอิตาลีเผย เบื้องหลังการสอบสวนคดีฆาตกรรมดังผิดพลาดร้ายแรง เป็นเหตุพิพากษาให้จำเลย "อแมนดา น็อกซ์" พ้นผิด
ศาลอุทธรณ์สูงสุดของอิตาลี เผยแพร่คำชี้แจงกรณีที่พิพากษาให้ อแมนดา น็อกซ์ นักศึกษาชาวอเมริกัน และนายราฟฟาเอล ซอลเลซิโต แฟนหนุ่มชาวอิตาลี พ้นผิดจากคดีฆาตกรรม เมเรดิธ เคิร์ชเชอร์ นักศึกษาหญิงชาวอังกฤษ ระหว่างที่ทั้งหมดศึกษาอยู่ในเมืองเปรูจาของอิตาลี เมื่อปี 2007
ก่อนหน้านี้ ตำรวจและอัยการของอิตาลีตั้งข้อหาว่า น็อกซ์และซอลเลซิโตร่วมกันทำร้ายและฆ่าปาดคอเคิร์ชเชอร์ ระหว่างที่ทั้งสามมีเพศสัมพันธ์กัน แต่จากการพิจารณาหลักฐานประกอบคดีแล้ว พบว่าเจ้าหน้าที่สืบสวนและอัยการได้กระทำ "ผิดพลาดอย่างร้ายแรง" หลายกรณีในการเร่งค้นหาพยานหลักฐานมากเกินไป เนื่องจากมีแรงกดดันจากการที่คดีนี้เป็นคดีดังระดับนานาชาติ
คำชี้แจงของศาลยังระบุว่า แท้จริงแล้วไม่พบร่องรอยทางชีวภาพใดๆ ของจำเลยทั้งสองในสถานที่เกิดเหตุเลย ส่วนหลักฐานที่นำเสนอต่อศาล เช่นมีดที่ใช้ฆาตกรรม และตะขอเกี่ยวเสื้อชั้นในของผู้ตายที่ว่ามีดีเอ็นเอของนายซอลเลซิโตอยู่นั้น ปรากฏว่ามีเหตุที่น่าสงสัยในภายหลังว่า มีการจัดเก็บไม่ถูกต้อง และมีการปนเปื้อนดีเอ็นเอของคนจำนวนมากมาก่อน
ทั้งนี้ ในเวลาต่อมา ตำรวจได้จับกุมตัวนายรูดี้ เกอเด ชาวอิตาลีเชื้อสายไอวอรี่โคสต์ ซึ่งมีหลักฐานมัดตัวเขาว่า บุกเข้าไปในห้องพักของเคิร์ชเนอร์แล้วลงมือทำร้ายทางเพศและฆาตกรรม โดยศาลพิพากษาให้เขาต้องโทษจำคุก 16 ปี
ภาพประกอบ อแมนด้า น็อกซ์ (ซ้าย) และราฟฟาเอล ซอลเลซิโต (ขวา)