0

เบื้องลึกเบื้องหลัง-ประวัติของ 6 ‘นายพล-ผู้พัน’ ที่เข้ามาจัดตั้ง ‘มูลนิธิราชภักดิ์’ เพื่อเป็นศูนย์กลางในการร่วมสมทบทุนในการก่อสร้างถาวรวัตถุ อาคาร สิ่งปลูกร้างรวมถึงการดูแลและบำรุงรักษาอุทยานราชภักดิ์ ตามที่ระบุไว้ในวัตถุประสงค์ของมูลนิธิฯ


พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ประธานกรรมการฯ (ปัจจุบันเป็น รมช.กลาโหม)

ลูกหม้อนายทหารฝ่าย ‘บูรพาพยัคฆ์’ อย่างแท้จริง เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 14 (ตท.14) รับตำแหน่งครั้งแรกเมื่อปี 2521 เป็นผู้บังคับหมวดกองร้อยอาวุธเบา กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ ก่อนจะไต่เต้าขึ้นมากระทั่งในปี 2545 ขึ้นเป็นผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ ปี 2553 เข้าไลน์เตรียมเป็น ‘5 เสือ ทบ.’ ด้วยการขึ้นเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 ก่อนเข้าสู่ตำแหน่งเสนาธิการทหารบก และรองผู้บัญชาการทหารบกในปี 2555-2556 และสุดท้ายได้นั่งเก้าอี้ ผบ.ทบ. ในปี 2557 ด้วยการรับไม้ต่อจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)

สำหรับ ‘บิ๊กโด่ง’ ได้รับความไว้วางใจจาก ‘3 ป.’ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ (รองนายกฯ) พล.อนุพงษ์ เผ่าจินดา (รมว.มหาดไทย) และ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นอย่างมาก ในฐานะรุ่นน้องบูรพาพยัคฆ์ และเคยร่วมรบในสมรภูมิตาพระยา จ.สระแก้ว เคียงบ่าเคียงไหล่ ‘บิ๊กตู่’ มาแล้ว ทั้งนี้ภายหลัง คสช. รัฐประหาร ได้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ คสช. ที่รับผิดชอบเรื่องการกลั่นกรองวาระงานต่าง ๆ

พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รองประธานกรรมการฯ (ปัจจุบันเป็น รมช.ศึกษาธิการ)

เป็นอีกหนึ่งนายทหารที่เติบโตมาจากกองทัพภาคที่ 3 ได้รับความไว้วางใจจาก พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 14 (รุ่นเดียวกับ พล.อ.อุดมเดช) ได้รับการแต่งตั้งเป็น ผู้บังคับการกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 17 เมื่อปี 2536 ไต่เต้าขึ้นมาเรื่อย ๆ กระทั่งปี 2551 เป็นรองแม่ทัพภาคที่ 3 ปี 2556 เป็นรองเสนาธิการทหารบก ปี 2557 เป็นหัวหน้าคณะนายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำตัวผู้บังคับบัญชา

ส่วนสาเหตุที่ได้ดำรงตำแหน่ง รมช.ศึกษาธิการนั้น ว่ากันว่า เกิดจากที่ พล.อ.สุรเชษฐ์ ไม่ได้ขึ้นดำรงตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 3 เพราะต้องหลีกทางให้ ‘บิ๊กทหาร’ รายหนึ่งขึ้นเป็นแทน ทำให้ไม่ได้เติบโตเข้าสู่ไลน์ ‘5 เสือ ทบ.’ พล.อ.ประยุทธ์ จึงปลอบใจด้วยการให้มาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีแทน

พล.อ.พิสิทธิ์ สิทธิสาร กรรมการฯ (ปัจจุบันเป็นเสนาธิการทหารบก (เสธ.ทบ.))

นักเรียนเตรียมทหารรุ่น 17 เพิ่งได้รับการโปรดเกล้า ฯ ตำแหน่งเป็น พล.อ. ช่วงปี 2558 ภายหลัง คสช. รัฐประหาร และปัจจุบันเป็น ผอ.ศูนย์ปรองดองของ คสช. ว่ากันว่า ถูกวางตัวให้จ่อคิวเข้าไลน์ ‘5 เสือ ทบ.’ แล้ว เนื่องจาก เป็นน้องรักของ พล.อ.ประวิตร และเป็นแคนดิเดตชิงตำแหน่ง ผบ.ทบ. ในอนาคตด้วย

พล.ท.สุทัศน์ จารุมณี กรรมการฯ (ปัจจุบันเป็นรองเสนาธิการทหารบก)

ลูกหม้อจากกองทัพภาคที่ 3 อีกคนหนึ่ง เคยมีประเด็น ‘ดราม่า’ เมื่อช่วงปี 2555-2556 เนื่องจาก โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กวิพากษ์วิจารณ์ ‘นาย’ ในกองทัพภาค 3 ทำให้เส้นทางทหารที่เหมือนจะสดใส ถูกเบรกไว้ทันที และถูกโยกมาเป็น ‘นายพลตบยุง’ ดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก แทนที่จะได้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 7 (ผบ.พล.ร. 7) เนื่องจาก ขณะนั้นผู้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหมชื่อ ‘บิ๊กเล็ก’ พล.อ.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน อดีตแม่ทัพภาคที่ 3 เข้ามาเป็นปลัดฯในโควตาพรรคเพื่อไทย อย่างไรก็ดี ต่อมา ‘บิ๊กตู่’ ได้คืนความสุขให้กับ พล.ท.สุทัศน์ ด้วยการโยกให้มาเป็น ผบ.พล.ร. 7 จนได้

พล.ต.ชูชาติ สุกใส กรรมการและเหรัญญิก (ปัจจุบันเป็น เจ้ากรมการเงินทหารบก)

ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ โปรดเกล้า ฯ เลื่อนยศเป็น พล.ต. เมื่อเดือน ส.ค. 2558 ก่อนหน้านี้เติบโตมาในสายงานกรมการเงินทหารบก เป็นรองผู้บัญชาการโรงเรียนทหารการเงิน กรมการเงินทหารบก เมื่อปี 2556-2558

พันเอก สุชาติ พรมใหม่ กรรมการและเลขานุการ (ปัจจุบันมียศเป็น พลตรี เป็นผู้บังคับการ ร.11 รอ.)

เป็นแกนนำนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 27 เคยเป็นนายทหารฝ่ายเสนาธิการของ พล.อ.อุดมเดช เรียกได้ว่าเป็น ‘มือขวา’ และเป็นนายทหารคนสนิทที่ ‘บิ๊กโด่ง’ ไว้ใจมากที่สุด เติบโตจาก ร.31 รอ. และเป็นลูกหม้อของ พล.1 รอ. ก่อนที่จะถูกย้ายมาคุมกำลังเป็นผู้บังคับการ ร.11 รอ.


แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

 
Top