0


พูดง่ายๆนะว่าผมงงมากเรื่องจับ 6 อาจารย์มหาลัยไม่ใช่ค่ายทหาร
พวกเขาเองเล่นอะไรกันก็ไม่รู้ เรื่องอุทยานราชภักดิ์ "ผู้การโจ้" ผบ.โด่ง ตอนเขียนเมื่อวานยังไม่มีข่าวแจ้งจับเสธโต แต่มีเด้ง ผบช.สันติบาล ลือเด้งผู้การกองปราบ ซึ่งมันประหลาด
เรื่องพวกตัววุ่นไม่พอ วกมาเล่นงานนักวิชาการ ทั้งที่เรื่องเย็นไปนานเป็นเดือน แล้วมาเอ่ยวาจาโดนยิงโดนระเบิด มันมีเรื่องไม่พอหรือไงหว่า หาเรื่องใส่ตัวจริง
จริงๆนะ ตอนที่ประยุดตั้งสมคิด กระตุ้นเศรษฐกิจ ผมแทบจะ(แอบ)ถอดใจ รู้ว่าไม่ประสบมรรคผลหรอก แต่ระยะสั้น 6 เดือน มันทำให้ดูดีได้ เพราะสื่อ นักเศรษฐศาสตร์ ภาคธุรกิจ ตลาดทุนตลาดเงิน อยากได้ข่าวดี ก็ช่วยกันโห่ร้องคล้องคอไป เศรษฐกิจมันเรื่องของจิตวิทยา สมคิดจึงขายได้ แต่ไม่น่า่เชื่อว่าอยู่ๆ พวกเขาจะมาสะดุดขากันเองเรื่องราชภักดิ์ เมื่อรวมกับไอ้พวก กรธ.สปท.บ๊องๆ ไอ้พวกที่เคยคิดว่า 6 เดือนจะผ่านสะดวก ดูท่าไม่ใช่แล้ว ยัง ยังไม่พังง่ายหรอกแต่อาการหนัก

00000

สถานการณ์การเมืองกำลังขมึงเกลียว-อย่างไม่มีเหตุผล จริงๆ นะ มันน่างุนงงสำหรับคนสังเกตติดตาม
รัฐบาลไม่ได้ทำอะไรพลาดทางเศรษฐกิจ ตั้งแต่เปลี่ยนเป็นทีมสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ใครจะบอกว่านโยบายถูกหรือผิดก็ตาม แต่ในสถานการณ์เฉพาะกิจ “ขายได้” เมื่อวันจันทร์ฟังนายกฯ พูดกับนักลงทุน วาดอนาคต “รวยเละ” จากนโยบายให้สิทธิประโยชน์ แม้เห็นต่างก็ยังเคลิ้มตามไป จริงๆ นะ ประเทศไทยหลังยุคทักษิณ ก็มีแต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นี่ละเอาจริงกับการ “ยกเครื่อง” กระตุ้นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย
กระนั้นก็อย่างที่ตัวเลข BOI ฟ้อง ปี 57 ส่งเสริมไปเกือบ 9 แสนล้านลงทุนจริง 38% ปี 58 แทบจะไม่ลงทุนเลย แม้ปัจจัยหลักมาจากเศรษฐกิจโลก แต่ใครบ้างเชื่อมั่นการเมืองไทย
คสช.เข้มแข็งยิ่งใหญ่ แต่ตราบใดที่ไม่สามารถหา “ทางลง” ไม่สามารถร่างรัฐธรรมนูญที่ทุกฝ่ายในสังคมพอจะตกลงกันได้ อนาคตประเทศก็อยู่ใต้เครื่องหมายคำถาม ไม่รู้จะเกิดอะไร เวลายิ่งงวดเข้าไป คณะกรรมการยกร่างบอกว่าจะสรุปร่างแรกปลายมกรา ร่างสุดท้ายปลายมีนา
ดูทีแรกก็ไม่น่ามีปัญหา กองทัพมีเสถียรภาพเป็นปึกแผ่น มีอำนาจเหนือทุกฝ่าย ขอเพียงใช้อำนาจเป็น รู้จักต่อรอง รู้จักผ่อนคลาย ไม่เอาดังใจเสียหมด ก็น่าจะประคองไปได้ สังคมไทยเป็นเช่นนี้เสมอ
แต่ไปๆ มาๆ ไม่รู้เกิดอะไร จู่ๆ ก็มีกรณีอุทยานราชภักดิ์ ซึ่งไม่ได้มาจากฝ่ายต่อต้านฝ่ายนักการเมืองที่ไหน โถ ใครจะมีอำนาจไปเล่นงาน ไปแจ้งจับ หรือไปบังคับให้พูดว่ามีหัวคิว ก็มาจากผู้มีอำนาจกันเองนั่นแหละ จนบานปลายอื้อฉาวใหญ่โต (แล้วยังพยายามจะโทษฝ่ายตรงข้าม บอกให้หยุดขุดคุ้ย เดี๋ยวตกเป็นเครื่องมือฝ่ายตรงข้าม)
ราชภักดิ์ฝุ่นยังไม่จาง ยังมาวิวาทะนักวิชาการ กรณีแจ้งจับแถลงข่าว “มหาวิทยาลัยไม่ใช่ค่ายทหาร” ซึ่งแถลงตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคม ด้วยข้อหา “ไร้สาระ” มากคือรวมตัวเกิน 5 คนผิดประกาศคำสั่งรัฐประหาร ซึ่งก็มีคนทำมามากมายแต่ไม่ยักมีใครโดน เพิ่งมาโดน
แถมยังโดนนายกฯ ตอบโต้ด้วยอารมณ์ ซึ่งไม่เข้าใจอีกเหมือนกันว่าท่านจะตอบโต้ให้อุณหภูมิร้อนแรงไปทำไม
มองปัจจัยหลายๆ ด้าน เหมือนมีสัญญาณ “ไม่ราบรื่น” ทั้งที่ คสช.แข็งปั๋ง ฝ่ายต่อต้านรึ มีกำลังไปสู้รบปรบมือกับท่านที่ไหน พรรคเพื่อไทยจะบีบก็ตายจะคลายก็รอด ผู้เรียกร้องประชาธิปไตยก็มีแค่หยิบมือ แม้แน่ละ มีเลือกตั้งเมื่อไหร่สามารถฟื้นพลังมวลชนขึ้นเคลื่อนไหวใหม่ แต่ภายใต้อำนาจ คสช.ไม่มีใครโค่นท่านได้หรอก
ทุกอย่างอยู่ที่ คสช.เองทั้งสิ้น จะคงเอกภาพอย่างไร จะดำเนินยุทธศาสตร์แบบไหน จะร่างรัฐธรรมนูญอย่างไรให้ประชาชนพอรับได้ ไม่ใช่พากันเข้ารกเข้าพงไร้เหตุผล จนถูกต่อต้าน เช่นอ้างว่าวุฒิสมาชิกจากเลือกตั้งไม่ปลอดการเมือง ต้องใช้วิธีสรรหาจากคนส่วนน้อย ต้องได้คนดี 100% ไม่เอาสภาผัวสภาเมีย โถ แล้วที่ตั้งลูกตั้งญาติกินเงินเดือน สภาอะไร
ใครที่เชื่อว่าถ้ารัฐธรรมนูญไม่ผ่านอีกทีก็ดี คสช.จะได้อยู่นานๆ น่าจะเห็นแล้วว่าไม่ง่าย อุบัติเหตุทางการเมือง การสะดุดขาตัวเอง เกิดได้เสมอ ทางที่ดีต้องรีบหาทางลง หาทางออกที่เหมาะสมก่อนสายเกินไป

                                                                                                        ใบตองแห้ง
source :- FB Atukkit Sawangsuk & http://www.kaohoon.com/online/content/view/25005

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

 
Top